กกต. ยุติสอบคุณสมบัติ "ยงยุทธ" หลังเจ้าตัวประกาศลาออก ยัน สอบต่ออีก 3 คำร้อง โยงยุบพรรค, พ.ร.บ.ล้างมลทิน รอศาลฟัน เผย พท. ต้องเลือก กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายใน 60 วัน ลุ้น 7 ต.ค. "เพรียวพันธ์ " โผล่สมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ …
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากที่นายยงยุทธ ได้ประกาศลาออก กกต. ก็จำหน่ายคำร้องนายยงยุทธ ที่เคยยื่นให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเมื่อนายยงยุทธได้ประกาศเจตนารมย์ลาออกจากการเป็น ส.ส. และหัวหน้า พรรคเพื่อไทย เท่ากับว่าไม่จำเป็นต้องให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติอีกต่อไป เรื่องนี้ต้องยุติไปโดยปริยาย หากนายยงยุทธจะขอถอนเรื่องเข้ามาก็ได้ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว กกต. มีอำนาจที่จะพิจารณายุติเรื่องเองได้
นางสดศรี กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนายยงยุทธยังมีผู้ร้องมายัง กกต. อีก 3 คำร้อง เพื่อให้ กกต. ตรวจสอบนายยงยุทธในประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวโยงไปถึงการยุบพรรคการเมืองได้ รวมถึงประเด็น พ.ร.บ.ล้างมลทิน โดยทั้ง 3 คำร้อง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องให้พรรคการเมือง มอบหมายให้ด้านกิจการพรรคการเมืองเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ที่สิ้นสุดลงนั้น ได้มอบหมายให้ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ซึ่งกระบวนการทั้ง 2 ส่วนมีความแตกต่างกัน เพราะฝ่ายสืบสวนฯ จะต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คำร้องทั้ง 3 คำร้อง ต้องเข้าที่ประชุม กกต. เพื่อพิจารณาให้ครบถ้วนทุกประเด็น โดยหลังจากนี้ จะพิจารณาว่ามีประเด็นใดบ้างที่จะต้องยุติการพิจารณาต่อไป ไม่ใช่ว่านายยงยุทธจะประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคแล้ว คำร้องทุกคำร้องจะต้องยุติไปทั้งหมด
นางสดศรี กล่าวต่อว่า กระบวนการหลังจากนี้ ในส่วนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนายทะเบียนพรรคการเมือง คือการที่นายยงยุทธ ลาออกจากหัวหน้าพรรคการเมือง ขั้นตอนต่อไปทางพรรคเพื่อไทย จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง จากนั้นทะเบียนก็ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะตอบรับคำเปลี่ยนแปลงภายในพรรคเพื่อไทย ส่วนที่บุคคลใดจะเป็นหัวหน้าพรรคแทนนายยงยุทธ นั้น ต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะว่านายยงยุทธ ลาออก ทำให้กรรมการบริหารทั้งชุดพ้นจากตำแหน่งไปโดยปริยาย ตามข้อบังคับพรรค กำหนดให้รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการบริหารพรรค โดยเป็นรองหัวหน้าพรรคที่หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้งไว้ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค เพื่อทำการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายใน 60 วัน แต่ในขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า ก็ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ยกเว้นนายยงยุทธ เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นายยงยุทธ จะไม่มีผลผูกพันในการทำนิติกรรมต่อ กกต.ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกต่อไป ซึ่งระหว่างนี้ การทำนิติกรรมต่อ กกต. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินกองทุนพรรคการเมือง รวมไปถึงจำนวนสมาชิกพรรคการเมือง จะเป็นหน้าที่ของรักษาการหัวหน้าพรรค ดำเนินการไปก่อน จนกว่าที่ประชุมพรรคจะคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับถัดไป ที่จะเลื่อนขึ้นมา ภายหลังจากที่นายยงยุทธประกาศลาออกนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ทางพรรคการเมืองจะต้องแจ้งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศเลื่อนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของ กกต. เมื่อถามอีกว่า หลังจากนี้ นายยงยุทธ ยังสามารถเป็นสมาชิกเพื่อไทยอยู่หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า นายยงยุทธ ยังเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ เนื่องจากการถูกไล่ออกจากราชการของนายยงยุทธ ไม่ขัดต่อคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส่วนที่นายยงยุทธ ประกาศลาออกทุกตำแหน่งทางการเมือง จะเข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2526 และ 2550 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้วินิจฉัย อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นกัน ดังนั้น เรื่องนี้คงต้องไปยุติที่ศาล เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องตีความในหลายนัย
เมื่อถามว่า กรณีของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลังเกษียณอายุราชการได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้เกษียณอายุราชการ ก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้เลย เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามข้าราชการพลเรือนสามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นรายชื่อของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คงต้องรอในวันที่ 7 ต.ค. นี้ ที่จะครบกำหนดที่พรรคการเมืองต้องแจ้งยอดจำนวนสมาชิกพรรคกับทาง กกต.
