ภายหลัง ครม. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดทำแบบถาม : ตอบ ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับการเยียวยา ไว้ดังนี้
ทำไมต้องมีการเยียวยา
รัฐบาล มีนโยบายนำความสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว การเยียวยาจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่พลเมืองไทยทุกคน ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข เหมาะสมตามสภาพ มุ่งให้เกิดความรัก ความสามัคคี ลดความโกรธแค้นชิงชัง ไม่ทอดทิ้งผู้เสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
การเยียวยาไม่เกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญาซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตามกระบวน การยุติธรรม รวมทั้งรัฐจะช่วยเหลือบุคคลที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในด้านกฎหมาย ทนาย ความ ค่าใช้จ่ายในการประกันตัวหรือการฟ้องร้อง การดำเนินคดี รวมถึงการคุ้ม ครองสิทธิมนุษยชนแก่ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทำไมค่าเยียวยาจ่ายไม่เท่ากัน
การ ช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหรือผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่ สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกกลุ่ม ย้อนหลังไปถึงเดือน ม.ค. 2547 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไปแล้วร่วม 14,000 คน
ครอบคลุมทั้งผู้ที่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยา หรือได้รับการช่วยเหลือเยียวยาไปแล้วแต่ยังมีความทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่สามารถพึ่งตนเอง รวม 4 กลุ่มคือ กลุ่มประชาชนทั่วไป กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เป็นเหตุการณ์เฉพาะกรณี และกลุ่มผู้ที่ควบคุมตัว หรือถูกคุมขัง หรือถูกดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหา หรือเป็นจำเลยและถูกควบคุมตัว หรือคุมขังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่ว คราว ต่อมาปรากฏหลักฐานว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำผิด หรือมีการถอนฟ้อง หรือมีคำพิพากษายกฟ้อง
แต่ละกลุ่มจะมีคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วยตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนฝ่ายทหาร ตำรวจ สื่อมวลชน นักวิชาการ แพทย์ ตัวแทนผู้รับผลกระทบหรือผู้สูญเสีย และผู้แทนภาคประชาชน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนอการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งที่เป็นตัวเงิน การช่วยเหลือเยียวยาด้านคุณภาพชีวิต ด้านจิตใจ และจิตวิญญาณ
การช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะในส่วนที่เป็นตัวเงินของแต่ละกลุ่มจึงมีความแตกต่างกันไปตามข้อเท็จจริงและผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ
แต่ที่สำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือเยียวยาด้านคุณภาพชีวิต เช่น ด้านทุนการศึกษา การรักษาพยาบาล ที่อยู่ในมาตรฐานเดียวกันและมีความต่อเนื่อง
กรณีการเยียวยาจากเดิมที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐได้ไม่เท่าเทียมกัน ก็ได้ปรับอัตราการช่วยเหลือกรณีประชาชนเสียชีวิตจากเดิมรายละ 100,000 บาท ให้เป็น 500,000 บาท ให้ทัดเทียมกับกรณีข้าราชการเสียชีวิต
สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนพบว่าตั้งแต่ปี 2547 เป็น กลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุดถึงร้อยละ 87.36 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด
เหตุใดเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและได้รับผล กระทบจากกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในจำนวนเงินที่สูงกว่าการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง
การเยียวยาที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหน้าที่ของ ศอ.บต. ที่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 มาตรา 9 (7) ที่บัญญัติให้ ศอ.บต. มีหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องมีระเบียบวินัยและมีหน้าที่ในการให้ความคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและความปลอดภัยของประชาชน
กรณีที่เกิดสูญเสียจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากต้องรับโทษทางกฎหมายและทางวินัยแล้ว การช่วยเหลือเยียวยาจึงต้องอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าอัตราการช่วยเหลือเยียวยา ผู้รับผลกระทบ หรือผู้สูญเสียทั่วไปที่เกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง
ประชาชนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินอย่างไร
ประชาชนทั่วไป รวมทั้งประชาชนที่ช่วยเหลือทางราชการและผู้นำศาสนาที่เสียชีวิต จะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้เท่าเทียมกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ จนครบจำนวน 500,000 บาท โดยปี 2555 จะได้รับการช่วยเหลือ 100,000 บาท และปีถัดไปจะได้รับปีละ 100,000 บาทจนครบจำนวน 500,000 บาท ภายในปีงบประมาณ 2558 เช่นเดียวกัน
กรณีบาดเจ็บสาหัสจะได้รับการช่วยเหลือรายละ 50,000 บาท บาดเจ็บปานกลางและบาดเจ็บเล็กน้อยได้รายละไม่เกิน 30,000 บาท
