ทีมข่าว นปช.
19 พฤศจิกายน 2556
วันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ย โดยบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่บริเวณสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน กทม. ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง เริ่มทยอยเดินทางมาจากกทม.ฯและจากต่างจังหวัดทุกจังหวัด เข้าสมทบในพื้นที่การชุมนุม ที่อยู่ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถานและบริเวณโดยรอบ กันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ยังคง พักผ่อนตามเต็นท์ที่ทางผู้จัดได้จัดเตรียมไว้เป็นรายจังหวัดตนเอง ขณะที่พื้นที่โดยรอบการชุมนุม มีพ่อค้าแม่ค้า มาวางขายเสื้อผ้า และอุปกรณ์การชุมนุมเชิงสัญลักษณ์โดยรอบ โดยพี่น้องคนเสื้อแดงได้ทยอยกันจับจองพื้นที่ด้านหน้าเวที เพื่อเตรียมรับฟังการปราศรัยจากแกนนำคนสำคัญ ที่จะเริ่มเปิดเวทีอย่างเป็นทางการในเวลา 12.00 น. เป็นต้นไปเพื่อเข้าร่วมสนับสนุนรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รวมถึง ให้กำลังใจรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
โดยการแสดงพลังกันครั้งนี้เพื่อ ให้ฝ่ายต่อต้านที่คิดล้มรัฐบาล ได้เห็นว่า คนเสื้อแดง มีอุดมการณ์รักความเป็นธรรม และพร้อมต่อสู้กับ ผู้ที่คิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ขอให้คนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน เดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ ที่สนามราชมังคลาฯ โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงพลังในการต่อต้าน อดีตรัฐบาลเผด็จการ กลุ่มอำมาตย์ ที่พยายยามใส่ร้าย รัฐบาลที่มุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อประชาชน
โดยการปราศรัยครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ สามารถติดตามรับชมผ่านทางช่อง
Asia update และ http://speedhorsetv.blogspot.com/
ชมการถ่ายทอดสดได้ทาง
ภาพบรรยากาศในช่วงเช้า
หน่วยประชาสัมพันธ์ หน่วยพยาบาล และศูนย์ประสานงานนปช.กรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่หน้าบันไดก่อนถึงทางเข้าไปในสนาม
ตอนนี้13.00 น.บรรดาพี่น้องคนเสื้อแดงเริ่มทยอยกันมาอย่างคับคั่ง พร้อมกันนี้พี่น้องเสื้อแดงกทม.ตามเขตต่างๆร่วมกันลงทะเบียนตามเขตของตัวเองอย่างพร้อมเพียงเพื่อรวมกลุ่มกันเดินทางเข้าฟังการปราศรัยด้านในสถานกีฬาในขณะนี้
บริเวณด้านหน้าสถานกีฬาราชมังคลา มีซุ้มอาหารมากมายหลายอย่าง
มาบริการพี่น้องคนเสื้อแดงให้รับประทานกันฟรีๆ
เมื่อเวลา 16.10 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. และนพ.เหวง แถลงถึงท่าทีการชุมนุมของกลุ่มนปช.ว่า เรายึดหลักว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจชอบธรรมของรัฐสภา อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการต้องเป็นอิสระ ไม่ก้าวก่ายกัน นี่คือจุดยืนของกลุ่มนปช. เบื้องต้นเราประเมินการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไว้หลายด้าน ทั้งด้านลบน้อยและลบมาก หากเกิดเหตุไม่สอดคล้องกับจุดยืน ไม่ว่าจะถอดถอนส.ส.หรือยุบพรรคร่วมรัฐบาล 4 พรรค แกนนำจะปรึกษากันอีกครั้งว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะเรามองว่าศาลไม่มีอำนาจรับคำร้องตามมาตรา 68 ไว้พิจารณาตั้งแต่แรกแล้ว
อ.ธิดากล่าวว่า การชุมนุมวันนี้เป็นการแสดงพลังว่ายังมีคนส่วนมากที่ยึดถือในระบอบประชาธิปไตย มาร่วมฟังคำวินิจฉัยของศาลว่าจะเป็นปัญหากับระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ เรามาชุมนุมในสนามกีฬาเพื่อความเป็นเอกภาพ ไม่ใช่ข่มขู่ศาล หรือเอาม็อบชนม็อบ ถ้าอยากทำแบบนั้นเราคงนัดชุมนุมที่ราชประสงค์ อีกทั้งหากเราไม่จัดชุมนุมที่นี่ แกนนำต่างคนต่างอยู่ อาจเกิดการเคลื่อนไหวไปปิดศาลหรือเกิดการเผชิญหน้าได้
