ประกาศ
ประกาศ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
รับชมการถ่ายทอดสดจาก ถ.อักษะ
Broadcast live streaming video on Ustream
ประมวลภาพ นปช. "รวมพลปราบกบฏ" ถนนอักษะ 10 พ.ค. 2557
รับชมการถ่ายทอดสดจาก ถ.อักษะ
Broadcast live streaming video on Ustream
ประมวลภาพ นปช. "รวมพลปราบกบฏ" ถนนอักษะ 10 พ.ค. 2557
ศาลสั่งจำคุก ‘วัชระ เพชรทอง’ 2 เดือน คดีหมิ่น ‘จตุพร’
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และปรับ 20,000 บาท แต่เห็นว่าจำเลยไม่เคยได้รับโทษมาก่อนเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงรอการลงโทษ 1 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาฉบับย่อในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและข่าวสดเป็นเวลา 7 วัน จากกรณีให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาท นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย
คดีนี้นายจตุพร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.898/2552 ฟ้องนายวัชระ , ไทยเดย์ ด็อท คอท จำกัด และบริษัทเอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 กรณีเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 จำเลยทั้งสามได้เจตนาใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ กรณีที่กล่าวหานายจตุพร ทำนองว่า เป็นเด็กเลี้ยงแกะไม่มีใครเชื่อคำพูด และเห็นแก่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพราะมีท่อน้ำเลี้ยงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และคนในตระกูลพรหมพันธุ์ไม่ยอมรับโจทก์ ซึ่งทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง แต่ต่อมาโจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และ 3 เหตุเพราะไม่ติดใจเอาความ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์กระทำผิดจริงตามฟ้อง ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอยและพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง จึงเป็นการใส่ความโจทก์ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ขณะเดียวกันศาลพิพากษายกฟ้อง ในคดีหมายเลขดำที่ 3856/52 ที่ นายจตุพร ยื่นฟ้อง นายวัชระ , บริษัทสารสู่อนาคต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย นสพ.ไทยโพสต์ และนายทวีสิน สถิตรัตนชีวิน อดีตบรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา นสพ.ไทยโพสต์ (เสียชีวิต) เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 จำเลยที่ 1 ได้แถลงข่าวที่รัฐสภาทำนองว่าโจทก์ เป็นทาสรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากผู้อื่น
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของโจทก์ จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ที่นำถ้อยคำของจำเลยที่ 1 ไปเผยแพร่นั้น ก็ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นกัน พิพากษายกฟ้อง
ด้านนายวัชระ กล่าวภายหลังว่า ตนเคารพในคำตัดสินของศาล โดยหลังจากนี้ก็จะยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีให้ถึงที่สุดต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่หลบหนีออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
ที่มา ข่าวสด