ข่าวสด
14 สิงหาคม 2556
หลังการสลายเหตุการณ์การชุมนุมด้วยการใช้ กระสุนจริง ไปร่วม 100 ศพในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เสนอคณะกรรมการออกมา 3 ชุด
ชุด 1 คือคณะกรรมการคอป.อันมี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน
ชุด 1 คือคณะกรรมการปฏิรูปแห่งชาติ อันมี นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ชุด 1 คือสภาปฏิรูปอันมี นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน
ฟังดูคุ้นๆ หรือไม่
ตอนที่มีการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 ชุดออกมา แม้กระทั่งพวกเดียวกันอย่าง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ก็ไม่เห็นด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ 2 คณะกรรมการหลังอันเกี่ยวกับ ปฏิรูป
ถามว่าจากปี 2553 มาถึงเดือนสิงหาคม 2556 เวลาผ่านมา 3 ปีแล้วประเทศไทยได้อะไรจากคณะกรรมการปฏิรูปของ นายอานันท์ ปันยารชุน และของ นพ.ประเวศ วะสี บ้าง
คำตอบยังอยู่ใน สายลม อ่อน
ระหว่างคณะกรรมการการปฏิรูปอันมี นายอานันท์ ปันยารชุน และ นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธานเมื่อปี 2553 กับการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่ สภาปฏิรูปการเมือง เป็นอย่างไร
หลายคนย่อมมี จินตภาพ เชิงเปรียบเทียบก่อขึ้น
ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่ากระบวนการในยุคของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสมอเพียงการตั้งคณะกรรมการเพื่อระดม ความคิด
มิได้มีการลงมือ ปฏิบัติ อย่างเป็นจริง
ดังนั้น สิ่งที่เป็นผลจึงน่าจะเป็น รายงาน อันมาจากคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 2 ชุดนั้นเป็นสำคัญ เพียงแต่ว่ามีใครรู้บ้างว่าคณะกรรมการชุดของ นายอานันท์ ปันยารชุน เสนออะไร คณะกรรมการชุดของ นพ.ประเวศ วะสี เสนออะไร
คำตอบยังอยู่ใน สายลม อ่อน
ทั้งๆ ที่การขับเคลื่อนในเรื่อง การปฏิรูป ในยุคของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสมอเป็นเพียงการเล่นกายกรรมในทาง ความคิด
แต่เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงมือทำ
น่าแปลกอย่างยิ่งที่ไม่เพียงแต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะปฏิเสธตั้งแต่ต้น หากแต่พรรคประชาธิปัตย์ยังออกมาต่อต้านอย่างชนิดหัวชนฝา
เรียกว่า ปาหี่ บ้างล่ะ โจมตีว่าเป็นการเสีย งบประมาณ บ้างล่ะ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง การตั้งคณะกรรมการชุด นายอานันท์ ปันยารชุน คณะกรรมการชุด นพ.ประเวศ วะสี ก็ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกัน
ใช้ เงิน โดยไม่มี การทำ
บทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ บทบาทของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงมีความเด่นชัดสัมผัสได้
เป็นความเด่นชัดที่จะ ค้าน ทุกเรื่อง ค้านโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริง ค้านกระทั่ง ลืม ไปแล้วว่าตนเคยทำอะไรไว้บ้าง และสูญเสียไปอย่างไรบ้างโดยไม่มีการลงมือทำ
จึง คิด ว่ารัฐบาลอื่นจะเป็นเหมือน ตน