คลิปเสียง "บิ๊กอ๊อด-ทักษิณ" ไร้ประเด็นเสื้อแดง

จากหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2556

รายงานพิเศษ

ปม "คลิปเสียง" กลายเป็นตัวเร่งอุณหภูมิการเมืองให้ร้อนแรงขึ้น ถึงขั้นเรียกร้องให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ซึ่งถูกระบุว่ามีเสียงเหมือนในคลิปลาออก ทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง

เจาะลึกลงไปในเนื้อหาการสนทนาปรากฏว่า ส่วนใหญ่พูดถึงการสมยอมอำนาจกันระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มอำมาตย์และทหาร รวมถึงการหาช่องทางพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ 

ไม่พูดถึงการช่วยเหลือคนเสื้อแดงแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นมวลชนที่สนับสนุนและต่อสู้ให้เครือข่ายทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง 

นักวิชาการและคนเสื้อแดงมองประเด็นนี้อย่างไร....?














ธิดา  โตจิราการ
ประธาน นปช. 


หากคลิปเป็นของจริงก็สามารถทำความเข้าใจได้ กับการที่พ.ต.ท.ทักษิณอยากกลับบ้าน เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ถูกกลั่นแกล้ง โดนอำนาจนอกระบบไล่ออกนอกประเทศอย่างไม่เป็นธรรม ต้องมีอารมณ์เหงาคิดถึงบ้าน 

จึงพยายามประนีประนอมกับฝ่ายชนชั้นนำ เล่นละครบนยอดพีระมิดเพื่อรักษามารยาท สร้างมิตรขึ้นมาชั่วคราวบ้าง ซึ่งอาจมีบางคนคอยวางบทบาทเป็นตัวประสานเชื่อมความสัมพันธ์ให้ ทั้งที่ตัวเองอาจทำอะไรไม่ได้เลย 

แต่กลัวว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะถูกหลอกซ้ำซาก จะเห็นได้จากการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลถูกกีดขวางอย่างเอาเป็นเอาตาย อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมกะโปรเจ็กต์ทั้งหลาย รวมถึงการคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช. ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นต้น 

ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงจะไม่มีการเล่นละครดังกล่าว มีเพียงเป้าหมายเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบอย่างแท้จริงเท่านั้น

เป้าหมายของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกัน พ.ต.ท.ทักษิณอยากกลับบ้าน นักโทษการเมืองอยากได้ความเป็นธรรมกลับไปหาครอบครัว ญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมอยากนำฆาตกรมาติดคุกโดยไม่สนการนิรโทษกรรม 

พรรคเพื่อไทยอยากเป็นรัฐบาลครบเทอม รัฐบาลอยากเดินหน้าพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน นปช.อยากให้เดินหน้านิรโทษกรรม ก่อนเพราะมันผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี ฯลฯ 

ดังนั้น เราต้องยอมรับความแตกต่าง อย่าว่ากัน ต้องขอบคุณทุกฝ่ายทั้งมวลชน พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณที่ร่วมสนับสนุน เหมือนอย่างที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่าจะขับรถต่อไปเอง แต่แล้วก็กลับมาเข้าร่วมขบวนอีก เราก็ไม่ว่าอะไร 

ทั้งนี้เพื่อหลักการเดียวกันคือให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง 
















สมบัติ  บุญงามอนงค์
บ.ก.ลายจุด

เนื้อหาที่เขาคุยกันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็มีการเจรจาแบบนี้อยู่ตลอด เป็นเรื่องปกติ แม้แต่ในสนามรบก็ยังมีการเจรจา รบไปเจรจาไปเป็นการหาทางออกเพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงเผชิญหน้ากัน 

หากฟังเนื้อหาในบทสนทนาแล้วจะเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเจรจาหาทางออกให้กับตัวเอง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการเจรจาเป็นแนวทางที่มีความชอบธรรม 

อย่างไรก็ตาม แม้การเจรจาทำให้บรรยากาศระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้งดี แต่ต้องดูด้วยว่าทำให้บรรยากาศการเมืองของกลุ่มที่สนับสนุนแย่ลงหรือไม่ บางคนฟังการสนทนาแล้วอาจน้อยใจบ้าง เช่น กลุ่มฮาร์ดคอร์อยากลุย แต่ขณะนี้มีไม่เยอะแล้ว 

ส่วนที่พูดถึงการนิรโทษกรรมหากให้เลิกแล้วต่อกันทั้งหมดแบบนี้คงลำบาก แต่หากเป็นการให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นธรรม น่าจะเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ 

การสนทนาครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามเจรจาส่งสัญญาณว่าไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก ซึ่งเป็นเรื่องดี ขณะเดียวกันพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็มีท่าทีที่ดีกับรัฐบาลนี้มากขึ้น ผมจึงไม่รู้สึกว่าเนื้อหาในบทสนทนาเป็นเรื่องน่าเสียหายหรือเลวร้าย 