เมื่อถามว่าหากศาลวินิจฉัยเป็นผลลบกับรัฐบาลกลุ่มนปช.จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ ประธานนปช. กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะชุมนุมยืดเยื้อถึงวันที่ 24 พ.ย. เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การใช้ความรุนแรง และแสดงออกไปยังม็อบราชดำเนินที่ต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณ ด้วยการปฏิวัติประชาชนว่า คนเสื้อแดงยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประเด็นว่าอาจมีการถอดถอนส.ส. ส.ว.หรือยุบพรรค เลยตั้งหัวข้อปฏิวัติประชาชนขึ้นมา เพื่อหวังมีสุญญากาศการเมือง ดังนั้น พวกนายสุเทพเพียงหยิบมือเดียวจะมาบอกว่าเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร หากรัฐบาลจะไปก็ต้องไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ด้วยน้ำมือคนกลุ่มเดียว นี่เป็นเรื่องหลักการ เป้าหมาย และระบบ ไม่ใช่ตัวบุคคลหรือรัฐบาล หากศาลวินิจฉัยไม่สร้างความขัดแย้ง พวกเราก็กลับบ้าน
ด้านนพ.เหวงกล่าวว่า กลุ่มนปช.มีแนวชุมนุมดังนี้ 1.ไม่ว่าผลตัดสินเป็นอย่างไร คนเสื้อแดงจะฟังแกนนำแค่ 3 คน คือนางธิดา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ และจะไม่แตกแถว 2.เราจะสู้อย่างสันติโดยกลยุทธ์การเมือง ไม่ใช้ความรุนแรง เพราะเราไม่จำเป็นต้องสั่นคลอนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และ 3.แกนนำฝั่งตรงข้ามเปิดตัวชัดแล้วว่าต้องการล้มประชาธิปไตย ส่วนพวกเราต้องการปกป้องประชาธิปไตย เราจึงต้องสู้จนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะเลิกชุมนุมและกลับบ้าน
เมื่อเวลา 17.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. มีคนเสื้อแดงจากทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทยอยเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องกว่า 30,000 คน ทำให้บรรยากาศคึกคัก มีการโห่ร้อง เป่าแตร ตลอดเวลา ขณะที่แกนนำนปช.และส.ส.พรรคเพื่อไทย สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวทีอย่างต่อเนื่อง อาทิ น.พ.เหวง นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย โดยเน้นประเด็น อำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้ให้เห็นว่ามีความต้องการโค่นระบอบทักษิณโดยระบอบอำมาตย์ อาจส่งผลให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 20 พ.ย. ก่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในสภาได้ ขณะที่โดยรอบสนามมีการ์ดนปช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ตามประตูทางเข้าด้านต่างๆ อย่างหนาแน่น
ต่อมาเวลา 18.15 น. อ.ธิดาขึ้นปราศรัยว่า เราจะอยู่กันยาว ยังไม่รู้จะกลับวันไหนเพราะเรายังชนะไม่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่าพลังประชาธิปไตยมีอยู่มาก และจะไม่ยอมให้ใครปล้นชัยชนะประชาชนไป วันนี้และในอนาคตเราจะเห็นนปช. มวลชนและพรรคเพื่อไทยเป็นมิตรร่วมรบกันต่อไป เพื่อให้บ้านเมืองพ้นจากอำนาจล้าหลังป่าเถื่อน ไปสู่สังคมแห่งการเป็นอารยะอย่างแท้จริง วันนี้เราจำเป็นต้องแสดงพลังให้ถนนราชดำเนินรู้ว่าเขาไม่ใช่ประชาชนตัวจริง แต่ประชาชนตัวจริงจำนวนหนึ่งอยู่ที่นี่ เรามาคัดค้านอำนาจตุลาการที่ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน ก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ ก้าวล่วงพระราชอำนาจ
ถ้าวันที่ 20 พ.ย. ศาลมีคำวินิจฉัยไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ผู้วินิจฉัยต้องรับผิดชอบหากบ้านเมืองนี้จะเกิดกลียุคขึ้น ถ้าถอดถอน ส.ส.-ส.ว. 300 กว่าคน และยุบพรรค เราจะให้มวลชนคนเสื้อแดงเป็นคนสั่งแกนนำว่าจะให้ทำอย่างไร ขอให้รู้ไว้ว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่ควาย แต่เขามีวุฒิภาวะตัดสินใจว่าการต่อสู้จะไปทางไหน ประธานนปช. กล่าว
