ทีมข่าว นปช.
28 พฤศจิกายน 2556
สำหรับการชุมนุมติดต่อกันของนปช.แดงทั้งแผ่นดินเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) บรรดาแกนนำได้จัดคิวสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทปราศรัยแลกเปลี่ยนข้อมูลเล่าสู่พี่น้องที่เดินทางมาร่วมชุมนุมให้รู้เท่าทันสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ทีมงานได้นำคลิปการปราศรัยของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน มาเผยแพร่อีกครั้งพร้อมทั้งถอดคำปราศรัยสำหรับพี่น้องบางส่วนที่อาจเป็นประโยชน์ ดังรายละเอียดด้านล่างค่ะ
ถอดคำปราศรัยของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ
ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
เวที “รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ”
ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพฯ
วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2556
สวัสดีอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ขึ้นมารอบที่สามแล้ว เช้าตอน10.00 น. แล้วก็ตอน 18.00 น. เป็นคำแถลงที่เป็นทางการ คำแถลงนั้นมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เรามีเวปไซด์ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ ผู้ที่ดูอยู่ทางบ้านและไม่สามารถติดตามรายการได้ทันเวลาสามารถเข้าไปดูในเวปไซด์ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษได้ ทำไมเราต้องมีเวปไซด์ เหตุผลเพราะว่าส่วนมากของเราคนเสื้อแดงด้านหลักคือพี่น้องรากหญ้า ซึ่งอยู่ในโลกชีวิตจริงไม่ได้อยู่ในโลกไซเบอร์ โลกชีวิตจริงคืออยู่ในไร่ ในนา ในโรงงาน ในร้านค้า ในตลาด ทำมาหากินกันทั้งวันทุกวัน แต่เมื่อมีการต่อสู้ พี่น้องก็เสียสละ เสียสละรายได้ เสียสละเวลา เสียสละความสุขส่วนตัวมาร่วมกันชุมนุม ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณในหัวใจพี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลาย พี่น้องรากหญ้าของเราเป็นคนมีเกียรติ เราอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้อยู่ในโลกที่นั่งกด ๆ ๆ ๆ แต่ว่าเราปฏิเสธประชาชนคนที่ไม่ได้เป็นพี่น้องรากหญ้าไม่ได้ เราจึงจำเป็นที่มีเวปไซด์ และมีการถ่ายทอดสดทั้งในทีวีให้พี่น้องดูและถ่ายทอดทางอินเตอร์เน็ตให้พี้องที่ใช้คอมพิวเตอร์นั่งดู เพราะสังคมของคนเสื้อแดงมันจะต้องกว้างขวางเติบใหญ่สำหรับทุกชนชั้น
และไม่เพียงแต่เราต้องการหัวใจของชนชั้นอื่น ๆ นอกจากมวลชนพื้นฐานแล้ว เรายังต้องสนใจสังคมโลก นปช. ต้องทำงานต่างประเทศทุกวันเลย จะว่าไป อ.ธิดา ก็ไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ เรียกว่าพอใช้การได้จำนวนหนึ่ง แต่พูดไปพูดมาตั้งแต่มาเป็นประธาน นปช. ต้องพูดกับชาวต่างประเทศทุกวันเลย ยิ่งเวลามีม็อบ เฉพาะวันนี้สามรายค่ะ เอกอัครราชทูตหนึ่งรายมาเยี่ยมถึงที่นี่ เป็นเอกอัครราชทูตประเทศภาคพื้นยุโรปค่ะ พอดี อ.ธิดา ประชุมยังมาไม่ถึงพอเห็นแล้วลมแทบจับว่าท่านเอกอัครราชทูตประเทศหนึ่งมานั่ง ท่านบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ประเทศของท่านมองเห็นคนเท่าเทียมกัน ท่านรักประชาธิปไตย ท่านรักความเสมอภาค ท่านนั่งรอได้ค่ะ
และนอกจากนั้นก็มีสำนักข่าว มีหนังสือพิมพ์หนึ่งในฝรั่งเศสอายุ 60 ปี คือเลอมงค์ก็มานั่งคุย อีกอันหนึ่งก็เป็นสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวานนี้ก็มีบลูมเบิร์ก, มี CNN และนี่ยังมีนัดเอกอัครราชทูตค้าง ๆ อยู่เลย เป็นประเทศใหญ่มาก ๆ ก็มี แต่บอกว่ายังไม่ว่าง เดี๋ยวก่อน มันต้องเจอพี่น้องเสื้อแดง พี่น้องเสื้อแดงต้องมาก่อน
เราต้องทำงานควบคู่ไป บทเรียนจากครั้งที่แล้ว ในขณะที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ปรากฏว่าเราทำงานด้านต่างประเทศและสังคมโลกน้อยเกินไป พูดง่าย ๆ จะว่าไปนะ ด้านสื่อไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศเราก็ทำงานค่อนข้างน้อย แต่พวกนี้มันสำคัญนะ พอก่อนจะยกทัพยาตราไปที่ต่าง ๆ เอาคนไปขู่คุกคามสื่อ วันนี้ในคำแถลงข้อ 3 เราบอกเอาไว้ว่า หยุดคุกคามสื่อทั้งในประเทศไทยเป็นสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ นี่คือคำแถลงเรา!!!
สื่อในประเทศไทยและต่างประเทศมาในม็อบเสื้อแดงปี 52, ปี 53 และทุกครั้งที่เราจัดม็อบมากระทั่งปีนี้ปี 56 มีข่าวว่ามีคนเสื้อแดงทำร้ายสื่อหรือเปล่า มีข่าวว่าเราจำกัดพื้นที่สื่อว่าไปไหนไม่ได้ต้องอยู่แถวนี้ อยากจะไปไหนก็ไป แต่ก็มีบางครั้งที่เป็นสื่อเสื้อเหลืองแล้วตั้งใจมากวน ก็อาจจะมีกระทบกระทั่งเล็ก ๆ แต่ไม่มีการชกต่อย ครั้งหลังนิก นอสติทซ์ เขาเป็นช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน มันไม่ใช่ช่างภาพและนักข่าวคนเสื้อแดง นปช. ไม่มีสตางค์จะไปจ้างนักข่าวต่างประเทศประจำคนเสื้อแดงหรอกค่ะ ไม่มี!!! เขาเป็นนักข่าวอิสระ อยู่ประเทศไทยตั้งหลายสิบปี แต่ว่าจากการที่เขาเห็นคนเสื้อแดงถูกยิงถูกฆ่า เขาได้ไปช่วยเป็นพยานในบางครั้งบางกรณีที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ เขายังเป็นสื่ออิสระ แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่การกระทบกระทั่งจากมวลชน แกนนำชื่อนายชุมพล เป็น ส.