แต่คนเสื้อแดงบางส่วนที่อาจคิดว่าเนื้อหาในคลิปเสียงไม่มีอะไรเกี่ยวกับคนเสื้อแดงเลย ก็เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว เป็นเรื่องของต่างกรรมต่างวาระมากกว่า 

การพูดคุยของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้เน้นการส่งสัญญาณไปยังอีกฝ่ายมากกว่าว่าอยากกลับบ้าน เป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงเลย ผมไม่ได้เข้าข้างพ.ต.ท.ทักษิณ แต่สำหรับครั้งนี้ไม่เกี่ยวจริงๆ 

คลิปเสียงนี้เป็นเพียงบริบทหนึ่งเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่านอกเหนือจากคลิปนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอาจเคยคุยเรื่องคนเสื้อแดงอยู่แล้วก็ได้ ปัญหาของพ.ต.ท.ทักษิณรุงรังมายาวนาน คงอยากให้จบลงที่การเจรจาเพื่อลดความกังวลของอีกฝ่าย

ขณะเดียวกันปัญหาของคนเสื้อแดงคงมีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว















ธำรงศักดิ์  เพชรเลิศอนันต์
ประธานหลักสูตรรัฐศาสตร์บัณฑิต ม.รังสิต

กรณีคลิปเสียงหากพิสูจน์ว่าเป็นเสียงจริง ย่อมกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงต่อรัฐบาล เนื่องจากเนื้อหาสาระของการสนทนาสะท้อนวิธีคิดทางการเมืองหลายแง่มุม 

โดยเฉพาะสิ่งที่แกนนำนปช.เคยวิจารณ์ว่า การปรับครม.ครั้งที่ผ่านมาไม่แต่งตั้งฝ่ายนักรบหรือคนที่ต่อสู้ทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี เพื่อผลักดันช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองและพัฒนาประชาธิปไตย 

ทั้งยังตอกย้ำว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช้วิธีประนีประนอมกับฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากการชะลอแก้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองได้สร้างความเคลือบแคลงแก่คนเสื้อแดงพอสมควร 

กรณีเนื้อหาในคลิปเสียงพูดถึงการวางตำแหน่งให้พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมเอ่ยถึงความสัมพันธ์กับองคมนตรี จึงเป็นหลักประกันได้ว่านายใหญ่อาจเคลื่อนไหวเพื่อคนเสื้อแดงน้อยลง และสะท้อนว่าแกนนำพรรค เพื่อไทยต้องการเพียงนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านเท่านั้น 

ดังนั้นคนเสื้อแดงที่เคยเป็นฐานมวลชนให้กับพรรคเพื่อไทย หากไม่นับรวมพวกคลั่งไคล้นายใหญ่ คงต้องคิดหนักกับเนื้อหาสาระของบทสนทนาในคลิปเสียงนี้ 

ที่ผ่านมารัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกโจมตีต่างๆ นานาจนถูกมองว่าเป็นช่วงขาลง บวกกับคลิปเสียงที่หลุดออกมา สะท้อนได้ว่าแท้จริงแล้วนายกฯ มีอำนาจทางการเมืองอย่างเต็มที่หรือไม่ 

และเสียงคล้ายพล.อ.ยุทธศักดิ์ คู่สนทนา จะทำให้ตัวพล.อ.ยุทธศักดิ์สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้มากน้อยแค่ไหน หรือจะกลายเป็นหมากที่ตายแล้ว 

จึงอาจเป็นปัญหาให้คนเสื้อแดงเก็บไปคิดได้ว่า สุดท้ายแล้วสู้ไปเพื่ออะไร
















สมชาย  ปรีชาศิลปกุล
คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่

คลิปเสียงนั้นจริงหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ หากเป็นเรื่องจริง คลิปอาจถูกตัดตอนเนื้อหาบางส่วนออกไป หรือถูกอัดเสียงมาไม่หมด ซึ่งอาจให้คำตอบได้ยากว่าทำไมไม่พูดถึงคดีเสื้อแดง

ถามว่ารัฐบาลละเลยคนเสื้อแดงหรือไม่นั้น จะตัดสินแค่คลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเดียวคงไม่ใช่ ยิ่งถ้าคลิปไม่ใช่เรื่องจริง จะเกิดความเสียหายและไม่เป็นธรรมกับคนที่ถูกกล่าวหา 

อย่างไรก็ตาม หากมองจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีการเรียกร้องความเป็นธรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือการนิรโทษกรรม จะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก 

เชื่อว่าจากกระแสที่ผ่านมาคงไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่อาจเกิดความสั่นคลอนบ้าง ส่วนรัฐบาลจะอยู่ได้ครบ 4 ปีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นมากกว่า