“นปช.” ปัดขู่องค์กรอิสระตาม “ป.ป.ช.” รับฟ้อง ยันแค่ข้อเสนอแนะ

จากสำนักข่าวอิศรา วันพุธที่ 19 มีนาคม 2557 เวลา 15.24 น.

“นปช.” ปัดข้อกล่าวหาปราศรัยยุยงรุนแรง – ขู่องค์กรอิสระ ตามที่ “ป.ป.ช.” ตั้งองค์คณะไต่สวน ระบุเป็นเพียงข้อเสนอแนะจากแกนนำภูมิภาค รบ. – นายกฯ จะทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่ สวนกลับหัดรับฟังเสียงส่วนใหญ่บ้าง

จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้กล่าวหาร้องเรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรมว.มหาดไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการรมช.พาณิชย์ พร้อมกับพวกอีก 14 คน ที่ร่วมกันขึ้นปราศรัย (ยกเว้น น.ส.ยิ่งลักษณ์) บนเวที “นปช.ลั่นกลองรบ” ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งลักษณะยุยงใช้ความรุนแรง จัดตั้งกองกำลังของคนเสื้อแดง ข่มขู่องค์กรอิสระ และนายกฯกลับเพิกเฉยนั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวตอนหนึ่งถึงกรณีดังกล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช. เตรียมไต่สวนนายกรัฐมนตรี, นายจารุพงศ์ และนายณัฐวุฒิ และพวกอีก 14 คน ซึ่งอาจมีตน และนายจตุพร (ประธาน นปช.) รวมอยู่ด้วยนั้น เกิดจากวาทกรรมแบ่งแยกดินแดน และวาทกรรมของการใช้กำลังอาวุธ

นางธิดา กล่าวว่า สาระสำคัญคือ เราอยากชี้แจงว่า ในวันนั้นเราเปิดเวทีประชาธิปไตยสำหรับแกนนำ นปช. ในทุกภูมิภาคได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อ นปช.ส่วนกลาง โดยประเด็นคือแสดงความเห็นต่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ประเด็นที่สองคือแสดงความเห็นต่อ นปช. ในการปรับยุทธศาสตร์ – ยุทธวิธี ในสถานการณ์นี้ โดยข้อเสนอของแกนนำระดับต่าง ๆ ในวันนั้น เราได้รวบรวมมากลั่นกรอง และตรวจสอบดูว่ามันทำได้จริงหรือไม่

“นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พี่น้องพูดคือแนวทางนโยบายของ นปช. มันคนละเรื่องกัน นั่นคือเวทีรับฟังความคิดเห็น” นางธิดา กล่าว

นางธิดา กล่าวอีกว่า ในวันดังกล่าวนายณัฐวุฒิ ได้รวบรวมและเรียบเรียงสรุปออกมา โดยแบ่งเป็น 2 ข้อเสนอคือ 1.ข้อเสนอต่อรัฐบาล กับ พท. 11 ข้อ และ 2.ข้อเสนอต่อ นปช. 15 ข้อ โดยในส่วนข้อเสนอต่อรัฐบาล กับ พท. นั้นบางข้อเป็นเพียงข้อเสนอ เช่นที่ว่า นายกฯไม่จำเป็นต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. และให้แสดงอารยะขัดขืน หรือให้รัฐบาลพิจารณาหาสถานที่ทำงานหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นนั้น เป็นแค่ความคิดเห็นเท่านั้น รัฐบาลหรือนายกฯจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของเขา ไม่มีใครบังคับ แต่ว่าเรามีสิทธิแสดงความคิดเห็น

“ถามว่ารัฐบาลนี้จะทำหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล อันนี้เป็นความคิดของคน แล้วคุณจะบ้าหรือ ทั้งคนฟ้อง ทั้ง ป.ป.ช. ทั้งกองทัพ จะบ้าหรืออย่างไร ก็เขาคิดได้ จะปิดปากปิดจมูกประชาชนไทยทั้งประเทศหรืออย่างไร เขามีสิทธิพูด คุณก็หัดฟัง คุณชอบพูดว่ารัฐบาลไม่ยอมรับฟังเสียงส่วนน้อย อันนี้พวกคุณไม่ยอมรับฟังเสียงส่วนใหญ่เลย” นางธิดา กล่าว

นางธิดา กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อเสนอต่อ นปช. ก็ไม่มีสักข้อบอกเลยว่า ให้มีกองกำลังติดอาวุธ มีแต่บอกว่าให้จัดตั้งกองกำลังชายฉกรรจ์แต่ละจังหวัดไม่ต่ำกว่า 100 คน ความหมายคือให้มีการ์ดดูแลประชาชนเท่านั้น อย่างนี้มันผิดตรงไหน หรือที่บอกว่า ให้ชัตดาวน์องค์กรอิสระ ก็เป็นการชัตดาวน์แบบ กปปส. ซึ่งศาลแพ่งก็มีคำสั่งคุ้มครองด้วย และที่ให้รณรงค์ต่อต้านรัฐประหารเต็มรูปแบบ แปลว่า ไม่ชอบข้อนี้ใช่หรือไม่ หรืออยากทำรัฐประหาร หรืออย่างไร

“ฉะนั้นทั้งหมดนี้ มันไม่มีข้อไหนเลย ตามที่เขากล่าวหา แต่ว่านี่คือความพยายามที่จะเล่นเรื่องวาทกรรมใหม่ ก็คือแยกดินแดน สู้กำลังอาวุธ ทั้งหมดนี้ก็คือลากเราเข้ามาสู่สนามของการต่อสู้ซึ่งเขาถือว่า เขาได้เปรียบ เขามีกองกำลังอาวุธ 200,000 คน มีอาวุธเต็มรูปแบบ มาฆ่าประชาชนยังได้เบี้ยเลี้ยงอีก และได้ความดีความชอบอีก นี่คือเรื่องที่น่าเอน็จอนาจที่สุดในสังคมไทย ในยุคนี้” นางธิดา กล่าว