ส. ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ พูดออกไมโครโฟนให้มวลชนจัดการกับนิก นอสติทซ์ และเรื่องนี้จึงทำให้สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทยออกการประณาม และรวมทั้งฮิวแมนไรท์วอทช์ก็ประณาม เพราะสำหรับประเทศที่เจริญแล้วเสรีภาพในการพูดในการเขียนและการแสดงออกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นี่คืออารยะชนค่ะ
นี่คนเสื้อแดงก็ลำบากนะ ถูกสื่อบางส่วนด่าเอา ๆ แต่เราก็ไม่ว่าอะไร เราก็หวังว่าอดทน เขาคงเห็นความดีของเราสักวันหนึ่ง และคงเห็นความเลวของไอ้พวกบ้านี่สักวันหนึ่ง อดทนมาก คนที่อดทนคือคนเสื้อแดง เพราะเราต้องการชนะหัวใจคนทั้งประเทศและคนทั้งโลกค่ะ ว่าเราเป็นฝ่ายถูกต้อง คุณทักษิณ ชิตวัตรก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่ถูกสื่อกระทำอยู่ คำถามก็คือสื่อจำนวนหนึ่งนั้นความเชื่อต่างกันไม่เป็นไร แต่ว่าบางคนมีวิธีคิดแตกต่างคนอื่น นักข่าวคนนี้แหละเขาเคยถาม อ.ธิดา ว่า (ตอนนั้นเป็นรักษาการประธาน นปช. ไม่กี่วัน ยังรู้จัก อ.ธิดา น้อยไป) “นี่ นปช.ตอนนี้ลอกคราบแล้วเหรอ?” อ.ธิดา ก็เลยบอกว่า “ชั้นไม่ใช่งู นปช. ก็ไม่ใช่งูเรื่องอะไรจะลอกคราบล่ะ” นี่วันแรก ๆ เป็นประธาน นปช. นะ ไม่พอ อาจารย์ก็เลยบอกว่า “คุณนั่นแหละถามอยู่คนเดียวตั้งนาน ออกไปเลย ให้คนอื่นเขาถามบ้าง” อันนี้เป็นทัศนะส่วนตัวเรายอมรับว่าเขาเป็นแฟนคลับของใครก็เป็นของคนนั้น เราไม่ต้องการให้สื่อมาเป็นคนเสื้อแดงหรือเข้าข้างเรา ขอแต่เพียงให้เป็นกลาง เสนอข่าวรอบด้าน และไม่ควรจะไปบังคับให้ใครเป่านกหวีด เช่น สรยุทธก็ไปบังคับให้เขาเป่านกหวีด บังคับเขาทำไม? มันน่าสงสารสรยุทธจริง ๆ อาจารย์ดูวันนั้น เขาพูดว่าที่เขาเป่าเพื่อออกตัวให้ได้รู้ว่าไม่ได้หมายความว่ากูเป็นพวกมึง แต่เขาพูดเพราะ ความหมายก็คือเขาต้องการพูดว่าเขายินดีจะเป่าก็ได้แต่ความหมายคือเขายังทำหน้าที่สื่อ ยังเป็นหน้าที่สื่อที่มีทัศนะเป็นของตัวเอง เราก็ไม่ได้ชื่นชมเพราะเขาก็ไม่ได้เข้าข้างเรา
เพราะฉะนั้นที่เราพูดว่าหยุดคุกคามสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ สื่อทั้งหลายอย่าคิดว่า นปช. จะมาประจบสื่อนะ ไม่ใช่!!! เราพูดตามหลักการเพราะคนเสื้อแดงเป็นมนุษย์ที่มีเหตุผล มีหลักการ และมีความรู้สึกที่เป็นคนที่อารยะไม่ใช่พวกอนารยะอย่างม็อบอีกหนึ่ง คุณไม่ต้องเชียร์เราก็ได้ ก็เสนอข่าวและภาพทั้งสองด้าน แค่นี้เราก็ไม่ว่าอะไรแล้ว คำแถลงวันนี้ไม่ใช่เรื่องประจบประแจงแต่เป็นเรื่องหลักการของเสรีภาพของสื่อ และถ้าสื่อมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทำหน้าที่สื่อของตัวเองได้อย่างถูกต้อง นี่ก็ช่วยประเทศชาติประชาชนไทยไปได้มาก และเราก็หวังว่าที่ม็อบคนบ้าไปตามสื่อต่าง ๆ หวังว่าสื่อทั้งหลายก็คงไม่ได้กลัวคนบ้าหรือว่าบ้าตามไปกับเขานะ หยิ่งในศักดิ์ศรีในสื่อ เสนอความจริงตรงไปตรงมามีแง่มุมหลายด้าน และถ้าจะเขียนวิเคราะห์อะไรก็ให้มันมีข้อมูลด้วย เพราะนักวิชาการจำนวนหนึ่งแม้กระทั่งเป็นนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยก็ขาดข้อมูล เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์และการโจมตีบางครั้งจึงไม่เป็นธรรมกับคนที่คุณไปด่าเขา เพราะคุณยังไม่รู้เลย เช่น วันนี้คนเสื้อแดงมาทำไม คนเสื้อแดงที่นี่เขารู้กันหมดแล้ว วันที่ 30 เราก็จะมาให้มากกว่านี้อีก ไม่ได้มาเล่น ๆ ไม่ได้มาฟังณัฐวุฒิ จตุพร และก็ไม่ได้มาแค่เต้นระบำ ร้องเพลง เรามาเพราะเราคือนักต่อสู้ของประชาชนที่ต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยสถิตย์สถาพรในประเทศไทยให้ได้ แล้วก็ต้องมาคุมเชิงคนบ้าที่มันจะพาประเทศให้ถอยหลังเป็นร้อยปีด้วย
แล้วก็เตือนว่าอย่าตามคนบ้ามาก เพราะคนบ้าสองคน คนหนึ่งก็คือสนธิ ลิ้มทองกุล แม้นเขาจะไม่ได้มานำในการเดินทัพ แต่เขานำทางความคิด สนธิ ลิ้มทองกุล ก็คือคนที่ตายไปแล้วจากการที่ศาลสั่งล้มละลายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง นี่ตายไปแล้ว!!! สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ต้องหาสำคัญ สั่งการอันทำให้เกิดผลบาดเจ็บล้มตาย นี่ก็เท่ากับตายทั้งเป็นไปแล้ว เดี๋ยวเราจัดการสุเทพ เทือกสุบรรณ 30 พฤศจิกายน 12 ธันวาคมไปดูหน้าที่ศาลอาญาด้วย คนที่โดนข้อหาทำให้เกิดการตายคนเดียวชีวิตทั้งชีวิตก็แย่แล้ว นี่ทำให้เกิดการตายของคนตั้งหลายสิบคน บาดเจ็บสองพันกว่าคน และที่สำคัญทำให้เกิดความเคียดแค้นของประชาชนไทยหลายสิบล้านคน ใครจะตายหนักเท่ากับสุเทพ เทือกสุบรรณ
คนเสื้อแดงนับสิบล้านคนล้วนเคียดแค้นอภิสิทธิ์, สุเทพ และผู้ทำเกินกว่าเหตุในการฆ่าประชาชนและทำให้เกิดการบาดเจ็บ นี่มันคนนับสิบล้านคน แล้วแบบนี้สุเทพจะตายกี่ครั้ง? แล้วจะตายดีหรือเปล่า? อย่างคุณสนธิเขาเป็นสื่อมวลชน เป็นนักประวัติศาสตร์ ที่สำคัญก็คือทำธุรกิจไฮเทค ไปซื้อทำสื่ออเมริกา ฮ่องกง หวังจะเป็นเจ้าพ่อทางวงการสื่อ ทำดาวเทียม อยากจะทำดาวเทียมแข่ง อ.ธิดาไม่ต้องการซ้ำเติม ส่วนที่ อ.