โทสาวาทของปชป.

ข่าวสด
14 สิงหาคม 2556

คาดเชือก คาถาพัน
คําพูดประเภท "ม็อบผู้ดี-ม็อบคนดี" ที่หลุดจากปากของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และมีการนำไปเปรียบเทียบกับ "ม็อบไพร่" ก็ดี

หรือ เสียงตะโกนโห่ลั่นของสมาชิกพรรคประชา ธิปัตย์ ทั้งระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือบนเวทีปราศรัยนอกสภา ที่เรียกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกฝ่ายว่า "ขี้ข้า" ก็ดี

ไปจน กระทั่งถึงคำประกาศว่าด้วย "เผาบ้านเผาเมือง-คนชุดดำ" ที่ติดตามปาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ มาตลอด แม้กระทั่งในวันที่ศาลมีคำพิพากษาและวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่การเผาบ้านเผา เมือง และไม่มีชายชุดดำแล้วก็ดี

ล้วนเป็นคำพูดที่ อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ แปลจาก hate speech ในภาษาต่างประเทศเป็นไทยว่า "โทสาวาท" ทั้งสิ้น

โทสาวาทเหล่านี้ส่งผลชัดเจนหลายประการด้วยกัน

ประการ แรก ก็คือไม่ทำให้คนรักกันนั้นแน่นอน ร้ายกว่านั้นก็คือจะยิ่งทำให้คนในสังคมแบ่งฝักฝ่ายและเกลียดชังกันมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้เหตุผลข้อเท็จจริงเข้ามารองรับ

ใช้แต่อารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ

ประการ ต่อมา เมื่อเริ่มพูดจาภาษาเหล่านี้แล้ว พูดหนต่อไปก็มีแต่จะต้องเท่าเดิมหรือแรงกว่า ที่จะหันกลับมาเสียงอ่อยลง น้ำหนักหรือเนื้อหาเบาลงนั้นยากที่จะเป็นไปได้

ดูตัวอย่างจากพรรคประชา ธิปัตย์ในวันนี้ก็เห็นชัด

ประการถัดไป ก็คือเมื่อเดินลึกเข้าไปทุกที เหวี่ยงตัวเองออกไปอยู่สุดปลายของสังคมที่เป็นขั้วเป็นฝักฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

ก็ยิ่งห่างไกลจากมวลชนส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงกลางมากขึ้นไปทุกที

เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมประชาธิปัตย์ถึงแพ้เลือกตั้งใหญ่มาแทบทุกครั้งในระยะหลัง และยังมีแนวโน้มจะแพ้ในหนต่อๆ ไป

ถ้ายังไม่ปรับปรุงตัวแก้ไขอะไร

ซึ่งดูจากสภาพความเป็นจริงแล้ว-ยากส์

มีแต่จะยิ่งเกรี้ยวกราดขึ้นไปอีก

เผื่อฟลุกลูกเดียว