ประกาศ
ประกาศ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
รับชมการถ่ายทอดสดจาก ถ.อักษะ
Broadcast live streaming video on Ustream
ประมวลภาพ นปช. "รวมพลปราบกบฏ" ถนนอักษะ 10 พ.ค. 2557
รับชมการถ่ายทอดสดจาก ถ.อักษะ
Broadcast live streaming video on Ustream
ประมวลภาพ นปช. "รวมพลปราบกบฏ" ถนนอักษะ 10 พ.ค. 2557
บอร์ดคดีพิเศษลงมติจัดเต็ม "เทพเทือก" 6 ข้อหาหนัก ไฟเขียวรับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธาน กคพ.พร้อมด้วยคณะกรรมการคดีพิเศษ ร่วมประชุมเพื่อพิจารณารับคดีอาญาเป็นคดีพิเศษโดยมี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นเลขานุการ กคพ.ประมวลเรื่องเข้าสู่การพิจารณา หลังการประชุมประมาณ 2 ช.ม.ที่ชุมมีมติรับคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส.พร้อมพวก ที่เกิดในช่วงการชุมนุมเป็นคดีพิเศษ
ทั้งนี้ นายธาริต แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม กคพ.มีมติรับกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดทางอาญา สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม.และบางจังหวัดตั้งแต่วันที่ ส.ค.เป็นต้นมา และความผิดที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน โดยมีมติให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ พนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ร่วมสอบสวนด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นคดีที่มีซับซ้อนต้องใช้ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย เพื่อประสิทธิภาพและความเป็นธรรม ตนยืนยันว่าการพิจารณาของคณะกรรมการ กคพ.เป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะการสอบสวนของตำรวจได้พบความผิดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนกระทั่งศาลอาญาออกหมายจับในคดีกบฎ เบื้องต้นตำรวจได้รับคดีเกี่ยวกับ กปปส.ไว้ 60 คดี แต่พิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษมีเพียง 20 คดี
นายธาริต กล่าวต่อว่า ดีเอสไอสามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดในคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันในภาพรวม ทั้งกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการชุมนุม ส่วนที่เหลือเป็นคดีเล็กน้อยพกพาอาวุธมีดหรือทำร้ายร่างกายกัน ส่วนแนวทางการสอบสวนตนจะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีดังกล่าวเป็นนัดแรกในเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ธ.ค. 56 โดยจะมีการพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำคนอื่นๆ ด้วย และกลุ่มท่อน้ำเลี้ยง การตรวจสอบบัญชีและการอายัดบัญชี ตนจะแถลงแนวทางการดำเนินคดีหลังการประชุม
“ทั้งนี้ส่วนคดีที่กบฏที่ศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไว้เมื่อ กคพ.ลงมติเป็นคดีพิเศษ หมายจับคดีดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนจาก สตช.ส่วนแนวทางการนำตัวนายสุเทพฯ มาดำเนินคดีตามหมายจับยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะออกไปจับกุมภายนอก หรือจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ต้องหารือกับพนักงานสอบสวนก่อน” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวก รวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
มาตรา 117 ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วม กันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจ กับบุคคลใด ๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อ บังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมี กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน เป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิด การวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการ กระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายคารม พลพรกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเสรี วงษ์มณฑา และนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย ฐานสนับสนุนในการร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏหรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อเป็นกบฏหรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114 กรณีที่นายเสรี ขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมมวลชนในการชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)
โดยนายคารม กล่าวว่า ได้ติดตามและบันทึกภาพการปราศรัยของนายเสรีแล้วพบว่าเนื้อหาการปราศรัยเข้าข่ายปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมการชุมนุม ไม่ใช่การให้ความเห็นทางวิชาการ ทั้งที่ทราบว่าขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมถูกออกหมายจับฐานกบฎอยู่ ในวันนี้(17 ธ.ค.)ตนได้นำซีดีบันทึกภาพการปราศรัยของนายเสรี และเอกสารการถอดเทปการปราศรัยอย่างละเอียดมามอบให้ดีเอสไอใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี โดยร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายเสรีเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างกับนักวิชาการที่ขึ้นเวทีปราศรัยระมัดระวังตัวเพราะอาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนนายเถกิงถือว่ามีส่วนร่วมในการจัดการควบคุมให้มีการถ่ายทอดคำปราศรัยของบุคคลที่ถูกออกหมายจับฐานกบฎ
ด้าน นายธาริต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับแกนนำกปปส. จำนวน 13 คน โดยนายเสรี ยังไม่เคยมีผู้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ดังนั้น ดีเอสไอจะรวมคำร้องที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทั้งหมดเป็นคดีเดียวกันเพื่อดำเนินการสอบสวนในภาพรวม เนื่องจากมีบุคคลเกี่ยวข้องหลายคนซึ่งมีพฤติกรรมต่างกรรมต่างวาระฯ
ที่มา ข่าวสด