ธิดา ยกย่องก็คือ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นคนเก่ง เป็นคนที่มีข้อมูล เพราะเขาเป็นนักประวัติศาสตร์แล้วทำสื่อ แล้วทำธุรกิจ เพราะฉะนั้นความรอบรู้ของเขานั้นสูง จึงทำให้หลอกปัญญาชน ด็อกเตอร์ทั้งหลายได้มาก เพราะคนเหล่านั้นไม่รอบรู้แบบสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์โดนสนธิพูดเรื่องรัฐศาสตร์ก็เชื่อ เพราะตัวเองไม่รู้ ขายหุ้น ต้องจ่ายภาษีหรือเปล่า ด็อกเตอร์พวกนี้ไม่รู้ บางคนเป็นหมอผ่าตัดที่มาเป็นแถว ดูว่าฉลาดนะ ความจริงครอบครัวอาจารย์เป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ลูกชายก็เป็นหมอ หมอเหวงก็เป็นหมอ อาจารย์ก็สอนวิชาเรื่องเชื้อโรค คนที่แวดล้อมเป็นคนเก่ง แต่คนจำนวนมากที่แวดล้อมกลายเป็นเสื้อเหลืองหมด เพราะเก่งเฉพาะทางแต่ไม่รู้ทั้งหมดจึงถูกหลอกได้ง่าย สู้พวกเราไม่ต้องเก่งเฉพาะทางเราก็รู้หมดทั้งนั้นแหละ คนเสื้อแดง
คือในส่วนที่เก่งของเขาเราก็ยอมรับ และนี่ก็คือสิ่งหนึ่งที่เขาดึงคนมาได้มาก ใช้ทุกอย่างเป็นประโยชน์ แต่เขารู้ว่าวันดับของเขามีแล้ว เขาจึงส่งไม้ท้าทายพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง ๆ ที่ด่ามากมาย หลายคนดีใจเห็นด่าประชาธิปัตย์มาก เอาเทปมารีรันเยอะแยะเลย ที่ด่าก็ด่าจริงนะ แต่ที่ด่าก็คืออยากให้ประชาธิปัตย์ฟังเขาและทำตามที่เขาบอก นี่คือสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะฉะนั้นคนตายอีกคนหนึ่งก็คือสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่รู้จะไปทางไหน ไหน ๆ ก็ลงนรกแล้ว พวกที่อยู่ใกล้ ๆ กันชวนไปทางไหนก็ไปกับเขา พวกนั้นมาชวนสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้ปฏิวัติประชาชน สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่รู้จะไปทางไหนก็ไปกับเขาด้วย เพราะเลือกตั้งธรรมดาไม่มีทางชนะ แล้วชนักติดหลังติดคอต้องโทษข้อหาที่เกี่ยวข้องทำให้มีการตายเกิดขึ้นโดยเจตนาเล็งเห็นผลตั้งกี่สิบคดี ทุกคดีไม่มีชายชุดดำ คนตายไม่มีอาวุธอยู่ในมือแม้แต่น้อย สุเทพ เทือกสุบรรณ จะไปทางไหน? มองเห็นเหลือทางเดียวก็คือล้มกติการะบอบประชาธิปไตยไปทางปฏิวัติประชาชนกับเขาด้วย เผื่อฟลุ๊คก็อาจจะชนะ แถมยังมาพูดลอยหน้าลอยตา ไม่คิดว่าจะโดนข้อหาประหารชีวิต เขาบอกว่า “มาตั้งเป็นนายกฯ ก็ไม่เอา” นี่สุเทพ เทือกสุบรรณ
ยังไม่รู้เงาหัวตัวเองเลยว่าข้อหาประหารชีวิต ทั้งกบฏ ทั้งก่อการร้าย มีมากมาย แต่ว่าแน่นอนว่าคนที่ตายไปแล้วก็กล้าทำทุกอย่าง คำขวัญของเราจึงใช้คำว่า “หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้คนไทยเป็นตัวประกัน” หรือ “STOP HIJACKING THAILAND” ทำให้เราต้องเข้าใจว่า คนบ้าหนึ่ง คนเมาหนึ่ง คนโง่มหาวินาศหนึ่ง คนสามอย่างนี้เราไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรได้มากแค่ไหน มันทำได้ทุกอย่าง เมานี่ยังดีนะ แต่บ้าบวกโง่นี่สุด ๆ เลย บ้าบวกโง่ก็คือสุเทพ เทือกสุบรรณ ความบ้าคือสุดขีด ความโง่ก็คือไปเชื่อกลุ่มพันธมิตรและสมศักดิ์ โกศัยสุข เพราะพวกนั้นฝันอยากเป็นนักปฏิวัติ
