นปช.แดงทั้งแผ่นดินแถลงข่าว "โต้กปปส.หลังแถลงการณ์กดดัน วุฒิสภา" 13 พ.ค. (ชมคลิป)





     นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้ต้องเรียนไปยังนายสุรชัย และส.ว.ชุดที่ได้ร่วมหารือกันนอกรอบตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ถึงวันนี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้มีสถานะตามกฎหมายใดๆ ที่องค์กรต่างๆ ในประเทศต้องปฏิบัติตาม เพราะพ.ร.ฎ.เปิดประชุมวิสามัญวุฒิสภาได้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. การหารือนอกรอบวันนี้จึงเป็นการพูดคุยของส.ว.ในกลุ่มที่ตัวเองเลือกข้างแล้ว ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นใดออกมาก็จะเป็นเพียงความคิดเห็นของ ส.ว.กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ถ้าเป็นความคิดเห็นที่ขัดต่อกฎหมายแล้ว ก็เท่ากับการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเถื่อนและมีมติเถื่อนออกมาสู่สังคม รวมทั้งการเปิดรับนายสุเทพเข้าหารือในรัฐสภา และมีท่าทีการหารือไปในทิศทางเดียวกันอย่างชัดแจ้ง เท่ากับ ส.ว.ชุดนี้มีใจเอนเอียงเข้าข้างบุคคลที่มีหมายจับเป็นกบฏในราชอาณาจักร จึงไม่มีเหตุผลที่องค์กรใดๆ จะปฏิบัติตามมติของส.ว.กลุ่มนี้
     
       นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อบ่ายวันนี้ตนได้รับการติดต่อจากตัวแทนของนายสุรชัย บอกว่าจะหารือกับนายจตุพรและตนในนาม นปช. เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย เรายืนยันว่าภาระหน้าที่ในการหาทางออกจากความขัดแย้งเป็นหน้าที่คนไทยทุกคน และนปช.จะเต็มใจที่จะหารือกับทุกฝ่ายภายใต้หลักการของรัฐธรรมนูญ แต่มีข้อสังเกตว่าทิศทางการหารือของ ส.ว.กลุ่มนี้ตัดสินใจไปแล้วว่า ประธานวุฒิสภาสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ได้ ซึ่งเราไม่เห็นด้วย และขัดกัยรัฐธรรมนูญ ชัดเจน เพราะสร้างความแตกแยกและขัดต่อหลักประชาธิปไตย รวมทั้งสถานะของนายสุรชัย ยังไม่ชัดเจนว่าขณะนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานหรือประธานวุฒิสภา เพราะมีข้อถกเถียงในการเปิดประชุมวุฒิสภาที่ผ่านมา จึงได้แจ้งว่าเราไม่อาจเข้าร่วมหารือกับนายสุรชัยและคณะในประเด็นที่ขัดต่อหลักการและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้


     
       ทั้งนี้อยากฝากไปยังนายสุรชัย ว่าถ้าจะตอบแทนนายสุเทพที่สนับสนุนรวมเสียง ส.ว.ภาคใต้ให้ได้เป็นประธานวุฒิสภา ก็น่าจะเป็นเรื่องการตอบแทนส่วนบุคคลไม่ใช่เอาประเทศชาติและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไปด้วย เราเรียนให้ทราบว่าหากข้อสรุปดังกล่าวจะนำมาสู่การทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีมาตรา 7 เราจะต่อต้านอย่างถึงที่สุด ทั้งบุคคลที่เสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีและบุคคลที่ทำหน้าที่ทูลเกล้าฯ รวมทั้งบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเพราะท่านคือภัยร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตย
     
       ส่วนการชุมนุมของเราที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.นั้น ขณะนี้ยุทธศาสตร์การต่อสู้ยังอยู่ที่การปักหลักในที่มั่น เรามีความเชื่อว่าขณะนี้นายสุเทพก็มืดมนและสิ้นหวังเต็มทีแล้ว และอีกไม่กี่วันนายสุเทพจะจนกลางกระดานเพราะไม่สามารถเสนอให้เกิดนายกฯ คนกลางได้ เป็นเพียงการแสดงสัญลักษณ์ว่าได้ยึดพื้นที่ตึกสันติไมตรีเป็นกองบัญชาการ ไม่มีความหมายอื่น และนปช.จะจัดให้มีกิจกรรมพิเศษในเช้าวันเสาร์ที่ 17 พ.ค.นี้ ในเวลา 08.00 น.เราจะร่วมมือลงแรง รวมหัวใจ เพื่อให้ถ.อักษะนี้เป็นถนนแห่งประชาธิปไตย โดยใช้พื้นที่คูคลองที่กั้นถนนตั้งแต่หน้าเวทีชุมนุมไปถึงถ.พุทธมณฑลสาย 4 ติดป้ายรณรงค์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อต่อต้านนายกเถื่อน และต่อสู้เพี่อประชาธิปไตย โดยให้มวลชนแต่ละภาครับผิดชอบตกแต่งป้าย โดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศถ่ายภาพและนำไปเสนอต่อไป
     
       อย่างไรก็ตามนี้ในเวลา 18.00 น.จะมีพิธีสดุดีและรำลึกวันครบรอบเสียชีวิต 4 ปีของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง จากนั้น 19.00 น. จะจัดงาน วิสาขบูชา ประชาธิปไตย มีพิธีสงฆ์และจุดเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา



ด้าน อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวสรุปให้ความสำคัญว่า มีข้อสังเกตุ ประการแรกระบอบอำมาตย์ที่เคยซ่อนตัวอยู่ภายใต้บ้ายชื่อระบอบประชาธิปไตย ได้แสดงตัว ณ บัดนี้ มีความพยายามจะจัดตั้งนายกฯของระบอบอำมาตย์แข่งกับนายกฯระบอบประชาธิปไตย ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเปิดเผยเป็นการแสดงตัวว่า จะมีอำนาจรัฐที่ขึ้นมาเปิดเผยต่อหน้าชาวโลกและพร้อมที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในนามของประชาชน เราถือว่าเป็นการท้าทาย อย่างใหญ่หลวง และการท้าทายนี้ เป็นการท้าทายในประวัติศาสตร์ เพราะว่ากล้าเสนอชื่อนายกฯ ในขณะที่ มีนายกฯของประชาชน อย่างถูกต้อง

อ.ธิดา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สอง ก็คือให้จับตาดูว่า กลุ่มสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อยังไม่ได้ตามประสงค์ ก็จะสร้างความรุนแรงและต้องการที่จะยกระดับเพื่อบีบบังคับเครือข่ายอำมาตย์ ให้มีการเสนอชื่อนายกฯให้ได้ เพราะฉะนั้นความรุนแรงที่จะสร้างโดย กปปส.ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องในประเทศไทย จับตาดู และสำหรับคนเสื้อแดงเราก็ให้เข้าใจ สถานการณ์มีความระมัดระวัง เขาก็มียุทธศาสตร์ของเขา เราก็มียุทธศาสตร์ของเรา เขาจะมีนายกฯของเขา เรามีนายกของเรา เขาจะมีรัฐบาลของเขา แต่ประชาชนก็มีรัฐบาลของประชาชน เพราะฉะนั้นเป็นที่น่าสนใจ ว่าสุดท้าย ความรุนแรงที่สเทพ เทือกสุบรรณจะสร้างขึ้นนั้น จะสร้างความโกลาหลให้กับประเทศไทยและเสียหายย่อยยับเพียงไร