ข่าวสด
7 สิงหาคม 2556
หากมองอย่างเปรียบเทียบถึงความสามารถในเกมของรัฐสภาระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทยกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเหนือกว่า
เหนือกว่าในโวหาร เหนือกว่าในจังหวะก้าวการเคลื่อนไหว
กระนั้น กล่าวสำหรับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งกำหนดจะพิจารณาวาระ 1 ขั้นรับหลักการในการประชุมวันที่ 7 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยมิได้เดินไปอย่างโดดเดี่ยว ตรงกันข้าม เป็นการเดินไปพร้อมกับพรรคร่วมรัฐบาล
มีพรรคชาติไทยพัฒนา มีพรรคชาติพัฒนา มีพรรคพลังชลร่วมด้วย
กล่าวสำหรับคะแนนเสียง เด่นชัดอย่างยิ่งว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ในวาระ 1 ขั้นรับหลักการอย่างแน่นอน
กระนั้น ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นมิได้อยู่ที่จำนวนเสียง มิได้อยู่ที่จำนวนมือ ข้อใหญ่ใจความอยู่ที่การยอมรับของสังคมโดยรวมว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถทำได้อย่างไร
ความเห็นด้วยในทาง สังคม จึงสำคัญ
ถามว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีความซับซ้อน มีการหมกเม็ดซ่อนปมเพื่อช่วยพวกพ้อง เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาหรือไม่
ใครที่ได้ศึกษาทั้ง 7 มาตราก็ต้องยอมรับว่า - ไม่มี
ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจะอภิปรายทุกคน แปรญัตติทุกมาตรา ทุกถ้อยคำ แต่จะทำอย่างไรก็ไม่ได้เหนือไปกว่าที่ดำรงอยู่ภายใน 7 มาตรา
ขณะเดียวกัน แกนนำคนเสื้อแดงซึ่งมีบทบาทเป็นอย่างสูงในการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมกระทั่งได้รับการยอมรับในพรรคเพื่อไทย ได้รับการยอมรับในพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมมีความสามารถอย่างเพียงพอที่จะชี้แจงที่จะอธิบาย
จะไปกลัวอะไรกับ โวหาร
เมื่อสภาพความเป็นจริง เนื้อหาของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีความบริสุทธิ์และจริงใจต่อเหล่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสถานการณ์ความขัดแย้งในทางการเมือง
พรรคร่วมรัฐบาลสมควรเปิดหน้าชนอย่างเต็มพิกัด
ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แสดงโวหารของตนอย่างไม่ยั้ง หากแต่ก็พร้อมที่จะตอบโต้ พร้อมที่จะอรรถาธิบายอย่างเยือกเย็นสุขุม
ยิ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ยิ่งมีความจำเป็น
ความจำเป็น 1 คือ ประชาชนจะได้เห็นกระบวนการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าดำเนินไปอย่างไร ความจำเป็น 1 คือ ประชาชนจะได้เห็นกระบวนการต่อสู้และอธิบายอย่างเยือกเย็นสุขุมอย่างไร
ภาพ 2 ภาพนี้คือความเป็นจริงเฉพาะหน้า
ดังที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางแล้วว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้คำนึงถึงประชาชน คำนึงถึงเหยื่อ
ความเป็นจริงนี้จะปรากฏ ณ เบื้องหน้าประชาชน และจะนำไปสู่การเปรียบเทียบกับความพยายามในการบิดเบือน ปั้นแต่งของอีกฝ่าย ในที่สุดประชาชนย่อมมีวิจารณญาณที่จะเลือก
เลือก ความจริง หรือ ความเท็จ