ต่อมาเวลา 19.45 น. นายวีระกานต์ มุกสิกพงศ์ ปราศรัยว่า ขอส่งสารไปให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบประชาธิปัตย์ ว่าจะอยู่บนถนนราชดำเนินไปเพื่ออะไร เพราะมันมีประวัติศาสตร์มากเกินกว่าจะให้คนอย่าง นายสุเทพ ขึ้นมานำมวลมหาชนคนไทยได้ นายอลงกรณ์ พลบุตร อยู่ที่ไหน ไปฉุด นายสุเทพ ออกไปที แต่คิดว่าคงอยู่ได้ไม่ถึง 15 วัน เพราะเมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมา ผลที่จะเกิดในัวนที่ 20 พ.ย. มันจะทำให้นายสุเทพอกหัก เช่นเดียวกับคดีเขาพระวิหาร พูดไปก็สงสารเพราะว่าไม่มีใครนำม็อบสำเร็จเหมือน นายสุเทพมาก่อน เพราะยิ่งพูดคนยิ่งน้อย
นายวีระกานต์ กล่าวว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยมันมีแค่นี้รอกัน 4 ปี แต่ทำไมแชมป์เก่าเสียเข็มขัดให้ผู้หญิงถึงรอไม่ได้ เพราะมันเป็นพวกเสพย์ติดอำนาจ คิดจะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ เคยใช้กำลังสลายผู้ชุมนุมที่มาโดยสงบสันติในยามวิกาล ถามว่ามีประเทศไหนในโลกที่ทำแบบนี้ หาวิธีล้มรัฐบาลทุกวิถีทาง สุดท้ายใช้วิธีการลาออกจาก ส.ส. และเลยเถิดกันออกนอกวิถีทางประชาธิปไตย ต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษฯก็ถอยกันไปแล้ว ส่วนไอ้ที่ยังต้านกันอยู่เหลืออีกไม่กี่คนเท่านั้น แและอยากให้พี่น้องดูว่าคนที่ประกาศนำพี่น้องประชาชนบนเวทีนั้นมีคุณสมบัติหรือไม่ ใช้คำโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าโกงทั้งโคตร จะไม่มีแผ่นดินอยู่ถามว่าคนอย่างสุเทพมีสิทธิ์พูดหรือไม่
"ส่วน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็โผล่ออกมาเสนอแนวทางปฏิรูปการเมืองให้ตั้งสภาประชาชนที่มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนไทยเขาพูดมานานแล้วว่าไม่เอา นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสุริยะใส กตะศิลา และเหล่าคณะเสนาธิการทหารแก่ ที่โผล่ออกมาแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนพวกนี้ออกมาก็เพื่อหวังจะเปลี่ยนวิถีทางการเมืองนอกรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้พิจารณาว่าแนวทางพวกเขาเป็นไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ และมีคุณสมบัติของการเป็นแกนนำหรืออไม่ และสถานการณ์ในวันที่ 20 พ.ย. ขอให้ทุกคนสบายใจว่าคนเสื้อแดงไม่ได้มาข่มขู่คุกคามใคร แต่คนเสื้อแดงต้องการความยุติธรรมตรงไปตรงมา ถ้าหากรัฐบาลไปก็จะไปต้องวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วรัฐบาลนี้ต้องอยู่เพื่อแก้ปัญหาให้คนไทย" นายวีระกานต์ กล่าว
จากนั้นเวลา 20.35 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ขึ้นเวทีปราศรัยว่า วันที่ 24 พ.ย. อยากบอกนายสุเทพให้ไปบอกประชาชนใหม่ว่า หากประชาชนออกมา 1 ล้านคน แล้วนายสุเพทจะผูกคอตาย แทนที่จะบอกให้พี่น้องออกมาปฏิวัติประชาชน ยกระดับให้หยุดงานก็ไม่มีใครหยุด ภาษีก็ไม่มีใครกล้าไม่จ่าย แล้วก็มายกระดับอีกรอบให้เป่านกหวีดใส่ผู้แทน แต่ก็คงสู้แตรคนเสื้อแดงไม่ได้ ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอการชุมนุมที่มีข้อเรียกร้องที่ปัญญาอ่อนที่สุด จะเห็นเขาพยาามทำทุกวิถีทาง อย่างการให้คนสวมเสื้อแดงขึ้นเวทีไปเล่าว่าตนเป็นคนสั่งให้เผาศาลากลาง ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำ ถ้าทำตนจะสั่งให้เผานายสุเทพ
