'โอ๊ค' ออกตัว ท้า กทม. ทดสอบระบายน้ำ มีเกทับ อ้างรัฐพร้อมแล้ว

ไทยรัฐ 5 กันยายน 2555 >>>




''โอ๊ค'' โพสต์เฟซบุ๊ก ออกตัว ท้า กทม. พร้อมทดสอบระบายน้ำหรือยัง แถมมีเกทับ อ้างรัฐบาลพร้อมเดิมพันแล้ว เย้ย ปล่อยน้ำแค่ 30% ยังไม่กล้า ชี้ หากท่วมอีก ปชช. คงไม่เอาทั้งคู่

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra เย้ย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม. และพรรค ปชป. ทำไมต้องกลัวการทดสอบการระบายน้ำวันที่ 5 และ 7 ก.ย. นี้ของรัฐบาลด้วย เพราะขนาดปล่อยน้ำเพียง 30% กทม. ยังกลัวขนาดนี้ หากเจอของจริงเหมือนกับเมื่อปีที่แล้วแบบเต็ม 100% กทม. ไม่ต้องจมบาดาลหรือ ? แถมยังออกตัวให้ฝ่ายรัฐบาลว่า พร้อมแล้วที่จะทำการทดลองระบายน้ำ แล้ว กทม. ล่ะพร้อมหรือยัง ?
เห็นข่าวที่ทีมงานของผู้ว่า กทม. ออกมาคัดค้านการทดลองปล่อยน้ำเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบการระบายน้ำของ กทม. ทั้งๆ ที่การทดลองครั้งนี้เป็นการทดลองเพียง 30% ของขีดความสามารถแล้ว ผมเกรงว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนให้กับชาว กทม. จะไกลเกินฝันครับ คราวที่แล้วผมก็กลับเข้าจันทร์ส่องหล้าไม่ได้เป็นเดือน ครั้งนี้เกิดความไม่มั่นใจอีกแล้ว จึงเกิดคำถามถึงผู้เกี่ยวข้องเยอะเลย ในโพสต์นี้ขอถามทางผู้บริหาร กทม. สัก 2 ข้อก่อนครับ
1) ถ้าปล่อยน้ำเพียงแค่ 30% ภายใต้ภาวะที่ควบคุมได้ ทาง กทม. ยังไม่มีความมั่นใจว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ หรือเปล่า แล้วถ้าเจอสถานการณ์จริงที่เกิดภาวะฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา บวกกับน้ำเหนือ+น้ำหนุน ตามธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุมแล้ว กรุงเทพฯ จะรอดจากการเป็นเมืองหลวงใต้บาดาลเช่นเดียวกับปีที่แล้วหรือไม่
2) ถ้าปล่อยน้ำเพียงแค่ 30% ก็มีปัญหาแล้วการโฆษณาที่ให้ความหวังกับคนกรุงเทพฯ เช่นในรูปที่ระบุว่า "อุโมงค์ระบายน้ำขนาดยักษ์ เพื่อคนดอนเมือง, หลักสี่และจตุจักร พร้อม...เพื่อคนกรุงเทพฯ ป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน" และในรูปที่มีคนหน้าเหมือนกับท่าน ส.ส.ชูวิทย์ฯ นั่งเท้าแช่น้ำทำหน้าเซ็งอยู่นี้ ถือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกินความเป็นจริงหรือไม่ และจะรับประกันได้ว่า คนดอนเมือง, หลักสี่และจตุจักร จะรอดจากการจมน้ำหรือไม่
เนื่องจาก ครั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอให้ทดสอบและทาง กทม. เป็นฝ่ายปฏิเสธ ผมจึงถือว่าการเสนอครั้งนี้เสมือนกับการเทียบเชิญจาก รมต.ปลอดประสพ ไปยังผู้ว่าฯ กทม. ประมาณว่า "ปลอดพร้อมแล้ว ผู้ว่าฯ กทม. หละพร้อมหรือยัง" ซึ่งถ้าจะให้เป็นประโยชน์กับชาว กทม. แล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะร่วมกันทดลองดูแล้วก็ร่วมมือช่วยกันแก้ไขข้อขัดข้องต่างๆ ก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
แต่ถ้าทาง กทม. กับรัฐบาล ยังกลัวอีกฝ่ายจะได้หน้าได้คะแนน ไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจัง โดยเอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่ยอมสามัคคีกันเพียงเพราะเผอิญว่าเป็นการเมืองคนละขั้ว และชนะการเลือกตั้งกันคนละครั้ง โดยพรรค ปชป. ชนะในระดับท้องถิ่น และเพื่อไทยชนะในระดับชาติ ทำให้คุยกันคนละภาษาแบบนี้ ถ้าน้ำมาอีกทีแล้วบ้านเค้าน้ำท่วมอีก เค้าก็ไม่เอากับท่านด้วยทั้งนั้นแหละครับ