ทีมข่าว นปช.
17 มีนาคม 2557
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ถนนลาดพร้าว แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) แถลง โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เปิดคลิปวิดีโอที่พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่เป็นประธานนปช. ก่อนจะกล่าวว่าตลอดระยะเวลารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไร พี่น้องไม่แปลกใจหรือว่าทำไมเขาไม่ตั้งตนเป็นรัฐมนตรี ก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ แต่ไม่ถือสา พยายามประคับประคองสถานะของรัฐบาล ทั้งที่สามารถวิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ได้หลายกรณี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายทหารที่สบายที่สุด ได้รับการแต่งตั้งเป็นผบ.ทบ. ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และร่วมกับศอฉ.ปราบปรามเสื้อแดงในปี 2553 พล.อ.ประยุทธ์อาจเข้าใจว่าคนเสื้อแดงกลัว แต่คนเสื้อแดงไม่กลัวพล.อ.ประยุทธ์
ประธานนปช.กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์พยายามอธิบายว่าตนเป็นพวกผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดีมากมาย อยากบอกพล.อ.ประยุทธ์ว่าหากเราไม่เว้นกัน นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายในปี 2553 อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นนั้น ที่บอกว่าเป็นคนไร้เกียรติ ไม่มีเกียรติพอให้เจรจาด้วย ไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์มีเกียรติหรือไม่ เพราะหากมีเกียรติยศจริง หรือเป็นลูกผู้ชายจริง เหตุใดนายสุเทพ อดีตผอ.ศอฉ.จึงนำรายชื่อนายทหารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 ใน 21 จุด และมีผู้เสียชีวิต 89 ศพในขณะนั้น ส่งให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อทำคดีดักทหารเอาไว้ หากพล.อ.ประยุทธ์เป็นชายชาติทหารจริง นายสุเทพจะทำเช่นนั้นหรือ
นายจตุพรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ละอายหรือที่ให้กองกำลังทหารไปเป็นการ์ดของกปปส. พล.อ.ประยุทธ์มีเกียรติพอหรือที่จะเอากองทัพไปหนุนกลุ่มก่อการกบฏ ส่วนกรณีที่อธิบายถึงกลุ่มคนที่พยายามแบ่งแยกประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ทราบหรือไม่ว่า คนในกองทัพเป็นคนเริ่มทำป้ายแบ่งแยกประเทศ เพื่อใส่ร้ายคนเสื้อแดง การจะเป็นคนมีเกียรติยศ ต้องไม่เป็นอีแอบ หรือกรณีที่บอกว่าไปวิพากษ์วิจารณ์ศาลนั้น ศาลที่พูดถึงคือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ต้องทราบว่าเป็นศาลการเมือง สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ส่วนเรื่องสถาบันนั้น ก็เป็นเรื่องที่ศอฉ.คบคิดกันสร้างเรื่องผังล้มเจ้าขึ้นมา และสถาบันก็ไม่ได้เป็นของพล.อ.ประยุทธ์คนเดียว หากแต่เป็นของคนทั้งหมด อย่าอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์จงรักภักดีคนเดียว
เราต่างคนต่างอยู่เถอะ พล.อ.ประยุทธ์ นี่เป็นเรื่องของกระบวนการประชาชน และนปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยด้วยมือเปล่า และสันติวิธี หากพล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจเหมือนปี 2553 พวกผมจะเดินเข้าไปให้ยิงด้วยมือเปล่า เพราะถ้าทั่วโลกเห็นว่าปืนเป็นใหญ่ ไม่ใช่เสียงของประชาชน ปัจจุบันนี้ทั่วโลกคงปกครองด้วยกระบอกปืนไปแล้ว แต่ที่ทั่วโลกยังปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เพราะเขาเห็นว่าสิทธิประชาชนต่างหากที่เป็นใหญ ประธานนปช.กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า วันนี้ 6 องค์กรตามรัฐธรรมนูญเสนอให้ฝ่ายรัฐบาล และกปปส.เสนอชื่อคนกลางมาข้างละ 10 คน เพื่อหาให้ได้รายชื่อคนกลางที่ตรงกันในการเจรจานั้น แต่ละองค์กรทำงานมามาก แต่มาเสียรู้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ตอนแก่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายสมชัยชอบมีบทบาทในสื่อ ถ้าเป็น กกต.จัดการเลือกตั้งตามบทบาทหน้าที่จะหวือหวาอย่างนี้หรือ จึงออกมาเล่นนอกเส้นไปเรื่อย โดยอ้างว่าต้องการให้บ้านเมืองสงบไม่บานปลาย หลายคนพูดว่ามูลเหตุของความขัดแย้งในบ้านเมือง เพราะบางองค์กรไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย นายสมชัยจัดการเลือกตั้งตามหน้าที่หรือยังก่อนออกไปทำเรื่องอื่น ต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ชัดเจนและเข้มแข็งก่อน ท่าทีของ นปช. ชัดเจนว่าเราไม่ปฏิเสธการเจรจา แต่เรามีข้อแม้ใหญ่ 2 เรื่อง คือ 1.ต้องไม่จบโดยรัฐประหาร 2.ต้องไม่จบด้วย นายกฯ ม.7 นายกฯ คนกลาง หรือสภาประชาชนของนายสุเทพ เพราะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและอยู่ใต้กรอบของกฎหมาย ถ้าทำอย่างนั้นคือรัฐประหารและต้องเจอกับประชาชน เราไม่ได้เอาตามใจ แต่เอาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตย
“ที่เสนอมาบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลาย 5-6 องค์กร มันไม่มีกฎหมายรองรับ จะเอาอะไรไปบังคับรัฐบาลและนายสุเทพ และถ้าคนที่เสนอมาไม่ตรงกัน จะเกิดการเจรจาได้หรือไม่ ขอทำนายล่วงหน้า ถ้าทำตามที่นายสมชัยแนะนำ ความฉิบหายจะเกิดขึ้นและท่านเสียคนแน่นอน”นายณัฐวุฒิ กล่าว.
