แกนนำแดงบิดเบือนการต่อสู้ของประชาชน / ผ่าแผนของศักดินา
http://www.youtube.com/watch?v=uh5HbByX0w0&feature=youtu.be
- ประชาชนคือผู้ถูกกระทำมาโดยตลอดจากชนชั้นศักดินา โดยใช้เครื่องมือสื่อ คุก ศาล ทหาร ตำรวจ ประชาชนถูกขูดรีดทุกวินาทีอย่างแสนสาหัส แต่เขาจะมองเห็นการกดขี่-ขูดรีดอย่างหนักหรือไม่เพราะมีการบิดเบือนจากทุกฝ่าย เท่านั้นเอง
ประชาชนจัดตั้งสู้ สู่การใช้อำนาจทางตรง
ภาพและข้อความข้างต้นปรากฏในเว็บไซด์แห่งหนึ่งในชื่อของ “???” (ผมยังหาต้นตอที่แท้จริงไม่พบ ผมขอให้เจ้าของที่แท้จริงปรากฏตัว มาเผชิญหน้าผมหน่อย)
นี่คือภาพและข้อความ ของ “ผู้เป็นศัตรูของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผู้เป็นศัตรูของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผู้เป็นศัตรูของ ประธานธิดา ถาวรเศรษฐ
แต่มาในคราบของ “ความเป็นมิตร” หรือ “คนเสื้อแดง” เพื่อทำให้คนเสื้อแดงบางส่วนเข้าใจผิด หลงเชื่อและก่อให้เกิดความแตกร้าว ปั่นป่วน แตกสามัคคี ภายในขบวน ซึ่งเป็นสิ่งที่ศัตรูต้องการมากที่สุด
เพราะความสามัคคีเป็นปึกแผ่นเหนียวแน่นของคนเสื้อแดง เป็นสิ่งที่ศัตรูครั่นคร้ามที่สุด
แต่ นายคนนี้ ทำในสิ่งที่ ศัตรูไม่สามารถุทำได้ คือทำลายป้อมค่ายจากภายใน จะเรียกว่า เป็น ไส้ศึกได้ไหมครับ เรียกว่าเป็น สปายสายลับได้ไหมครับ เรียกว่าเป็นแนวที่ห้าได้ไหมครับ นี่เป็นสิ่งที่ เลวร้ายยิ่งกว่าศัตรูโดยเปิดเผยมากมาย”
การต่อสู้ทางการเมือง ของประธานธิดา ถาวรเศรษฐ ไม่ใช่ เพิ่งเริ่มต้นเข้าร่วมการต่อสู้ “ภายหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549” เท่านั้น
แต่ท่านได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้ง ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม มายาวนาน ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2514 เป็นต้นมา (ประมาณ 42 ปี) รวมไปถึงการเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็เพื่อต้องการสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมกัน ทั้ง ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางวัฒนธรรม นั่นเองครับ
ดังนั้นการ “ใส่ร้าย ว่า เราสู้เพื่อความเท่าเทียมทางการเมือง ไม่เอาทางเศรษฐกิจ” จึงเป็นการ ใส่ร้าย ที่ไม่ต่างจาก พวกกบฏสุเทพ
พวกประชาธิปัตย์ พวกเผด็จการทรราชย์ พวกอำมาตยาธิปไตย ใส่ร้าย นักต่อสู้ฝ่ายประชาธิปไตยมาอย่างยาวนานตลอด
ทั้งประธานธิดาและ นปช.แดงทั้งแผ่นดินได้ ประกาศชัดเจนตั้งแต่ปี 2551 แล้วว่า นโยบายเฉพาะหน้า ข้อที่ 4 ที่กล่าวไว้ว่า
“ผนึกการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ เข้ากับการต่อสู้ทางการเมือง โดยชี้ให้เห็นว่า การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ และทางรอดของประเทศชาติ ประชาชนไทยนั้น ต้องมาจากการเมืองที่อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน”
ศัตรูในคราบมิตรผู้นี้ ได้เคยอ่าน ได้เคยเห็นไหมครับ ปรากฏตัวมาเผชิญหน้าผมหน่อยนะครับ ศัตรูที่ชั่วกว่ากบฏสุเทพและประชาธิปัตย์
คุณกระทำความชั่ว ไม่ต่างอะไร ไปจาก ประชาธิปัตย์ จากกบฏสุเทพ จากพวกเผด็จการทรราชย์แม้แต่น้อย
แต่ที่น่ากลัวกว่าพวกศัตรูเหล่านั้น ก็คือ คุณทำตัว “เป็นคนเสื้อแดง ทำการโฆษณาใส่ร้ายผ่าน สถานีวิทยุที่ตั้งตนเป็นฝ่ายเสื้อแดง”
นายคนนี้ยัง ใส่ร้าย ประธานธิดา ถาวรเศรษฐ ต่ออีกว่า “สู้ตามกฏหมายโจร”
นี่เป็นการ “โกหกโดยสิ้นเชิง” เพราะ ประธานธิดา รวมไปถึง นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ประกาศ
เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการต่อสู้(ใหม่)ของนปช.แดงทั้งแผ่นดินภายหลัง การสังหารหมู่ประชาชนปี53 ว่า
1.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ50 และผลิตผลของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)รวมทั้งบรรดากฎหมายที่ไม่เป็นธรรมทั้งปวง
2.ยุติการรัฐประหารทุกรูปแบบให้หมดจากประเทศไทย(ก็คือทั้งรัฐประหารด้วยทหาร และรัฐประหารด้วยตุลาการภิวัฒน์)
นายคนเขียนเห็น เคยอ่าน เคยได้ยิน หรือไม่ แสดงชัดว่า ต้องการใส่ร้ายป้ายสีอย่างบ้าบัดซบเท่านั้น
นอกจากนี้ยังใช้ วาทกรรม ของ กบฏสุเทพ มาโจมตีประธานธิดา ใช้ภาษาและหลักการเดียวกับ กบฏสุเทพ สาดโคลนใส่ประธานธิดา
นายชั่วช้าสารเลวกว่า กบฏสุเทพ เสียอีก (นกแสกผู้รับใช้ทุนผูกขาด) เพราะ กบฏสุเทพ เปิดหน้า สู้กัน อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา แต่นายคนนี้ ทั้งที่ไม่ต่างจากกบฎสุเทพ แต่ปิดบังซ่อนเร้นแฝงตัวในคราบของ “คนเสื้อแดง” ทำการโจมตี ประธานธิดา และแนวทางการต่อสู้ของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน อย่างน่าขยะแขยงเป็นอย่างยิ่ง
นักต่อสู้ระดับโลกตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ได้ประกาศหลักการสำคัญที่ชี้ขาดชัยชนะของทุกขบวนการต่อสู้ไว้อย่างชัดเจน และได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสัจธรรมมาโดยตลอดว่า
“ถ้าต้องการชัยชนะ ต้องหมั่นกำจัด ศัตรูในคราบมิตรให้หมดไป”
นพ.เหวง โตจิราการ 5 กุมภาพันธ์ 2557 10.13น
ที่มา Facebook นพ.เหวง โตจิราการ
