ศาลไต่สวนคดีนปช.ถูกยิงที่ราชดำริ - ฟังคำสั่ง 6 มี.ค.

 วันที่ 6 ก.พ. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ ช.2/2556 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายนรินทร์ ศรีชมภู ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณทางเท้าหน้าคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ ถนนราชดำริ ใกล้แยกสารสิน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 โดยวันนี้เป็นการไต่สวนนัดสุดท้าย

 นายมิเชล มาสส์ ผู้สื่อข่าวชาวดัทช์ สังกัดหนังสือพิมพ์โฟล์กส์แรนต์ และเรดิโอเวิลด์ไวด์ วิทยุเนเธอร์แลนด์ เบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 พยานพักอยู่ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ย่านประตูน้ำ เวลาประมาณ 09.00 น. พยานดูข่าวจากโทรทัศน์เห็นทหารเข้ามาทำลายบังเกอร์ของผู้ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี พยานจึงเดินออกไปดูเหตุการณ์ผ่านแยกราชประสงค์ไปยังสวนลุมพินี แต่มีนักข่าวคนอื่นบอกว่าอันตรายอย่าเข้าไป ขณะนั้นพยานเห็นทหารถืออาวุธปืนอยู่บริเวณแยกศาลาแดงและเคลื่อนมาทางถนนราชดำริ จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นมาจากฝั่งของทหาร พยานจึงเข้าไปหลบอยู่หลังต้นไม้และรายงานสดไปยังสถานีข่าว

 นายมิเชล เบิกความต่อว่า ระหว่างนั้นมีคนจำนวนมากวิ่งหนีไปตามถนนราชดำริ พยานจึงวิ่งตามออกไป ก่อนถูกยิงเข้าที่หลังบริเวณหน้าป้ายคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ ในเวลาประมาณ 11.30 น. ต่อมามีคนมาช่วยพยุงพยานไปขึ้นรถและไปส่งที่โรงพยาบาลตำรวจ ช่วงที่วิ่งหนีและถูกยิง พยานไม่เห็นว่ามีใครถูกยิงบ้าง รวมถึงผู้ตายในคดีนี้ แต่ทราบภายหลังว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในจำนวนนี้มีนายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลี ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันด้วย ภายหลังที่พยานผ่าตัดเอากระสุนออก ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นกระสุนปืนเอ็ม 16

 จากนั้นทนายความญาติผู้ตายถามพยานว่า คาดว่ากระสุนถูกยิงมาจากทางใด พยานเบิกความว่า เชื่อว่ามาจากฝั่งทหาร ทนายความญาติผู้ตายถามต่อว่า ก่อนที่จะมีการยิง เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนหรือไม่ พยานเบิกความว่า ไม่มี

 ด้าน พ.ต.ท.สมชาย สินธนเจริญวงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ยานนาวา เบิกความสรุปว่า ช่วงเกิดเหตุ พยานเป็นพนักงานสอบสวนที่ สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับมอบหมายให้เป็นคณะกรรมการสอบสวนในคดีนี้ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งสำนวนกลับมาให้ เนื่องจากมีการสอบสวนเชื่อได้ว่า การตายของนายนรินทร์เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ จึงได้สอบพยานบุคคลหลายปาก อาทิ นายภัสพล ไชยพงษ์ นายอุดร วรรณสิงห์ นายสามารถ นุชน้อย และนางยุพิน นุชน้อย ทั้งหมดเป็นผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ให้การตรงกันว่า เจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนกำลังมาจากแยกศาลาแดงใช้อาวุธปืนยาวยิงใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

 พ.ต.ท.สมชาย เบิกความต่อว่า ด้าน พ.อ.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ฯ ให้การว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ได้รับคำสั่งจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ให้นำเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ฯ จำนวน 300 นาย โดยมีอาวุธปืนลูกซองและปืนเอชเค บรรจุกระสุนจริง กระสุนยาง และกระสุนซ้อมรบ รถสายพานลำเลียงหุ้มเกราะ และรถขยายเสียงแจ้งเตือนผู้ชุมนุม เข้าควบคุมพื้นที่ราบและพื้นที่สูง โดยเคลื่อนจากแยกศาลาแดงมาแยกราชดำริ ก่อนปะทะกับผู้ชุมนุม

 พ.ต.ท.สมชาย เบิกความอีกว่า ซึ่ง พ.อ.นพสิทธิ์ ให้การยืนยันว่า ไม่ได้ใช้กระสุนจริง แต่นายภัสพลให้การตอนหนึ่งว่า ขณะหลบอยู่หลังต้นไม้บริเวณหน้าคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ แล้วชะโงกหน้าไปทางทหารที่เคลื่อนมาจากแยกศาลาแดง ทันใดนั้นก็ถูกยิงเข้าที่คอและล้มลง ประมาณ 5 นาที ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก และเห็นผู้ชุมนุมลากนายนรินทร์ที่ถูกยิงบริเวณศีรษะเข้ามาใกล้กับจุดที่นายภัสพลอยู่ ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 09.45 น.

 พยานเบิกความเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบรอยกระสุนบริเวณหน้าคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ จำนวน 8 รอย มีวิถีกระสุนจากแยกศาลาแดงมุ่งหน้าแยกราชดำริ ทั้งหมดเป็นแนวระดับ สอดคล้องกับผลชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่ระบุว่า ผู้ตายถูกยิงแนวระดับ สูงจากพื้นไม่เกิน 1.6 เมตร และจากการสอบสวนพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ให้การว่า เคลื่อนกำลังมาจากแยกศาลาแดงมุ่งหน้าแยกราชดำริ โดยมีอาวุธปืนเอชเคและปืนลูกซอง บรรจุกระสุนขนาด .223 (5.56 ม.ม.) ซึ่งสามารถใช้กับปืนเอ็ม 16 และทาโวร์ได้ จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ จึงสรุปความเห็นว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 มี.ค. เวลา 09.00 น.

 นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความญาติผู้ตาย กล่าวว่า คดีนี้เชื่อมั่นว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ได้ว่าเกิดจากการกระทำของใคร เพราะผู้ตายเสียชีวิตในเวลาใกล้เคียงและถูกยิงในแนวเดียวกับนายฟาบิโอ โปเลงกี ที่ศาลมีคำสั่งไปแล้วว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งพยานแต่ละปากก็เบิกความชัดเจนว่า ทหารเคลื่อนจากแยกศาลาแดงมายังแยกราชดำริ ที่สำคัญมีประจักษ์พยานคือนายภัสพลที่ถูกยิงขณะชะโงกหน้าออกไปมองทหาร ซึ่งมีวิถีกระสุนเป็นแนวเดียวกับที่นายนรินทร์ถูกยิง

ที่มา ข่าวสด