ข่าวสด 11 ตุลาคม 2555 >>>
วันเดียวกัน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมควรเร่งดำเนินการขอถอดยศและเรียกคืนเงินเบี้ยหวัดจากนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่อยากให้กรณีนายอภิสิทธิ์เพียงคนเดียว มาทำลายระบบการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการทหาร และความเชื่อมั่นต่อการเกณฑ์ทหาร ซึ่งที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อเอาผิดและลงโทษเจ้าหน้าที่สัสดี รวมถึงทหารหญิงยศพันเอกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องการรับสมัครนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว ทั้งที่มีข้อสังเกตว่าใบสมัครเข้ารับราชการทหารของนายอภิสิทธิ์ มีความพิเศษถึงขั้นสามารถบรรจุบุคคลเข้าแต่งตั้งทำงานได้ทันที ทั้งที่ขาดเอกสารชิ้นสำคัญ คือหลักฐานการเกณฑ์ทหาร
ร.ท.หญิง สุนิสา กล่าวว่า ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 0401/1916 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2528 ข้อ 2.1.1.1 วางหลักเกณฑ์ไว้ว่าผู้สมัครที่เป็นเพศชาย ต้องผ่านการตรวจเลือกทหารแล้ว เพื่อป้องกันการสมัครเข้ารับราชการทหารที่มีเส้นสาย หากนายอภิสิทธิ์ต้องการสมัครเข้ารับราชการทหาร โดยที่ยังไม่ได้ไปเกณฑ์ทหาร ก็ต้องไปสมัครเป็นทหารหญิง หรือมีอายุไม่เกิน 20 ปีเท่านั้น แต่กระบวนการบรรจุนายอภิสิทธิ์ เกิดขึ้นขณะที่มีอายุเกิน 21 ปีแล้ว และไม่ได้รับตรวจเลือกหรือเกณฑ์ทหารเลย โดยโรงเรียนจปร. เริ่มทำหนังสือขออนุมัติบรรจุ นายอภิสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2530 ซึ่งเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ คือวันที่ 7 เม.ย 2530 จึงน่าสังเกตว่าการรีบดำเนินการดังกล่าว ทั้งที่มีหลักฐานไม่ครบและเป็นการสมัครรับราชการที่ผิดระเบียบและผิดขั้นตอน ถ้าไม่ใช่ลูกคนใหญ่คนโตจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ น่าจะเป็นความจงใจหลีกเลี่ยงเกณฑ์ทหารตั้งแต่ต้น หรือเป็นโมเดลการหนีทหารของคนมีอภิสิทธิ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ควรตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงกลาโหมเตรียมจะมีมาตรการเพื่อเรียกถอดคืนยศและเรียกคืนเงินเบี้ยหวัดของนายอภิสิทธิ์ ในต้นสัปดาห์หน้า
ตั้งแล้ว กก.-6 นายพลร่วมไล่สอบ
รายงานจากกระทรวงกลาโหมระบุว่า พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการถอดยศ และเรียกเบี้ยหวัดคืนจากนายอภิสิทธิ์จากกรณีการใช้หลักฐานไม่ถูกต้องสมัครเข้ารับราชการทหาร ประกอบด้วย พล.อ.ม.ล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัด พล.อ.ชาญ โกมลหิรัญ เจ้ากรมเสมียนตรา พล.ต.รณชัย มัญชุสุนทรกุล เจ้ากรมจเรทหารบก พล.ต.สุรเดช เฟื่องเจริญ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก พล.ท.รัตนพันธุ์ โรจนะภิรมย์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ
ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นชุดเดิมเกือบทั้งหมดที่เคยตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเอกสารการเข้ารับราชการทหารของนายอภิสิทธิ์ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากนี้คณะกรรมการดังกล่าวจะขับเคลื่อนตามหลักฐานที่ชี้ว่า เอกสารการเข้ารับราชการของนายอภิสิทธิ์ไม่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่กระบวนการถอดยศและเรียกเบี้ยหวัดคืนต่อไป