‘ณัฐวุฒิ’ท้า‘สุเทพ’ประกาศให้ชัดม็อบจบทำอย่างไร ประณามอำมหิตอ้างสถาบันทำลายตระกูล‘ชินวัตร’


 

 เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการชุมนุมที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ ว่า ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมผิดหลักประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน จึงต้องตั้งคำถามว่า นายสุเทพ ออกแบบประเทศภายใต้คำว่าปฏิวัติประชาชนไว้อย่างไร เพราะยุบสภาฯ ก็ไม่เอา ลาออกก็ไม่จบ วันนี้ชัดเจนว่าคำตอบที่แม้จริงไม่ใช่ประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่คนในสังคมต้องใช้วิจารณญาณระหว่างการมองไปข้างหน้าแล้วรักษากติกาไว้ กับการเลือกใช้วิธีการนอกระบบแล้วยอมให้ประเทศถอยหลังไปสู่แนวทางเผด็จการอีกครั้ง ตนยืนยันว่าถ้าใช้วิธีการนอกระบบหรือเผด็จการมาจัดการกับความขัดแย้งยังไงก็ไม่จบ รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งโดยชอบธรรม จากการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ดังนั้นแนวทางของรัฐบาลจะรักษาหลักการประชาธิปไตยไว้จนถึงที่สุด โดยไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

 นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนการปราศรัยบนเวทีที่พุ่งเป้าไปที่ครอบครัวชินวัตร และตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันนั้น ตนเห็นว่าเป็นวิธีการที่ใช้ไม่ได้ ต้องขอประณามแกนนำที่พยายามสร้างประเด็นนี้ เพื่อทำลายคนตระกูลชินวัตร ตนคิดว่าในบ้านเมืองนี้ไม่มีครอบครัวไหนโดยเฉพาะครอบครัวที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นถึงนายกรัฐมนตรี จะมีความไม่จงรักภักดีหรือมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง การทำลายใครด้วยข้อกล่าวหานี้ นอกจากจะอำมหิต ไร้มนุษยธรรมแล้ว ยังเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง และไม่เปิดโอกาสให้ครอบครัวชินวัตรได้พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งข้อกล่าวหานี้เลยเส้นการต่อสู้ทางการเมืองไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เคยทำลายคนหลายคนด้วยเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเท็จแทนที่จะสำนึกแต่วันนี้กลับทำอีก

 “ใครก็ตามที่ประกาศว่าจงรักภักดีเขาไม่ทำแบบนายสุเทพ หรือคนพรรคประชาธิปัตย์บางคนทำอยู่เวลานี้ และตั้งแต่ผมได้มีโอกาสทำงานการเมืองกับพ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือใครก็ตามในครอบครัวนี้ ผมก็ไม่เคยพบเห็นสัญญาณที่จะเป็นพิษภัยต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างที่นายสุเทพ และพวกกล่าวหา” นายณัฐวุฒิ กล่าว

 นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ออกมาชุมนุมเราเคารพในเสรีภาพของการแสดงออก และตราบใดก็ตามที่เคลื่อนไหวภายใต้กรอบกฎหมายก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพียงแต่อยากฝากข้อคิดว่าเวลาที่นายสุเทพ และแกนนำพาท่านเดิน ทราบหรือยังว่าเป้าหมายของการเดินขบวนจะไปไหน จะไปแบบประชาธิปไตยหรือไปแบบเผด็จการ จะไปแบบที่สากลยอมรับหรือแบบที่จะทำให้ประเทศถอยหลัง ตนอยากให้ทุกคนช่วยกันพิจารณา

 เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมประกาศยกระดับและจะให้จบในสามวัน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นแนวทางที่ทำลายระบอบประชาธิไตยสิ้นเชิง การชุมนุมเคลื่อนไหวของประชาชนเพียงสามวัน แล้วให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่นายสุเทพบอกนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่จะเกิดได้ด้วยสถานการณ์พิเศษที่เปิดให้อำนาจนอกระบบมาลงมือ นายสุเทพกำลังรอคอยอยู่ใช่หรือไม่ อยากให้นายสุเทพพูดให้ชัดว่า สามวันจะจบนั้นจะจบอย่างไร เพราะเชื่อว่านายสุเทพเองก็ตอบไม่ได้

 เมื่อถามว่า นปช.จะมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเพื่อปกป้องรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะเคลื่อนออกมา การเดินขบวนของนายสุเทพและแกนนำคงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้ามีสถานการณ์พิเศษ เช่น รัฐประหารก็เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะออกมาปกป้องประชาธิไตย ถามต่อว่าหากในวันที่ 26 พ.ย.ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ารัฐสภาไม่ได้จะทำอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประชาชนต้องพิจารณา เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่จะมาปิดล้อมรัฐสภาเสียเองนั้นแสดงว่าจะเอาแต่ประโยชน์ตัวเองเข้าว่าใช่หรือไม่ ตนเชื่อว่าเวลานี้อะไรที่ล้มรัฐบาลได้เขาคงเอาหมด