เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงข้อเสนอของที่ประชุมอธิการบดีถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า รัฐบาลมีหน้าที่รับฟังข้อเสนอของทุกฝ่ายอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่ประชุมอธิการบดี เพราะเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีการศึกษา มีคุณวุฒิสูง แต่แปลกใจที่ผลการประชุมออกมาทั้ง 6 ข้อ แม้ว่าทุกข้อจะเป็นประโยชน์ แต่ไม่สอดคล้องข้อเท็จจริงของสถานการณ์ เพราะไม่มีการวิเคราะห์ว่าการชุมนุมและข้อเรียกร้องของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์ เกินเลยกว่ากรอบของประชาธิปไตยที่ทำให้เป็นจริงได้ และข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติได้เลยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่าที่ประชุมอธิการบดีควรเริ่มตนถกเถียงให้ตกผลึกถึงเรื่องเหล่านี้ก่อนที่จะมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ส่วนข้อเสนอให้รัฐบาลยุบสภานั้น นายสุเทพก็ประกาศอยู่ตลอดว่าแค่เพียงการยุบสภาหรือลาออกก็ไม่เพียงพอ ดังนั้น ที่ประชุมจะมีความคิดเห็นอย่างไร จึงควรอธิบายเรื่องนี้ต่อสังคมก่อน
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนการเรียกร้องให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ทุกกลุ่มที่ออกมาตอนนี้ ตนก็แปลกใจ เพราะตอนนี้ไม่มีใครถูกดำเนินคดีเลย มีเพียงนายสุเทพและแกนนำบางส่วนเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าทำไม จึงมีมติเหมือนพยายามช่วยเหลือเข้าข้างนายสุเทพ เพราะเรื่องดังกล่าวมันไกลมากกว่าจะเป็นข้อเสนอในขณะนี้ และอยากให้ที่ประชุมอธิการบดีดูจุดยืนทางการเมืองของแต่ละคนด้วยว่า ที่ผ่านมาแต่ละคนรับใช้ฝ่ายเผด็จการหรือฝ่ายประชาธิปไตย และหากมีการตรวจสอบกันก่อน ตนเชื่อว่าข้อเสนอน่าจะใกล้ความเป็นจริงมากกว่านี้
"ขณะที่ท่าทีพรรค ปชป. ตนก็ไม่แปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาแถลงว่าจะต่อสู้ แต่ไม่ลาออก และจะออกมาร่วมกับนายสุเทพเป็นบางครั้ง เป็นการสะท้อนตัวตนว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ทำ อะไรที่สุ่มเสี่ยงก็ใส่หน้ากากปิดบังตัวเองไว้ ตนจึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ถอดหน้ากากออกมาและพูดให้ชัดว่าเห็นด้วยกับนายสุเทพ และการบอกว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแล้วตนจะไม่ยอมรับตำแหน่งใดๆ นั้น เท่ากับบอกว่าถ้าสถานการณ์เดินไปถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทำลายประชาธิปไตย นายอภิสิทธิ์รับได้แต่ไม่รับตำแหน่งเท่านั้น เช่น หากมีการรัฐประหาร รับได้ แต่ไม่เข้าเป็น ครม. ถ้าฉีก รธน.รับได้ แต่ไม่มีตำแหน่งให้ ซึ่งตนคิดว่าคงไม่มีคณะรัฐประหารมอบตำแหน่งให้นายอภิสิทธิ์" นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามถึงการเจรจากับผู้ชุมนุมนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อนายกฯประกาศชัดว่าพร้อมเจรจา เรื่องรูปแบบก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จะมาเจรจาต่อหน้าสาธารณะหรือเจรจาภายในและแถลงสู่สังคม ตนก็คิดว่านายกฯ พร้อมและรัฐบาลก็พร้อมปฏิบัติได้ทันที แต่ขณะนี้ผู้ชุมนุมกลับปฏิเสธทุกรูปแบบ
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราปฏิเสธเฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น เพราะศาลไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยเรื่องนี้ ส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้นั้น ยืนยันว่าจะอยู่ในที่ตั้งเฉพาะบริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่จะยืดเยื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ที่มา มติชน
