เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและทีมกฎหมาย ปชป. แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองมีมติให้ยุติการพิจารณา คดีการหักบัญชีเงินเดือน ส.ส.เพื่อบริจาคเข้า ปชป.ว่า เมื่อ กกต.สั่งยุติคดีนี้แล้ว นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ควรยุติที่จะพิจารณาคดี เพราะสุดท้ายผลกรรมก็จะตกออยู่ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เนื่องจาก ส.ส.ปชป.บริจาคเงินอย่างเปิดเผย และเป็นไปตามกฎหมาย
“วันที่ 19 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายธาริต และพ.ต.อ.นิรันดร์ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หาก ป.ป.ช.พบว่า มีความผิดจะมีโทษทั้งจำและปรับ ที่สำคัญจะกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ด้วย"
นายราเมศกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ 44 ส.ส.ของพรรค ที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ จะแยกกันยื่นฟ้องนายธาริต ต่อศาลอาญา และจะยื่นฟ้องคณะกรรมการคดีพิเศษที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธาน ต่อศาลปกครอง แม้ว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะอ้างว่า ไม่ได้ร่วมลงมติให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่เรามีหลักฐานชัดว่า ร.ต.อ.เฉลิม นั่งเป็นประธานในการประชุมครั้งนั้นด้วย ดังนั้น หลังจากนี้ไปนายธาริต จะต้องขึ้นศาลอีกหลายคดี” นายราเมศกล่าว