ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวน3ศพสวนลุมฯ-ชี้ไร้อาวุธ

ข่าวสด 12 กันยายน 2556


 วันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายปิยะพงษ์ กิติวงศ์ ผู้ตายที่ 1 นายประจวบ ศิลาพันธ์ ผู้ตายที่ 2 และนายสมศักดิ์ ศิลารัตน์ ผู้ตายที่ 3 ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณสวนลุมพินี ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 โดยพนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 5 ปาก

 นายธงชัย เฮงหลียน เบิกความว่า พยานประกอบอาชีพค้าขายปลาทู ขณะออกไปซื้อปลาทูพบผู้ชุมนุมเลยเข้าไปดูและจอดรถที่สน.ลุมพินี สักพักเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแถวพร้อมถืออาวุธปืนอยู่บริเวณถนนวิทยุ ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เลยวิ่งข้ามฝั่งไปนั่งอยู่บนฟุตปาธสวนลุมพินี พร้อมนักข่าว 1 คน สักพักนักข่าวคนดังกล่าวถูกยิง พยานกำลังลุกไปช่วยก็ถูกยิง ระหว่างที่ลุกนั้นพยานหันหลังให้เจ้าหน้าที่

 ด้านนายปรีชา ณุวงษ์ศรี เบิกความว่า พยานรับราชการอยู่ที่วชิรพยาบาล วันเกิดเหตุรับมอบหมายให้ไปประจำอยู่ที่ถนนวิทยุ ก่อนรับแจ้งเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุมในสวนลุมพินีและมีผู้บาดเจ็บ จึงเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงเห็นผู้เสียชีวิตอยู่ขอบสระน้ำ เลยเข้าไปนำศพออกมาทราบชื่อนายปิยะพงษ์ โดยสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่อยู่บนเนินภายในสวนลุมพินีหลายสิบนาย แต่ละนายหมอบกับพื้นและประทับปืนลักษณะเล็งยิง ต่อมารับแจ้งมีศพอีกราย จึงรุดตรวจสอบพบศพนายประจวบ โดยจุดที่พบศพทั้ง 2 รายจะมองเห็นเจ้าหน้าที่ในแนวเดียวกัน และเก็บศพไม่พบผู้ตายมีอาวุธ

 นางจีน พวบขุนทด มารดาของนายสมศักดิ์ เบิกความว่า วันเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านที่พระประแดงไปร่วมชุมนุมกับเพื่อน ก่อนเพื่อนลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่านายสมศักดิ์ถูกยิงตายแล้ว อีกวันเลยเดินทางไปรับศพที่ร.พ.ตำรวจ

 ขณะที่นายแสงเพชร รื่นรมย์ รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและเห็นเจ้าหน้าที่วางกำลังบริเวณถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ โดยทุกนายมีอาวุธปืน ต่อมามีรถจักรยานยนต์ 5 คันวิ่งไปในสวนลุมพินีและถูกยิงมาจากถนนพระราม 4 ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพออกมาพบใน 2 ศพอยู่ในกลุ่มที่ขี่รถเข้าไป ซึ่งไม่พบอาวุธ

 นายเทอดศักดิ์ ดวงพระเพ็ง รปภ.สวนลุมพินี เบิกความว่า วันเกิดเหตุเข้าเวรและช่วงบ่ายเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งแนวตรงถนนวิทยุ สักพักเจ้าหน้าที่ปะทะกับผู้ชุมนุม โดยได้ยินเสียงปืนดังจากถนนวิทยุ และรับแจ้งมีรถจักรยานยนต์เข้าไปในสวนลุมพินี โดยมีผู้บาดเจ็บ และจากที่เคยเป็นพลทหารและฝึกใช้อาวุธคาดว่าเสียงปืนน่าเป็นกระสุนจริงและไม่พบบุคคลใดถืออาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 8 ต.ค. เวลา 09.00 น.