นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)จะชุมนุมใหญ่แสดงพลังต่อต้านการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม(อพส.)ที่ชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาล โดยในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ นปช.จะชุมนุมที่จ.ขอนแก่น คาดว่าจะเป็นการแสดงพลังครั้งใหญ่ในภาคอีสานโดยมีผู้ชุมนุมกว่า 100,000 คน จากนั้นวันที่18 พฤศจิกายนนปช.จะชุมนุมที่ภาคกลางใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ขณะนี้ตนทราบมาว่าในจ.สมุทรปราการ เริ่มมีการเกณฑ์มวลชนหัวละ 2,000บาท เพื่อเข้าร่วมชุมนุมกับอพส.แล้ว
นายวรชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ทางนปช.ส่วนกลางมีมติให้จัดชุมนุมใหญ่ตรึ่งกำลังรอบนอกกทม. อาทิ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ โดยมีมติให้คนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้งห้ามเคลื่อนกำลังเข้ามาชุมนุมที่หน้ารัฐสภา โดยแต่ละจุดจะมีคนเสื้อแดงไม่ต่ำกว่า 10,000คน และให้รอฟังมติของแกนนำนปช.ส่วนกลางในกทม. หากเกิดเหตุการณ์สร้างเงื่อนไขจนนำไปสู่การปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมจะถือว่าเป็น "แดงปลอม"หรือ "แดงเทียม" และหากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล ทางนปช.จะยกพลมวลชนเข้ากทม.เพื่อต่อต้านการรัฐประหารทันที
นายวรชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนทราบข่าวจากทหารแตงโมที่รายงานมาว่า เริ่มมีความเคลื่อนไหวของกองทัพมด ซึ่งเป็นทหารในค่ายทหาร จ.ปราจีนบุรี จ.กาญจนบุรี และจ.ลพบุรี เริ่มทยอยเข้ามาพักอยู่ในเซฟเฮ้าส์ในกทม.แล้วเพื่อรอร่วมชุมนุมใหญ่กับ อพส.แล้ว โดยพร้อมที่จะเป็นทัพหน้าให้กับม็อบของเสธ.อ้าย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสันติอโศกที่ร่วมสมทบด้วย โดยวันที่ 24 พฤศจิกายน ทางอพส.จะชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าให้ถึง 50,000 คนเพื่อให้ลามมาถึงรัฐสภาและสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนและอาจนำไปสู่การจับส.ส.และนายกรัฐมนตรีเพื่อประหารรัฐบาล โดยกลุ่มคนเหล่านี้เป็นเครือข่ายหน้าเดิม ซึ่งวางดาบ1คือชุมนุมใหญ่ ดาบ 2 คือสร้างสถานการณ์ให้นำทหารลากรถถังออกมารัฐประหาร และ ดาบ3 หากรัฐประหารไม่สำเร็จก็จะใช้องค์กรอิสระในการล้มรัฐบาลเป็นดาบสุดท้าย
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ห้ามมิให้ทหารออกมาร่วมชุมนุมแล้วทำไมยังคิดว่ามีทหารบางส่วนร่วมชุมนุมกับอพส. นายวรชัย กล่าวว่า ผบ.ทบ.หวังดีได้ห้ามทหารอย่าเข้ามาร่วมชุมนุม ถือว่าวางตัวเป็นกลาง แต่ทุกครั้งที่มีสถานการณ์อย่างนี้ ทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดก็สามารถเข้ามาร่วมชุมนุมได้โดยที่ผบ.ทบ.ไม่ทราบ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวระดับล่างในระดับ ผบ.กองพันที่เอื้ออำนวยให้ทหารบางส่วนเข้ามาสนับสนุนการชุมนุมของอพส.