เวลาปกติเขามีบอกว่ามีฉลาด โง่ ขยัน ขี้เกียจ คนฉลาดขี้เกียจก็ยังเอาไว้นะ โง่และขี้เกียจก็ยังเอาไว้ไหม แต่อันนี้ทั้งบ้า ทั้งโง่ และขยันด้วย เอาไว้ไหม? มันขยันไปตั้งหลายจังหวัดนะแล้วทำงาน ทำไมต้องขยันเพราะเวลาของสุเทพ เทือกสุบรรณเหลือน้อยแล้ว ไม่นานนี้เอง เขาบอกชัด ๆ ว่าที่เข้ามาปิดล้อมและต้องการที่จะเข้าไปบุกรุกเพื่อหยุดยั้งไม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นได้ และเขาคิดว่าถ้าราชการไม่ได้บริหารสามวันนี้แปลว่าประเทศนี้ล้มเหลวอยู่ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร หยุดสามวัน ข้าราชการก็เลยนอนเล่นแล้วชวนกันมาม็อบเสื้อแดงดีกว่า ไปยึดกระทรวงการคลังและบอกว่าเป็นเส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงทั้งประเทศ พวกนี้พูดภาษาคล้าย ๆ กัน สมัยปี 42 ที่เขาเป็นรัฐบาล เขาจะพูดเรื่องหล่อเลี้ยง เขาบอกว่าต้องช่วยธนาคารก่อนเพราะธนาคารจะได้ช่วยส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงแล้วปรากฏว่าธนาคารส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงส่งเงินไปไหม? ไม่ส่ง!!! พรรคประชาธิปัตย์ทำให้ประเทศนี้เจ๊งสองล้านล้านเท่ากับเรื่องรถไฟความเร็วสูงเลย
เหล่านี้คือไปหนุนสถาบันการเงิน นายธนาคารทั้งหลายทั้งหมด และบัดนี้หนี้ยังคงอยู่สองล้านล้าน ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มีปัญญาในการที่จะใช้หนี้ที่เป็นต้นทุนหนี้ แต่บังคับให้รัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยทุกปี ประชาธิปัตย์พูดความเลวอันนี้หรือเปล่า? ไม่พูด!!! หุบปากเลย!!! ไปยึดกระทรวงการคลังเพราะเขาหวังว่าไปยึดแล้วรัฐบาลจะไม่มีเงินไปจ่ายเงินเดือน ไม่มีเงินไปให้ชาวนาจำนำข้าว ไม่มีเงินไปจ่ายเงินเดือนคนส่วนต่าง ๆ แต่พอยึดไปแล้วคืนเดียวลูกชาย (ลูกติดแม่ที่ใช้นามสกุลแม่) ในฐานะส.ส.ต้องออกมาช่วยว่า ที่เรามายึด เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำให้ข้าราชการไม่ได้เงินเดือนนะ หรือไม่ให้ชาวนาไม่ได้เงินนะ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่เกี่ยว ไม่เกิดอะไร เพราะกลัวข้าราชการกับชาวนาด่าพรรคประชาธิปัตย์ สมน้ำหน้า ไม่คิดให้รอบคอบ เพราะทั้งโง่และทั้งบ้า นี่คือสิ่งพิสูจน์!!!
