บอร์ดคดีพิเศษลงมติจัดเต็ม "เทพเทือก" 6 ข้อหาหนัก ไฟเขียวรับเป็นคดีพิเศษ




เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)  นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธาน กคพ.พร้อมด้วยคณะกรรมการคดีพิเศษ ร่วมประชุมเพื่อพิจารณารับคดีอาญาเป็นคดีพิเศษโดยมี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นเลขานุการ กคพ.ประมวลเรื่องเข้าสู่การพิจารณา หลังการประชุมประมาณ 2 ช.ม.ที่ชุมมีมติรับคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส.พร้อมพวก ที่เกิดในช่วงการชุมนุมเป็นคดีพิเศษ

 ทั้งนี้ นายธาริต แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม กคพ.มีมติรับกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดทางอาญา สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม.และบางจังหวัดตั้งแต่วันที่  ส.ค.เป็นต้นมา และความผิดที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน โดยมีมติให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ พนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ร่วมสอบสวนด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นคดีที่มีซับซ้อนต้องใช้ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย เพื่อประสิทธิภาพและความเป็นธรรม ตนยืนยันว่าการพิจารณาของคณะกรรมการ กคพ.เป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะการสอบสวนของตำรวจได้พบความผิดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนกระทั่งศาลอาญาออกหมายจับในคดีกบฎ เบื้องต้นตำรวจได้รับคดีเกี่ยวกับ กปปส.ไว้ 60 คดี แต่พิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษมีเพียง 20 คดี 

นายธาริต กล่าวต่อว่า ดีเอสไอสามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดในคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันในภาพรวม ทั้งกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการชุมนุม  ส่วนที่เหลือเป็นคดีเล็กน้อยพกพาอาวุธมีดหรือทำร้ายร่างกายกัน  ส่วนแนวทางการสอบสวนตนจะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีดังกล่าวเป็นนัดแรกในเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ธ.ค. 56 โดยจะมีการพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำคนอื่นๆ ด้วย และกลุ่มท่อน้ำเลี้ยง การตรวจสอบบัญชีและการอายัดบัญชี ตนจะแถลงแนวทางการดำเนินคดีหลังการประชุม

 “ทั้งนี้ส่วนคดีที่กบฏที่ศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไว้เมื่อ กคพ.ลงมติเป็นคดีพิเศษ หมายจับคดีดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนจาก สตช.ส่วนแนวทางการนำตัวนายสุเทพฯ มาดำเนินคดีตามหมายจับยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะออกไปจับกุมภายนอก หรือจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ต้องหารือกับพนักงานสอบสวนก่อน” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวก รวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร  ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

 มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

 มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

มาตรา 117 ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วม กันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจ กับบุคคลใด ๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อ บังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมี กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน เป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท              

มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิด การวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการ กระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายคารม  พลพรกลาง  ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเสรี  วงษ์มณฑา  และนายเถกิง  สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย ฐานสนับสนุนในการร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ  ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏหรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อเป็นกบฏหรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114  กรณีที่นายเสรี ขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมมวลชนในการชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)

 โดยนายคารม กล่าวว่า ได้ติดตามและบันทึกภาพการปราศรัยของนายเสรีแล้วพบว่าเนื้อหาการปราศรัยเข้าข่ายปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมการชุมนุม ไม่ใช่การให้ความเห็นทางวิชาการ ทั้งที่ทราบว่าขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมถูกออกหมายจับฐานกบฎอยู่  ในวันนี้(17 ธ.ค.)ตนได้นำซีดีบันทึกภาพการปราศรัยของนายเสรี และเอกสารการถอดเทปการปราศรัยอย่างละเอียดมามอบให้ดีเอสไอใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี  โดยร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายเสรีเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างกับนักวิชาการที่ขึ้นเวทีปราศรัยระมัดระวังตัวเพราะอาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดีด้วย  ส่วนนายเถกิงถือว่ามีส่วนร่วมในการจัดการควบคุมให้มีการถ่ายทอดคำปราศรัยของบุคคลที่ถูกออกหมายจับฐานกบฎ

  ด้าน นายธาริต  กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับแกนนำกปปส. จำนวน 13 คน  โดยนายเสรี ยังไม่เคยมีผู้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี  ดังนั้น  ดีเอสไอจะรวมคำร้องที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทั้งหมดเป็นคดีเดียวกันเพื่อดำเนินการสอบสวนในภาพรวม เนื่องจากมีบุคคลเกี่ยวข้องหลายคนซึ่งมีพฤติกรรมต่างกรรมต่างวาระฯ

ที่มา ข่าวสด