@...ไตรมาสสุดท้ายปลายปี "การเมืองเข้ม" เริ่มจากรัฐบาลหนีไม่ออกต้อง "ปรับ ครม." เพราะเก้าอี้ "มท.1" ที่ว่างลง เป็นธรรมดาของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแห่งอำนาจ ความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้น เพราะต่างคนต่างวิ่งให้ตัว หรือคนของตัวได้อำนาจ แต่เป็นที่รู้กันอยู่ว่าอำนาจเต็มเป็นของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" โดยมีพี่ชาย "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นที่ปรึกษาใหญ่ ที่สุดแล้วความยุ่งยากจะอยู่แค่ก่อนปรับ หลังจากนั้นคลื่นลมจะกลับมาสงบ ที่จะวุ่นวายที่สุดแว่วมาเป็นเรื่องของ "คนในครอบครัวชินวัตร" เอง คนอื่นแค่ "วิ่ง" แต่ "ไม่วุ่น"...
@...ครั้งนี้เป็นปรับใหญ่ ตั้งใจวางตัวให้ "ทำงานยาว" เพราะปรับบ่อย "ไม่ง่าย" และ "มีผลเสียมากกว่า" คนที่จะเข้ามาจึงเน้นที่ "ตัวจริง" วางลงเก้าอี้เมื่อไร เดินงานได้ทันทีแบบหวังได้ในประสิทธิผล ทั้งในเรื่อง "ภารกิจราชการ" และ "ภารกิจทางการเมือง" หมายถึงผู้เข้ามาใหม่ต้องมีทั้ง "ฝีมือ" และ "บารมี"...
@...อีกเรื่อง "ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ" ซึ่ง "ประชาธิปัตย์" สรุปแล้ว ว่าจะยื่น "ปลายตุลาคม" เพื่อเปิดสภา "ซักฟอกรัฐบาล" กลางเดือนพฤศจิกายน แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่เรื่องที่ต้อง "ยื่นตามวาระ" รัฐบาลประเมินว่าไม่น่าจะมีประเด็นอะไรใหม่ นอกจากที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว ที่จะต้องซดกันมันหยดดูท่าจะเป็น "จำนำข้าว" ที่ฝ่ายค้านเริ่มเดินเกมเข้มในทุกทาง แม้แต่ฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเอง บางส่วนยังถูก "เปลี่ยนความคิด"...
@...ที่น่าห่วงคือการเอา "นโยบายจำนำข้าว" ไปยื่นให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ตีความว่าขัดต่อ "รัฐธรรมนูญ" เรื่อง "การค้าเสรีหรือไม่" เดินงานกันแบบนี้ ไม่ว่าจะมี "ผลประโยชน์ของพ่อค้าข้าวอยู่เบื้องหลัง" หรือไม่ก็ตาม เป็นอันตรายยิ่ง เพราะ "รัฐธรรมนูญฉบับนี้" เขียนครอบคลุมการบริหารประเทศแทบทุกด้าน "ทุกนโยบาย" เอามายื่นให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ตีความได้หมด หากจบเรื่องนี้ไปเรื่องนั้น คิดดูว่าการบริหารประเทศจะยุ่งยากแค่ไหน ชักเริ่มไม่สงสัยเสียแล้วว่า "ทำไมต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ"...
@...ประเด็น "ราคายางตกต่ำ" เอาเข้าจริงไม่ได้มีอะไรมากกว่า "ประชาธิปัตย์" จำเป็นต้องแสดง เพื่อให้ฐานเสียง "สะใจ" เป้าหมายอยู่ที่หาทาง "สกัดดาวรุ่ง" อย่าง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ไม่ให้ขยายบารมีลงไปตีฐานเสียงในภาคใต้ เรื่องนี้หาก "ผู้ใหญ่ในฟากเพื่อไทย" มี "วาระซ่อนเร้น" คือหาช่องเปิดทางให้คนของตัว โดยเอาการ "เต้นตามประชาธิปัตย์" มาเป็นข้ออ้างให้เปลี่ยนตัว เท่ากับ "เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง" จน "หลงมุมฝ่ายค้าน"...
@...ว่าไป "ราคายาง" ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ราคาลงไปบ้างในบางช่วง แล้วค่อยกระเตื้องขึ้นมาเป็นเรื่องปกติ แถมหากติดตามกันให้ใกล้ชิด จะพบว่า "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แม้จะเป็นคนหนุ่ม แต่จัดการคลี่คลายปัญหาได้ดีไม่น้อย ตามแบบ "คนหนุ่มเรียนรู้เร็ว" แต่ที่สำคัญกว่านั้น การอุ้มชูให้ "เดอะเต้น" ขยายบารมีให้ได้มากเท่าไร ย่อมเป็น "ผลดีต่ออนาคตเพื่อไทย" มากเท่านั้น...
@...อาจจะเพราะใกล้ "เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม." เข้ามาทุกที และ "ชะตากรรมน้ำท่วมปีกลาย" เป็น "ความกังวล" ให้เลือกคนที่ "เอาใจใส่กับปัญหา" ทำให้ "การแก้ปัญหาน้ำ" พลิกมาเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง ความเป็นจริงก็เลยถูกบิดกันแบบเกมต่อเกม ขณะที่ "กรมราชทัณฑ์" ลอกท่อเจอกระสอบทราย ก้อนหิน ก้อนไขมันอุดทางน้ำ ให้คนตีความว่า "กทม." ของ "คุณชายสุขุมพันธุ์ บริพัตร" ไม่ทำงาน ร้อนถึง "ประชาธิปัตย์" ต้องออกมาโต้ด้วยข้ออ้างว่าเป็นการ "จัดฉาก" แบก "กระสอบทรายมาใส่ท่อ" เพื่อโจมตี กทม. เล่นกัน "ง่ายๆ แบบนั้นเลย"...
@...กฎหมายเลือกตั้ง "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" ทุก 5 ปี แทนที่จะให้อยู่ถึง "เกษียณ 60 ปี" แม้ด้วยหลักการ "ประชาธิปไตย" จะมีเหตุผลอยู่ เพื่อให้ "ผู้ได้รับเลือกกระตือรือร้นทำงาน" แทนที่จะทำเป็น "ทองไม่รู้ร้อน" เพราะถึงอย่างไรก็อยู่ได้จนรากงอก แต่ "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" ทุกวันนี้ เป็นแค่ "ตำแหน่งพิธีการ" เสียมากกว่า เพราะหน้าที่ "พัฒนาท้องที่" อยู่กับ "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หากเลือกตั้งบ่อยๆ แล้วมีปัญหา ปล่อยให้อยู่ไปจนแก่จนเฒ่าคงไม่เป็นไร ส่วนจะมีเบื้องหลังว่าจะเป็น "ฐานการเมืองของฝ่ายไหน" น่าจะเป็นเรื่องจัดการได้ ไม่ยากนัก