ประมวลภาพบรรยากาศ "นปช.ลั่นกลองรบ เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย" ณ เขาตะโล พัทยา


เมื่อวันที่ 22 มี.ค. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้มีการชุมนุมใหญ่"เคลื่อนพลประชาธิปไตย" บริเวณซอยเขาตาโล ถ.สุขุมวิท พัทยาใต้ จ.ชลบุรี




กิจกรรมแรลลี่"เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย"รอบเมืองพัทยา




กิจกรรมนปช.ภาคตะวันตก "พิธีกรรมลอยอังคารองค์กรอิสระ"


โดยทั้งนี้งานเริ่มต้นในช่วงเย็น แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดเวทีปราศรัย "เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย" โดยมีคนเสื้อแดงกลุ่ม นปช.พัทยาและภาคตะวันออกเข้าร่วม บรรยากาศคึกคัก มีการตั้งขบวนตั้งแต่บริเวณพัทยาเหนือ จากนั้นเคลื่อนขบวนโดยมีรูปแบบเป็นขบวนกลองสะบัดชัยเดินนำหน้า ตามด้วยขบวนรถคนเสื้อแดงและชาวต่างชาติที่ติดธงแดง พร้อมชูป้ายข้อความต่อต้านองค์กรอิสระ บางส่วนแต่งกายแฟนตาซี สร้างความสนุกสนานระหว่างการเคลื่อนขบวนตลอดเส้นทางยาวกว่า 5 ก.ม. นอกจากนี้ยังมีขบวนกลุ่มนักศึกษาจากหลายสถาบันร่วมเดินเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวพัทยา และให้เข้าร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย



จากนั้นแกนนำนปช. อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายวรชัย เหมะ นายนิสิต สินธุไพร ผู้อำนวยการโรงเรียนนปช.แดงทั้งแผ่นดิน นางจุรีพร สินธุไพร นปช.ภาคตะวันออก ร่วมกันนำปล่อยลูกโป่งสีดำ 2,000 ลูกแสดงสัญลักษณ์ "ไว้อาลัยให้องค์กรอิสระ" โดยมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมกว่า 50,000 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ภ.2. สภ.เมืองพัทยาและ สภ.บางละมุง กว่า 200 นาย



ทั้งนี้ นายจตุพรกล่าวว่า ขอประกาศให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินใส่ชุดดำ เพื่อต่อต้านความอยุติธรรมทั้งปวงเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นไป และวันที่ 29 มี.ค. แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดินมีภารกิจแบ่งการประชุมลับเป็น 3 จุด และกำหนดวันเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 5 เม.ย. ตนจะแถลงให้ประชาชนทราบรายละเอียดต่อไปว่าจะจัดที่ไหน อย่างไร จากนี้นปช.จะเปิดประตูทุกบานในการระดมพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยให้ออกมาต่อสู้กับเครือข่ายอำมาตยาธิปไตย



จากนั้นเวลา เวลา 19.30 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษานปช. กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เราไม่เห็นด้วยเพราะ

1.การรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินโดยศาลรัฐธรรมนูญนั้น ล้วนไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245(1) เพราะการเสนอพระราชกฤษฎีกาของรัฐบาลชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ

2.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น ถือเป็นกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ที่เป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ แต่ “วันลงคะแนน”นั้นมีหลายวันได้ ขึ้นกับสถานการณ์และสภาวะ เช่น วันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า วันลงคะแนนเลือกตั้งของคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ และวันลงคะแนนในพื้นที่ที่มีอุปสรรคต่างๆ เช่น อุทกภัย อัคคีภัย เหตุจำเป็น เหตุสุดวิสัย เหตุจลาจลเป็นต้น ซึ่งไม่อาจจะลงคะแนนในวันเลือกตั้งทั่วไปได้

อ.ธิดา กล่าวต่อว่า​ 3.การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ใช้วิธีการตัดตอนเรื่องราว ที่มา และที่ไป ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม เป็นการให้คุณกับ ผู้กระทำผิดกฎหมาย ขัดขวางการเลือกตั้งอย่างจงใจเจตนา อันได้แก่กลุ่มที่เรียกตนเองว่า กปปส. ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีเจตนาชัดแจ้งเปิดเผยว่าต้องการล้มการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และฉีกรัฐธรรมนูญโดยวิธีการอนาธิปไตย แต่ให้โทษแก่พลเมืองดีที่ใช้สิทธิหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยตามกฎหมายที่มีจำนวนกว่า 20 ล้านคน

"4.ผลของคำวินิจฉัย เป็นการทำลายหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 68 และจะเป็นบรรทัดฐานที่คนจำนวนหนึ่งสามารถทำลายการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศได้อีกในอนาคต เป็นการประจานสายตาชาวโลกว่าองค์กรอิสระ อย่างเช่น กกต. และศาลรัฐธรรมนูญขัดขวางและทำลายระบอบประชาธิปไตยเสียเอง " อดีตประธานนปช.กล่าว


ต่อมานายจตุพรปราศรัยว่า ฝ่ายอำมาตย์ประเมินคนเสื้อแดงต่ำเกินไป คิดว่าตายแล้วตั้งแต่ตอนสลายการชุมนุมปี 2553 แต่คนเสื้อแดงไม่มีวันตาย วันนี้ทำกันหมดทุกทางแล้วหรือยัง หลังจากนี้เราจะทำบ้าง การต่อสู้จะไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ประกาศขัดขวางเลือกตั้งต่อ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ท้านายกฯ ไปเจรจากับนายสุเทพก่อน ตนขอบอกให้รู้ว่าจะคุยกันอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่สามารถยกแผ่นดินให้นายสุเทพได้ และขอประกาศว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วพรรคประชาธิปัตย์ยังบอยคอตอีก ตนจะไม่ลงสมัครแล้วแต่จะนำทัพเสื้อแดงลุยพวกอำมาตย์เอง เพราะนายกฯก็ประกาศแล้วว่าขอตายในสนามประชาธิปไตย ขอให้คนเสื้อแดงออกมาต่อสู้เคียงข้างนายกฯ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มีบังเกอร์เท่าไหร่ก็ขนออกมาให้หมด เพราะไม่พอมือคนเสื้อแดง เราจะเดินไปให้ยิงด้วยมือเปล่า


นายจตุพรกล่าวว่า หากการเลือกตั้งสำเร็จและเปิดสภาได้ จะปฏิรูปองค์กรอิสระเป็นอันดับแรกให้เป็นประชาธิปไตย มีใจเป็นธรรม เคารพหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงของประชาชน และต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะด้วย หากวันนี้เราไม่สู้ก็จะเป็นขี้ข้าอำมาตย์ไปตลอดชีวิต จึงต้องลุกขึ้นมาปลดแอก กรวดน้ำคว่ำขัน ตัดญาติขาดมิตรกับอำมาตย์ตลอดไป และขอให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยใส่เสื้อสีดำให้กับคนใจดำ 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นไป



จากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ประกาศให้ฝ่ายอำมาตย์รู้ไว้ว่าพลังใหม่ของคนเสื้อแดงเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พวกคุณทำมาตลอด 4-5 เดือนนี้ ทำให้พวกเราต้องออกมารวมตัวกันกันใหม่ คนที่หายหน้าหายตากันไป 2-3 ปี มาวันนี้ก็กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของความงดงาม ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่คนเสื้อแดงออกมากันครั้งนี้ ไม่ใช่เพิ่งปลุกเสก แต่เราเป็นรุ่นพิมพ์นิยม กรุแตกมานานแล้ว ทุกคนเป็นนักรบที่เจนสนามกันทั้งหมด

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้หัวใจประชาชนแหลกสลาย พวกเราจะใช้สิทธิ์เลือกรัฐบาลให้เหมือนที่คนทั่วโลกเขาทำกันบ้างไม่ได้หรือ แต่ฝ่ายอำมาตย์ก็ยังเหยียบหน้าประชาชนอย่างไม่เห็นหัว ต่อไปนี้ไม่มีทางแล้ว เมื่อก่อนเราอาจจะยังเด็ก แต่วันนี้คนเสื้อแดงเติบโตขึ้น สวนทางกับฝ่ายอำมาตย์ ที่สมองเล็กลง กลายเป็นคนไม่มีเหตุผลกันเลย

"คนเสื้อแดงผ่านมาหมดแล้ว ทั้งปืนเอ็ม16 สไนเปอร์ รถถัง ก็ยังมีชีวิตอยู่และมีมากกว่าเดิม พวกนายสุเทพไม่มีทางชนะ เพราะชนะใจประชาชนไม่ได้ เมื่อชนะใจไม่ได้ก็ปกครองไม่ได้ การขัดขวางการเลือกตั้งเป็นการทำลายประชาธิปไตย และเป็นการทำลายความเป็นมนุษย์ด้วย พวกนายสุเทพต้องการเพียงแค่ทาสเท่านั้น" นายณัฐวุฒิ กล่าว