นายจตุพร กล่าวว่า พวกเราจะอยู่กันช้ามคืน ถึงวันที่ 20 พ.ย. กระทั่งศาลอ่านคำวินิจฉัยตอน 11.00 น. เพราะเราต้องการความยุติธรรม เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเราจะไม่ไปกดดัน คุกคาม พาประชาชนไปเผชิญหน้า แต่คนเสื้อแดงต้องการสิ่งเดียวเท่านั้นจากศาลฯคือความยุติธรรม หลายปีที่ผ่านมาศาลฯได้สร้างความแคลงใจใ้ห้ประชาชนมาโดยตลอด ตนอยากจะบอกศาลว่า ชาตินี้ศาลทำดีเป็นหรือไ่ม่ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งก็ออกมาอยู่หลังพันธมิตรฯ มีครั้งนี้มาออกหน้าเอง ตนสะใจมากที่วันนี้ นายสุเทพ ต้องออกมาเป็นผู้นำม็อบเอง ศอฉ. ที่เคยอยู่ราบ 11 บัดนี้ย้ายมาทำการที่ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย
นายจตุพร กล่าวอีกว่า คำว่าระบอบทักษิณไม่มีจริง ถ้ามีจริงก็ต้องมีระบอบอภิสิทธิ์ ที่ทำให้ชายไทยไม่ต้องเกณฑ์ทหาร พอมีโอกาสบริหารประเทศทำไมคนไม่ยกย่องคุณ คุณเก่งแต่เป็นฝ่ายค้าน แต่โง่บัดซบทุกเรื่องกับการเป็นรัฐบาล แล้วตระกูลเทือกสุบรรณควรอยู่ในแผ่นดินนี้หรือไม่ อีกทั้ง นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ยังโกหกทุกวัน เหมือนฆาตกรหวังจะเป็นวีรบุรุษ แต่เมื่อนปช.จับมือกับพรรคเพื่อไทยจะไม่ให้ฆาตกรกลับมามีอำนาจได้ นายสุเพท นายอภิสิทธิ์ ฝันสลายกันไปแล้ว เพราะคนเสื้อแดงจำได้ว่าใครฆ่าพี่น้องเขา นายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพกำลังจะขึ้นศาล ในวันที่ 12 ธ.ค. ในฐานะจำเลยฆ่าคนตาย
"หวังว่าคำตัดสินในวันที่ 20 พ.ย. ที่ประเมินกันว่าจะเลวน้อย เลวกลาง หรือเลวมาก จะตัดสิทธิ ส.ว. หรือยุบพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทุกพรรค แต่ขอให้สบายใจได้ว่าใน 312 รายชื่อ ไม่มีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ว่าจะออกหน้าไหน จะยังเป็นพรรคเพื่อไทยอยู่หรือไม่ เราจะร่วมชะตากรรมกัน ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศครบ 4 ปี ถ้าศาลตัดสินอย่างยุติธรรมบ้านเมืองจะสงบสุข ศาลจะตัดสินเอาใจ นายสุเพท เทือกสุบรรณ หรือจะเอาใจคนไทยทั้งชาติ ต้องเลือกเอา ไม่เช่นนั้นแล้วความแตกแยกจะเกิดขึ้นทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศไทย ผมเชื่อว่าวันที่ 30 พ.ย. จะเป็นนายสุเทพที่จบ ประเทศไทยยังอยู่ รัฐบาลยังอยู่ คนเสื้อแดงยังอยู่ แล้วผมจะเอาเชือกไปให้นายสุเทพผูกคอตายไปเลย เพราะผมไม่เคยเจอคนประกาศผูกคอตายแล้วมากลัวสไนเปอร์ " นายจตุพรกล่าว
เวลา 22.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดง "แก้รัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจรัฐสภา" ท่ามกลางมวลชนเสื้อเเดงที่ร่วมชุมนุมหลายหมื่นคนว่า กรณีที่ 312 สมาชิกรัฐสภาแถลงไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับกฎกติกา พรรคเพื่อไทยยอมรับมาหลายครั้งทั้งกรณียุบพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ปลดนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยกัดฟันมาตลอดแม้ศาลจะวินิจฉัยขัดต่อหลักนิติธรรม แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะไม่ขอรับอำนาจอีกต่อไป เพราะการแก้ไขรัฐธรมนูญนั้นสมาชิกรัฐสภาที่มาจากประชาชนและมีอำนาจชอบธรรมสามารถดำเนินการได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังตอบคำถามไม่ได้ว่าการปฏิวัติในวันที่24 พ.ย.มีเป้าหมายอะไร เพื่อล้มรัฐบาลใช่หรือไม่ เพราะรัฐบาลถอยร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.เปรียบเสมือนใบตองแห้ง แต่พบว่ายังมีบางคนยังคงเห่าใบตองแห้งไม่เลิก อย่างไรก็ตามขอเตือนพรรคปชป.ว่าไม่สามารถล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ และอย่าหวังล้มรัฐบาลด้วยกลไกอื่น วันนี้รัฐบาลพยายามเดินหน้าหลายโครงการโดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้า แต่พบว่าพรรค ปชป.ยังรอรถถังความเร็วสูงรอล้มรัฐบาลทำให้ประเทศถอยหลัง
