ทีมข่าว นปช.
3 กุมภาพันธ์ 2557
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว ชั้น 6 กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว"เกาะติดสถานการณ์พิเศษหลังการเลือกตั้ง"
โดยวันนี้ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวถึง การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ผ่านพ้นมาได้เป็นอย่างดี ทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 50 % กปปส. อย่าดีใจไปว่า ส่วนที่เหลือเป็นมวลชน กปปส. เพราะปกติก็มีคนนอนหลับทับสิทธิ์ 30 % และไม่ได้หมายความว่า20% ที่เหลือเป็นมวลมหาประชาชนเช่นกัน เพราะคนเหล่านี้ อาจจะไม่อยากออกจากบ้านหรือมีเหตุผลอื่นโดยเฉพาะในเรื่องการปิดกั้นการเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องชื่นชมคนใน กทม. 26 %ที่ออกมาเลือกตั้งเพราะต้องฝ่ากระสุน และความกลัวออกม ทั้งนี้ขอเรียกร้อง กกต.ว่า นอกจากจะจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 23 ก.พ. แล้วจะต้องจัดการเลือกตั้งในเขตในพื้นที่ที่จัดการเลือกตั้งไม่ได้ทั้งหมด ไม่ควรจะช้าเกินไป ถ้าเป็นไปได้ควรจัดการเลือกตั้งภายในเดือนก.พ.หรือไม่ช้าไปกว่าเดือน มี.ค. นี้ อย่าลากไปจนถึงสงกรานต์เลย เพราะคนอยากรื่นเริงขึ้นศักราชใหม่ให้เป็นชัยชนะของประชาชนไทย
ประธานนปช. มั่นใจว่าความรุนแรงที่แยกหลักสี่ เกิดจากการกระทำของม๊อบของนายสุเทพ เพราะผู้บาดเจ็บคือผู้ไปทวงสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด แกนนำม๊อบอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณจึงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ อีกทั้งยังมีการปรากฏภาพชัดเจนว่า มีการขับรถพุ่งชนประชาชนและโยนอาวุธคล้ายระเบิดออกมาก่อน จากนั้นก็ตามมาด้วยผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงประชาชน ด้วยท่วงท่าชำนาญการมีการชิ้เป้าและยิงคุ้มกัน ทั้งที่ประชาชนผู้สนับสนุนการเลือกตั้งไปตัวเปล่า จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยิงตอบโต้ตามที่ รองโฆษกกองทัพบกระบุ จึงเรียกร้องให้กองทัพตรวจสอบการข่าวให้ชัดเจน ไม่ควรแถลงข่าวเข้าข้างม๊อบของนายสุเทพ
ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะที่หลักสี่คนที่จับอาวุธทุกคนมีลักษณะเป็นมืออาชีพ เป็นการจับอาวุธของคนที่ผ่านการฝึกมา ไม่ใช่การจับอาวุธของโจรผู้ก่อการร้าย เชื่อได้ว่าผ่านการฝึกมาอย่างดี แต่ตนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าหน่วยงานใด การที่กองทัพออกมาปฏิเสธ ตนขอกราบเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ว่าก่อนจะให้ข่าวอะไรควรจะตอบสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่าเป็นเจ้า หน้าที่หรือไม่และอยู่หน่วยงานไหน วันนี้สังคมกังขาว่ายังมีเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ ปะปนอยู่ในมวลชน กปปส.หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่านายทหารบางคนไปรับงานหรือผู้ใหญ่ส่งไปช่วย กปปส. ขอให้กองทัพมีคำสั่งเรียกคนเหล่านี้กลับหน่วย ถ้าปรากฏมีภาพของเจ้าหน้าที่คนใดไปอยู่ในม็อบขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานนั้น ดำเนินการทางวินัยและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้อย่างเร่งด่วนและเด็ด ขาด
นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหายไปอยู่ที่ไหน เพราะเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา มีคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ถูกขัดขวาง และลิดรอนสิทธิ์ แต่ไม่เห็นกรรมการสิทธิ์ออกมาตำหนิหรือดำเนินการกับคนเหล่านั้นเลย รวมทั้ง เหตุการณ์หลักสี่มีการใช้อาวุธสงคราม ปรากฏภาพเผยแพร่ไปทั่วโลก แต่แปลกที่องค์กรที่ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างกรรมการสิทธิ์ฯ ท่านไม่เห็นหรืออย่างไรเหตุใดไม่ออกมาตำหนิหรือเรียกร้องให้ กปปส.หยุดใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนด้วยกัน ขอให้ท่านออกมาทำหน้าที่ ถ้าท่านไม่ทำหน้าที่ประชาชนอาจจะเรียกร้องให้ท่านลาออกอีก
นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. กล่าวว่า วันนี้ทราบข่าวว่านายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ได้แถลงว่าจะขออนุมัติจาก กกต.ขอเปลี่ยนหน้าที่จากการดูแลการเลือกตั้งไปทำหน้าที่อื่น ขอเรียนไปยัง กกต.ให้อนุมัติโดยด่วนเพราะวันนี้ก็มีประชาชนเรียกร้องให้นายสมชัยลาออกจำนวนมาก หากไม่ดำเนินการก็จะกระทบกับกกต.คนอื่นด้วย นอกจากนั้นขอให้ กกต.ดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ออกมาขัดขวางการเลือกตั้งโดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแจ้งความดำเนินคดีและออกหมายจับกับคนเหล่านี้โดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศกับประเทศไทยเนื่องจากเลือกตั้งไม่ครบ ทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ ไม่มีฝ่ายนิติบัญญัติขึ้นมาทำหน้าที่ขอเรียนไปยังกกต.ถ้ามีความจริงใจในการแก้ปัญหาประเทศชาติ ขอให้ กกต.เร่งรัดรับสมัคร ส.ส. ทั้ง 28 เขตและจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า ขอเรียนไปยัง กปปส. และนายสุเทพให้ได้รับทราบว่าวันนี้แพ้แล้วปรากฏการณ์ที่คนจำนวนมากออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่แล้วว่า ตัวเองอาจไม่ปลอดภัยแต่ยังมีคนจำนวนมากออกไปใช้สิทธิ์ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไม่เห็นด้วยกับ กปปส. เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองนายสุเทพควรประกาศยุติการชุมนุมแล้วมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ก็แขวนคอตายตามที่ประกาศไว้ วันนี้พี่น้องคนไทยจำนวนมากมีความห่วงใยต่อการชุมนุมของ กปปส. ว่า ไปไม่รอดแล้ว จาก 2 แสนคนวันนี้เหลือไม่ถึง 1 หมื่นคน ถ้ายังนับต่อไปอาจจะเหลือแค่นายสุเทพกับแกนนำไม่กี่คนสิ่งที่น่าห่วงคือขณะนี้บริษัทต่างชาติได้ถอนการลงทุนจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ตรงนี้จะสร้างปัญหาระยะยาวถ้าต่างชาติไม่เชื่อมั่น ถ้ามีม็อบไม่กลัวกฎหมาย ใครก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ก่อความวุ่นวายและออกมาไถเงินทุกกัน เขาทนไม่ไหวสุดท้ายคนที่พังคือประเทศไทย
เช่นเดียวกับนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.ยืนยันว่าสื่อมวลชนต่างประเทศต่างนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน ยืนยันว่าเป็นการยิงจากฝั่งม๊อบของนายสุเทพ โดยยิงใส่ประชาชนฝ่ายเดียวท่ามกลางสายตาของทหารที่เห็นเหตุการณ์แต่กลับไม่มีการห้ามปราม จึงตั้งข้อสังเกตุว่าอาจรู้เห็นกันหรือไม่