วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ ด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา เรื่อง “โทษประหารชีวิต” โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว 140 ประเทศ ขณะเดียวกันยังมี 58 ประเทศที่ยังคงมีโทษประหารชีวิตอยู่ ซึ่งในประเทศเหล่านี้เพียงไม่ถึงครึ่งที่นำโทษประหารชีวิตมาใช้จริง ส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบเอเซียและตะวันออกกลางและหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยอยู่ด้วย
พล.ต.อ.วันชัย กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เราเป็นหนี่งในสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ต้องพิจารณาถึงปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 5 “บุคคลใดจะถูกทรมานหรือได้รับการปฏฺบัติหรือการลงทัณฑ์ซึ่งทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมย่ำยี ศักดิ์ศรีไม่ได้” และพิธีสารเลือกรับ ฉบับที่ 2 แห่งกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมือง ที่มุ่งหมายที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยเชื่อว่าการยกเลิกโทษประหารชีวิตมีส่วนส่งเสริมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่มีบุคคลที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายของภาคี ในพิธีสารฉบับนี้จะถูกประหารชีวิตได้
ดังนั้นโทษประหารชีวิตจึงเป็นการลงโทษที่ปฏิเสธสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่จำเป็นที่สุดสำหรับบุคคล นั่นคือ “สิทธิในการมีชีวิต” ซึ่งได้รับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน สำหรับประเทศไทยรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 4 วางหลักว่า “ศักด์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับการคุ้มครอง และในมาตรา 32 ระบุว่า บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
พล.ต.อ.วันชัย กล่าวอีกว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในองค์กรที่รัฐธรรมนูญ ออกแบบมาเพื่อดูแล ปกป้อง คุ้มครองเสรีภาพ ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ จึงมีหน้าที่ทำให้เกิดผลตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ โดยพิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เป็นรูปธรรม ให้ประสานสอดคล้องกับทฤษฎีการลงโทษทางอาชญาวิทยา จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะทางวิชาการ ที่สำคัญเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบของประเทศ เราก็ได้หยิบยกมาพิจารณากันอย่างต่อเนื่องมา 5 ปี และในประชาคมอาเซียนเราก็มี 2 ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว ได้แก่กัมพูชา และฟิลิปปินส์
“ประเทศไทยยังมีการประหารชีวิตเปลี่ยนจากการยิงเป้ามาเป็นการฉีดสารพิษ ประเทศไทยจึงมีภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาว่าควรที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิตหรือไม่ หรือควรปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากลที่ขอให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต หรือวิธีการที่เหมาะสมแทน และในการเสวนาในวันนี้เชื่อว่าจะได้นำประเด็นจาการเสวนานำความเห็นมาสรุปต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อที่จะได้มีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตให้ได้ และเพื่อสอดคล้องกับแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ 2 (2552-2556) ที่รัฐบาลได้ประกาศขึ้นมาเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ” พล.ต.อ.วันชัย กล่าว