เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ สนามม้านางเลิ้ง) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ”เสธ.อ้าย” ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม (อพส.) พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน (เสื้อหลากสี) รวมทั้งภาคีเครือข่ายต่างๆอีกว่า 10 เครือข่ายร่วมกันแถลงข่าว ยืนยันการจัดชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อว่า “รวมพลังหยุดวิกฤติและหายนะชาติ” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค. นี้ที่สนามม้านางเลิ้งตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ยก 3 ประเด็นถล่มยิ่งลักษณ์
พล.อ.บุญเลิศ ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการชุมนุมว่าองค์กรพิทักษ์สยาม รวมถึงกลุ่มต่างๆทนไม่ได้กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีใน 3 ประการคือ
1. รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงล้วงละเมิดสถาบัน โดยไม่มีการป้องกัน แต่ดูเหมือนที่จะมีการส่งเสริมมากกว่า
2. รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน อีกทั้งยังไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร และขาดธรรมมาภิบาล และ
3. รัฐบาลชุดนี้ปล่อยให้มีการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้น
ทั้งนี้ในการชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมีการเชิญผู้ที่มีความรู้ในแต่ละด้านเช่นในเรื่องการจำนำข้าว มาชี้แจงเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมกันแสดงพลังตามวันเวลาตามที่ได้กำหนดไว้
พร้อมคุยเหลิม/ไม่หยุดชุมนุม
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการชุมนุมนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า เขาติดต่อจะมาขอพบในวันที่ 24 ต.ค. ในช่วงบ่าย ส่วนประเด็นที่จะมีการมาพูดคุยนั้นขณะนี้ตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หากจะมาขอให้ยุติการชุมนุมตนก็ยืนยันว่า คงจะยุติการชุมนุมไม่ได้
“ตอนนี้ตำรวจประสานมาแล้วจะส่งกำลัง 3 กองร้อยมาดูแลความเรียบร้อย ซึ่งผมมั่นใจว่า สถานที่จัดการชุมนุมคือที่สนามม้านางเลิ้งนั้นมีรั้วรอบขอบชิดจึงง่ายต่อการควบคุมรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้เราก็ได้เตรียมรถไว้สำหรับส่งผู้ที่มาชุมนุมตามสถานที่ต่างอีกด้วย”พล.อ.บุญเลิศ กล่าว
ทั้งยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีพรรคการเมือง หรือนักการเมืองมาเกี่ยวข้องเพราะ ตนไม่ต้องการนักการเมืองอีกต่อไป ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณอะไรต่อไปนั้น ตนคิดว่าก็ต้องขึ้นอยู่ที่สังคมว่าต้องการอะไร ซึ่งตนเองเป็นทหารไม่ใช่เสื้อเหลืองและไม่เคยขึ้นเวทีการชุมนุม
ปชป. ชี้มีสิทธิ เคลื่อนไหว
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ทุกฝ่ายมีสิทธิแสดงความคิดเห็นตามกรอบกฎหมายได้ ตนเห็นว่าการออกมาเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยาม ในครั้งนี้จะทำให้ภาคประชาชนเกิดความตื่นตัวต่อการสานเสวนาของกระทรวงมหาดไทยที่ดำเนินการโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าต้องตั้งสติและจับตาไม่ให้ การจัดสานเสวนาที่จัดทำโดยบุคคลที่ได้รับผลประโยชน์จากรัฐบาลมา เล่นบทมวยล้มต้มคนดู ชี้นำประชาชน อย่างไรก็ตามทางพรรคประชาธิปัตย์ จะจับตา และขอให้กำลังใจการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่จะเกิดขึ้น ขออย่าให้มีเหตุการณ์ป่วนจากมือที่สามผู้ไม่หวังดี
พันธมิตรไม่พร้อมร่วมชุมนุม
วันเดียวกันนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 8 สรุปใจความว่า ทางกลุ่มไม่พร้อมที่จะร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม ที่สนามม้านางเลิ้ง ในวันที่ 28 ต.ค. นี้ เพราะวันดังกล่าวทางกลุ่มฯได้จัดเสวนาการปฏิรูปประเทศไทย ที่ จ.นครศรีธรรมราช
อีกทั้ง จุดประสงค์ในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ที่มีเนื้อหาเชิงโจมตีเฉพาะรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับจุดประสงค์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการสลับขั้วอำนาจ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงสนับสนุนและให้กำลังใจองค์การพิทักษ์สยาม ในการออกมาชุมนุมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยทั้งนี้เงื่อนไขที่กลุ่มพันธมิตรจะชุมนุมคือ
1. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
2. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การนิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพวก
3.เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ความเหมาะสมที่ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่
ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการดังกล่าวข้างต้น เกิดขึ้นเมื่อใด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะแจ้งให้ทราบและพร้อมจัดให้มีการชุมนุมใหญ่โดยทันที
“จำลอง” ยัน พธม. ไม่ได้อยู่เฉยๆ
ด้าน พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจอย่างหนึ่งว่า การที่พันธมิตรฯ ยังไม่พร้อมที่จะไปร่วมชุมนุมนั้น ไม่ใช่ว่าเราอยู่เฉยๆ สบายๆ เราทำงานหนักมาตลอด โดยการจัดเวทีจังหวัดต่างๆ ต่อเนื่องกันมา 15 จังหวัด ที่เราทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของชาติ ต้องการให้ประชาชนรู้โดยทั่วกัน ว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ ต้องแก้ไขปัญหา เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง ไม่ได้ทำเพื่อหมู่คณะ ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมือง เราทำด้วยจิตบริสุทธิ์จริงๆ เพราะฉะนั้นการที่เราทำอย่างนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ถ้าผู้สื่อข่าวเห็นว่าเราควรที่จะทำอะไรเพิ่มเติม ช่วยบอกมาด้วย เราพร้อม ไม่อยากที่จะให้เวลาผ่านไปเฉยๆ โดยที่เราเอาแต่วางเฉย นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น