จะออกจากคลังก็กลัวเสียหน้า เลยวิ่งมาหาธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ แปลว่าที่ไปยึดนั้นล้มเหลว เพราะถ้ากระทรวงการคลังทำงานไม่ได้จริง ประชาชน ข้าราชการทั่วประเทศต้องด่าประชาธิปัตย์ ด่าสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เพราะทั้งโง่ทั้งบ้ามันถึงคิดไม่ออก ตอนนี้มาอยู่ที่ศูนย์ราชการชอบใจเพราะแอร์มันเย็นฉ่ำทั้งหมดเลย ความจริง อ.ธิดา ก็เคยหมายตาศูนย์ราชการ...สำหรับคนเสื้อแดง แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะมันเย็นดี คุณจะทำอะไรคุณต้องมีเหตุผล ต้องทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ประชาชนต้องสนับสนุน แล้วต้องรู้ประมาณว่าโทษกับผลประโยชน์นั้นทำได้หรือไม่ กำลังเพียงพอหรือไม่ นี่คือคนเสื้อแดง ไม่ใช่เขา เขาเจ็บใจธาริต เพ็งดิษฐ์ คนเดียว ยกขบวนเข้าไปอยู่ในศูนย์ราชการเลย นี่คือคนที่ทำไม่มีเหตุผล ทำแล้วประชาชนเสียประโยชน์
เรามาชุมนุมกัน เวลาที่เราอยู่กัน หนึ่งเราได้พบปะ ได้เข้าใจสถานการณ์ แกนนำตั้งแต่เช้าสามท่าน ดร.ประแสง มงคลศิริ, คุณวรชัย เหมะ, คุณธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ก็มาวิเคราะห์ข่าวตั้งแต่เช้า สายหน่อยพี่น้องแกนนำทั้งหลายก็ขึ้นมาพูดจาปราศรัย แกนนำที่มาจากภูมิภาคหลายคนปราศรัยเข้าตา บางคนปราศรัยดีกว่าคนจำนวนมาก แล้วพอมาบ่าย ๆ เย็น ๆ ขณะนี้เรามีแนวร่วมขึ้นเวทีมากมาย เรายังขาดอยู่ชุดหนึ่งคือกรรมกร วันนี้เรามาเปิดผู้หญิงเก่งคนหนึ่งก็คือ จิตรา คชเดช ผู้นำกรรมกรหญิง เธอเป็นเจ้าของคำพูดง่าย ๆ เรียบ ๆ แต่อภิสิทธิ์หงายหลังแล้วหงายหลังอีกก็คือ “ดีแต่พูด” ไม่ต้องด่าหยาบคายเหมือนม็อบที่โน่น อ.ธิดาจะให้มาชำแหละเรื่องสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจซึ่งกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มของสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่วมก็ร่วมแต่อย่าให้ถึงกับตัดน้ำตัดไฟนะพวกจะบอกให้ เราจะมีคนมาร่วมกับเรามากมาย สามารถมาแสดงวิสัยทัศน์ความคิดเห็นอย่างเหมาะสม เราจะไม่มีการพูดหยาบคาย หยาบคายมากเกินไปก็ไม่มีผลดี เพราะเขาด่าเราว่าเป็นพวกไพร่ไม่มีวัฒนธรรม แต่ปรากฏว่าเวทีมันหยาบที่สุดเลย คำผวนทั้งหลายพูดออกหมด ด่านายกรัฐมนตรี ด่าคุณทักษิณ ชินวัตร ด่าอย่างไม่มีเหตุผล ด่าแบบเอาอารมณ์ ในขณะที่เวทีเรามีแต่เรื่องสมองล้วน ๆ แล้วมันทำให้เด็ก ๆ ซึมซาบไปด้วยความเกลียดชังคุณทักษิณอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วมาด่าว่านายกฯ ซึ่งเป็นคำพูดที่เลวร้ายทั้งสิ้น แต่ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ
ให้กำลังใจพี่น้องและรัฐบาล และส.ส.ในพรรค หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาและเรื่องราวพิสูจน์คน ถ้าเป็นคนที่คงทนในการต่อสู้ประชาชนไทยคนเสื้อแดงจะรู้ได้เองว่าใครคือทองแท้ ไม่ต้องกลัวคำด่าว่าของพวกเลว ๆ แบบนั้น วันที่ 30 มากันให้มากสักหน่อยจะได้ไหม มันบอกว่ามันจะพิชิตศึกภายใน 2 วัน มีข่าวลือหนาหูว่าอาจจะมีการรัฐประหารก็ได้ แต่ว่าปฏิญาณของคนเสื้อแดงก็คือเราจะต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ มากันทุกวันและมาให้มากวันที่ 30 เพื่อให้พวกเขารู้ว่าผู้รักประชาธิปไตยมีมากกว่าพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปีค่ะ.