ทีมข่าว นปช.
17 กรกฏาคม 2556
เวลา 13.00 น.เริ่มการแถลงข่าว นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ประจำวันพุธที่ 17 กรกฏาคม 2556 ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว ชั้น 5 นำโดย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดินและแกนนำหลักของนปช. อาที คุณจตุพร พรหมพันธุ์, คุณธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช, คุณสมหวัง อัสราษี ฯลฯ
คุณธนาวุฒิได้เริ่มการแถลงข่าวโดยกล่าวถึง องค์กรอิสระ, องค์กรต่าง ๆ และกระบวนการยุติธรรม ทั้งหลายล้วนมีความสับสนคล้าย ๆ กับคนโรคจิต เรื่องภายในประเทศก็มีการใส่ร้ายป้ายสีกันไปกันมา เหมือนประเทศแห่งศรีธนญชัย แม้แต่คนเสื้อแดงร้องขอรัฐบาลอะไรไปก็ไม่เคยได้ ทั้ง ๆ สิ่งที่เรียกร้องไปก็เป็นการขอเพื่อประชาชน คุณธนาวุฒิอยากจะให้รัฐบาลฟัง นปช. แดงทั้งแผ่นดินบ้าง เพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยและร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดงมา
สิ่งที่ร้องขอต่อรัฐบาลไปก็ยังเป็นเช่นเดิมคือ 1.โหวตวาระสาม 2.พระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้กับพี่น้องทุกคนที่ร่วมกันต่อสู้ 3.รับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งปราบประชาชนในช่วง เมษา-พฤษภา ปี 53 พร้อมกันนั้น คุณธนาวุฒิ ก็ได้ขอร้องให้รัฐบาลพิจารณา พรบ.นิรโทษกรรมฉบับ วรชัย เหมะ ส่วน พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 นั้น ควรที่จะทำหลังจาก พรบ.นิรโทษกรรม เพื่อเห็นแก่พี่น้องประชาชน สถานการณ์ตอนนี้เองเราก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ยาวหรืออยู่สั้น หรืออยู่ไม่ได้เลย เพราะฝ่ายตรงข้ามก็จ้องจะเล่นงาน คุณธนาวุฒิก็หวังว่ารัฐบาลจะสามารถดำรงอยู่ได้นานเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาของพี่น้อง
ส่วนคุณ จตุพร พรหมพันธุ์ นั้นกล่าวแถลงว่า "เส้นทางของการเป็นคนเสื้อแดงนั้น นั่นคือการไม่ทรยศต่อกันแม้วินาทีเดียวของการต่อสู้" และคุณจตุพร ได้พูดถึงขบวนการนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
ว่ามีสถาพคล้าย ๆ คนเสื้อแดงในเวลานี้ว่ามีการแบ่งแยกในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทางด้านรัฐบาลนั้น คุณจตุพรได้เตือนต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งแล้วว่า อย่าได้เปิดช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามได้โจมตี โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยย้ำว่า "เรารักพรรคเพื่อไทย ตายกับพรรคเพื่อไทยได้ แต่ไม่มีวันยอมให้พรรคเพื่อไทย ทุจริตคอรัปชั่นประเทศไทย"
ประเด็นต่อมาคือเรื่องการลุแก่อำนาจ โดยคุณจตุพร เตือนว่าถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมา คนที่จะตายไม่ใช่คนที่อยู่ในทำเนียบ แต่จะเป็นคนเสื้อแดงเพราะที่ทำเนียบไม่มีใครอยู่ ดูจากการลาออกของ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ที่ทิ้งท้ายว่า "ภารกิจเสร็จแล้ว" ซึ่งคุณจตุพรตั้งแง่ว่า หมายถึงอะไร? มองในอีกมุมมองอาจหมายถึงว่ามีภารกิจเกินกว่าที่ นายวสันต์ จะรับได้และมีคนอาสาที่จะทำงานแทน
ทางด้านรัฐบาลนั้น คุณจตุพรเห็นว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหนผู้คนก็ต้อนรับจนอาจจะเข้าใจว่าได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ในส่วนของ ปปช. นั้น คุณจตุพร มองว่าจะเป็นดาบแรกก่อนจะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญที่จะเล่นงานรัฐบาล เริ่มต้นด้วยปัญหาเรื่องข้าวและก็ตามด้วยปัญหาเรื่องน้ำที่กำลังประสบอยู่ ที่ต้องเริ่มด้วยปัญหาเรื่องข้าวก่อนนั้น คุณจตุพร มองว่ามันจะได้เรื่องของอารมณ์เมื่อเอามาโจมตี เพราะผู้คนมักนึกถึงชาวนาที่ยากลำบาก ทำให้ได้รับความเห็นใจในความทุกข์ของชาวนา
ปัญหาทั้งหมดที่คุณจตุพร มองเห็นนั้น คือรัฐธรรมนูญ ท้ายที่สุดไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งฉบับ ที่แก้ไขไม่ได้นั้น คุณจตุพรกล่าวว่า "ใจของเราไม่แข็ง เหมือนกับใจฝ่ายอำมาตย์หรือเครือข่ายฝ่ายอำมาตย์เวลาที่เขาฆ่าเรา ของเราเพียงแค่ใจแข็งในการไปโหวตเพียงแค่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญเรายังทำไม่ได้" ฉะนั้นตอนนี้เราจึงอยู่ในสถานะการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ความไม่ปลอดภัยของรัฐบาล เป็นความตายของประชาชน นักเมืองเอาตัวรอดได้ แต่ประชาชนจะเอาชีวิตไม่รอด
คุณจตุพรได้กล่าวเตือนรัฐบาลในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ช่วยเหลือพี่น้องที่ถูกจองจำ ถูกดำเนินคดี ฯลฯ โดยให้เหตุผลว่า อย่าได้เข้าใจผิดว่าจะล้มรัฐบาล โดยกล่าวว่า "ถ้าล้มรัฐบาล ผมอยู่เฉย ๆ ก็ล้มแล้ว ไม่จำเป็นผมต้องพูดอะไร วันนี้ผมพูดเพื่อไม่ต้องการให้ล้ม"
อ.ธิดา ก็ได้กล่าวถึงการที่ นายวสันต์ ลาออกว่าบ่งชี้อะไร ระหว่างภารกิจบรรลุแล้วหรือว่างานใหม่นี่รับไม่ไหว และ อ.ธิดา ยังได้กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้กับอำมาตย์นั้นคือ "ประชาชน" ภาคประชาชนนั้นองค์กรอิสระหรือว่าองค์กรรัฐใด ๆ ก็ไม่สามารถยุบองค์กรประชาชนได้ อ.ธิดา ได้ขอให้มวลชนเตรียมพร้อมในที่ตั้งอย่างคนที่รู้ อย่างคนตื่นรู้ และทำงานอย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่ทำเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องทำทุกอย่างเพื่อความรับผิดชอบและผลประโยชน์ประชาชน
และ อ.ธิดา ยังได้แสดงภาพถ่ายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ที่ อ.ธิดา และ คณะได้เดินทางไปที่กัมพูชาเพื่อไปคารวะศพ นาย ฮุนเนียง บิดาของ นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน แห่งประเทศกัมพูชา ที่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา