นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ได้แสดงความเห็นทางกฎหมายต่อกรณีที่มีผู้ไปฟ้องศาลปกครองเพิ่มเป็นคดีที่ 2 เพื่อขอให้ศาลสั่งระงับการประมูล 3จี นั้น ข้อกฎหมายที่ถูกนำมาอ้าง ก็คือ “ประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. 2555” ซึ่งเรื่องนี้ ได้เคยเตือนไปยัง กสทช. แล้วว่า ประกาศฉบับนี้ต้องเป็นไปตามกรอบ พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่กว้างและขาดความชัดเจน จนทำให้มีผู้สับสนนำมาฟ้องเป็นคดีได้
อย่างไรก็ดี สมควรทำความเข้าใจว่า ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดนิยาม “การครอบงำกิจการ” ที่ต้องมีลักษณะเบื้องต้นหนึ่งในสามประการ คือ
(1) คนต่างด้าวถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงตั้งแต่กึ่งหนึ่งของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด หรือ
(2) คนต่างด้าวมีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือ
(3) คนต่างด้าวมีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
ดังนั้น หากผู้ใดอ้างเหตุเพียงว่าบริษัทใดมีกรรมการที่มีสัญชาติต่างด้าวที่มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท จึงเป็นการอ้างที่ไม่เข้าลักษณะ “การครอบงำกิจการ” ตามประกาศของ กสทช. นอกจากนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ฟ้องคดี จะมีสิทธิฟ้องคดีในฐานะผู้เดือดร้อนเสียหายหรือไม่
ที่สำคัญ ประกาศของ กสทช. มีกระบวนการขั้นตอนที่ให้อำนาจ กสทช. ทำการตรวจสอบกำกับดูแลบริษัท และหาก กสทช. พบประเด็นต่างด้าวที่เป็นปัญหา กสทช. ก็สามารถดำเนินการให้บริษัทแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาที่กำหนด ประกาศฉบับนี้ จึงมิได้มุ่งหมายให้ใครก็ได้นำไปใช้ฟ้องศาล เพื่อสั่งระงับการประมูลแต่อย่างใด