จนถึงวันนี้ก็คงจะไม่เฉพาะพนักงานสอบสวน "กรมสอบสวนคดีพิเศษ" (ดีเอสไอ) เท่านั้น ที่ระบุว่า "ไม่มีชายชุดดำ" เพราะสองสามีภรรยา "ธิดา ถาวรเศรษฐ" ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ "นพ.เหวง โตจิราการ" ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำ นปช. ก็ยืนยันเสียงแข็งว่า "ไม่มีชายชุดดำ" ร่วมก่อความรุนแรงและใช้อาวุธสงครามในเหตุการณ์ความไม่สงบในการชุมนุมทางการ เมืองเมื่อปี 2553
แม้ว่าจะมีคลิปเหตุการณ์ "ชายชุดดำ" พร้อมอาวุธสงครามก่อความรุนแรง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่บริเวณสี่แยกคอกวัวและถนนดินสอ มีการเผยแพร่ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ตาม โดย "หมอเหวง" ไปยื่นหนังสือให้ "ดีเอสไอ" ช่วยหาหลักฐานข้อเท็จจริงมายืนยันว่ามี "ชายชุดดำ" ที่ทำให้ประชาชนและทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตมีจริงหรือไม่ ?
แม้ว่ารายงานของ "คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ" (คอป.) ได้สรุปเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยชี้ว่า มี "ชายชุดดำ" ที่ใช้ความรุนแรงและอาวุธสงครามปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ชุมนุมทั้งเหตุการณ์ ความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 บริเวณสี่แยกคอกวัวและถนนดินสอ, เหตุการณ์ความรุนแรงช่วงวันที่ 14-18 พฤษภาคม 2553 บริเวณถนนพระรามที่ 4, สวนลุมพินี และบ่อนไก่
แต่ "ดีเอสไอ" ก็ดูเหมือนไม่ให้ความสำคัญในรายงานดังกล่าว โดยนำภาพบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็น "ชายชุดดำ" ที่ใช้อาวุธสงครามในเหตุการณ์บริเวณแยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จำนวน 2 คน มาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นแจ้งเบาะแส หรือหากบุคคลในภาพต้องการแสดงความบริสุทธิ์ก็ให้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ
หากจะมองว่า "คอป." ทำรายงานเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดคงไม่ได้เพราะในรายงานมีผลสรุป "แย้ง" กับข้อมูลหลายฝ่ายเช่น ในรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่มีการใช้ "กระสุนจริง" ในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิด และการใช้กระสุนจริงยิงเข้าไปในสวนลุมพินี ถนนพระรามที่ 4-บ่อนไก่ ระหว่างการเข้าควบคุมและปิดล้อมพื้นที่
รวมทั้งรายงานที่ระบุว่า"มีชายชุดดำ" ซึ่งสวนทางกับ "แกนนำคนเสื้อแดง" และ "พนักงานสอบสวนดีเอสไอ" โดยเฉพาะ "ดีเอสไอ" ถึงกับประกาศหา "ชายชุดดำ" ให้เข้ามอบตัว
ขณะที่ "ถวิล เปลี่ยนศรี" อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และเลขานุการ ศอฉ. ที่เข้าให้ปากต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ถึงสองรอบกรณีการเสียชีวิต 91 ศพ โดยยืนยันว่า ชายชุดดำมีอยู่จริง
แต่ได้ขยายความของคำว่า "ชายชุดดำ" ไว้เพิ่มเติมว่า"ชายชุดดำในความหมายของ ศอฉ. คือ กลุ่มคนติดอาวุธที่ใช้กำลังและอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่คนชุดดำโดยรวมคือ ผู้ที่ใช้อาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีชายชุดดำที่เห็นได้ชัด คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่เกิดขึ้นบริเวณแยกโรงเรียนสตรีวิทยา และบริเวณแยกคอกวัว และหลังจากนั้นยังพบว่ามีการใช้อาวุธกระทำต่อเจ้าหน้าที่และเป้าหมายอื่นๆ ดังนั้นชายชุดดำจึงไม่ได้หมายความว่าแต่งกายชุดดำใช้หมวกอำพรางใบหน้า เพราะฉะนั้นจะเป็นชายชุดดำหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สำคัญที่เป็นคนที่ใช้ความรุนแรงและใช้อาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่"
ประชาชนคนไทยทั่วไปที่ติดตามเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นคงมีคำตอบเกี่ยวกับ "ชายชุดดำ" ว่ามีจริงหรือไม่อยู่ในใจแล้ว และเชื่อว่าถ้าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ "พูดความจริง" ทำทุกอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้ปัญหายุติลงได้
