กรมสอบสวนคดีพิเศษ อายัดบัญชีแกนนํา กปปส. - ท่อน้ำเลี้ยงแล้ว




วันที่ 18 ธ.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า หลังจากที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. ได้มีมติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ให้คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดหลายฐานความผิดต่างกรรมต่างวาระอัน สืบเนื่องจากการชุมนุมในนาม กปปส.เป็นคดีพิเศษ ซึ่งรวมถึงตัวการร่วม ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุน ตลอดจนกลุ่มทุนที่สนับสนุน หรือท่อน้ำเลี้ยง เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมติ กคพ.ได้กำหนดให้การสอบสวนบูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ พนักงานสอบสวนของ สตช. และพนักงานอัยการฯ

นายธาริต กล่าวต่อว่า โดยในวันนี้ได้มีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น ซึ่งที่ประชุมได้มีมติดำเนินการเร่งด่วนทันที คือออกหมายเรียกแกนนำ กปปส.อีก 17 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันเป็นกบฏ กระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก ทั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่พนักงานสอบสวนของ บช.น.ได้ดำเนินการขอศาลออกหมายจับไว้ แต่ศาลได้สั่งให้ดำเนินการออกหมายเรียกก่อน ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามคำสั่งของศาลดังกล่าวดีเอสไอจึงจะได้ออกหมายเรียกแกนนำทั้ง 17 คน มารับทราบข้อกล่าวหาทันทีในวันที่ 19 ธ.ค.56

นายธาริต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติสั่งอายัดบัญชีธนาคารแกนนําทั้ง 17 คน รวมทั้งนายสุเทพฯด้วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ในการจะใช้พิสูจน์ความผิด หรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาทั้งหมด ตามที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ได้ดำเนินการเบื้องต้นมาส่วนหนึ่งแล้ว ดีเอสไอจึงเห็นสมควรใช้อำนาจตาม มาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ออกคำสั่งแจ้งไปยังธนาคารทุกแห่งให้อายัดบัญชี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำคนอื่นๆ รวม 18 คน ในทุกบัญชี ทุกประเภท ทุกธนาคาร และให้ธนาคารนั้น ๆ จัดส่งหลักฐานการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ให้ดีเอสไอโดยด่วนที่สุด จะเริ่มดำเนินการทันที โดยส่งหนังสือแจ้งคำสั่งไปยังธนาคารทุกธนาคาร  ซึ่งการสั่งอายัดบัญชีแกนนําดังกล่าวจะกระทำพร้อมกับสั่งอายัดบัญชีรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการชุมนุม ซึ่งขณะนี้พบมี 2 บัญชี อยู่ระหว่างตรวจสอบตัวเงิน   

"การอายัดบัญชี และตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนนี้ เพื่อการตรวจสอบแสวงหาพยานหลักฐาน ซึ่งดีเอสไอก็ดำเนินการเป็นปกติในคดีความผิดของคดีอื่น ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว คาดว่าผลการตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนในบัญชีแกนนำทั้ง 18 คน และบัญชีรับบริจาคอีก 2 บัญชีนี้ จะทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของกระแสเงิน และจะทำให้ทราบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงที่ให้เงินผ่านบัญชีแกนนำ และบัญชีรับบริจาคกี่คน กี่ครั้ง จำนวนเงินเท่าใดบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสอบทานกับข้อมูลกลุ่มทุนท่อน้ำเลี้ยงที่ตำรวจร่วมกับดีเอสไอตรวจสอบไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย" นายธาริต กล่าว และว่า จึงขอเตือนให้กลุ่มทุน หรือท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายให้หยุดการสนับสนุนการกระทำผิดเสียทันที โดยเฉพาะเมื่อดีเอสไอได้ประกาศแจ้งเตือนเช่นนี้แล้ว หากยังฝ่าฝืนจะถือว่ามีเจตนาสนับสนุน หรือร่วมกระทำผิดกับบรรดาแกนนำอย่างเจตนาโดยชัดเจน

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะออกหมายเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมมาสอบสวน เนื่องจากข้อมูลที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ดำเนินการร่วมกันมาพบว่ามีเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง เพื่อคัดกรองว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาร่วมให้การบริการ เพราะรับจ้างมาหรือจงใจสนับสนุนเป็นข้อเท็จจริงประการใด จึงจะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อให้ได้ทราบความจริงประกอบการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อแกนนำที่ถูกออกหมายเรียก จำนวน 17 คน ประกอบด้วย นายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  นายชุมพล จุลใส  นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  นายอิสระ  สมชัย  นายวิทยา  แก้วภราดัย นายถาวร  เสนเนียม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ  นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์  นางอัญชะลี ไพรีรัก  นายนิติธร  ล้ำเหลือ  นายอุทัย ยอดมณี ร.ต.แซมดิน  เลิศบุศย์  พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์  นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ และ นายสมบูรณ์ ทองบุราญ

ที่มา ข่าวสด