เจ้าหน้าที่รัฐได้รับเงินเยียวยาเท่าไหร่
เจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับการช่วยเหลืออยู่แล้วตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้รับเงินเยียวยากรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ 500,000 บาท และข้าราชการยังมีสิทธิ สวัสดิการที่กระทรวง ทบวง กรมที่สังกัดเพิ่มเติม
คณะกรรมการเยียวยาได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับข้าราชการที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอ ได้แก่ ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา โดยให้กระทรวงศึกษาฯพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาและจัดสวัสดิการเพิ่มเติมให้เสมอภาคและเป็นธรรมแล้ว
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาในปี 2555 กรณีเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานจะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติม ดังนี้ เสียชีวิต 100,000 บาท ทุพพลภาพ 100,000 บาท กรณีต้องใช้ขาเทียมหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ รายละไม่เกิน 250,000 บาท (ตามความเห็นของแพทย์)
ในรายที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมสาเหตุจาก
เงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นเงินงบประมาณของทางราชการซึ่งได้มาจากภาษีอากรของ ประชาชนคนไทยทุกคน การอนุมัติเงินจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบ รัดกุม โดยมีคณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วน ที่มีความเป็นกลาง ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนในการพิจารณา อีกทั้งต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้มีความชัดเจน ถูกต้อง ครบถ้วน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
ถ้าไม่ได้ไปลงทะเบียนจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
หากเป็นผู้ได้รับผลกระทบตามเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาของทางราชการ หรือเป็นผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ก็ถือเป็นผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์อย่างแน่นอน เพราะว่าชื่อและประวัติของท่านปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลการเยียวยาแล้ว
แต่หากตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากทางราชการ ขอให้ไปแจ้งลงทะเบียนได้ที่งานเยียวยา ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง และเช่นกันแม้ไม่ได้ไปร้องทุกข์ที่ ศอ.บต. ข้อมูลของท่านจะปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลการเยียวยาอยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของทางราชการที่ต้องดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู ทั้งที่เป็นตัวเงิน การเยียวยาด้านจิตใจเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ ศอ.บต. กรณีมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามที่ ศอ.บต. โทร.0-7327-4102 และงานเยียวยาทุกอำเภอในพื้นที่
การรับเงินช่วยเหลือจะมีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือไม่
ท่านจะได้รับเงินตามที่คณะกรรมการเยียวยาอนุมัติ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่าหลงเชื่อนายหน้าหรือคน กลางที่แอบอ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือให้ได้รับเงินเยียวยา
เมื่อมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือแล้ว ศอ.บต. จะจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ์โดยตรง เป็นเช็คธนาคารระบุชื่อผู้มีสิทธิ์แต่ละคนครบตามจำนวน หากสงสัยหรือไม่เข้าใจ โทร. สอบถามที่ ศอ.บต. 0-7327-4102, 0-7320-3888
การช่วยเหลือเยียวยาด้านคุณภาพชีวิตคืออะไร
การช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายและได้รับผลกระทบด้านคุณภาพชีวิตเพื่อให้ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ มีความสำคัญอย่างยิ่งกับผู้สูญเสียและผู้รับผลกระทบ รวมทั้งจะมีความต่อเนื่อง ยั่งยืน ได้แก่
(1) การรักษาพยาบาลทางด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการส่งต่อฟื้นฟูผู้พิการหรือฟื้นฟูสมรรถภาพทางด้านร่างกาย จิตใจ
(2) การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
(3) การเยียวยาทางด้านจิตวิญญาณ อาทิ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์หรืออุมเราะฮ์ ณ ประเทศซาอุดี อาระเบีย หรือประกอบศาสนกิจตามหลักศาสนาอื่น
(4) การให้สิทธิในการเข้ารับการศึกษา
(5) การสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการศึกษาอย่างต่อเนื่องตามสมควร
(6) การช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายด้านทรัพย์สิน
(7) การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือการช่วยเหลือด้านที่ทำกิน หรือการส่งเสริมการประกอบอาชีพ
(8) การได้รับการเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มสหวิชาชีพ
(9) การส่งเสริมการสร้างกลุ่มและการรวมกลุ่มของผู้ได้รับผลกระทบเพื่อดูแลซึ่งกันและกัน
(10) การได้รับความช่วยเหลือให้มีความปลอดภัย หรือมีส่วนร่วมในการจัดระบบรักษาความปลอดภัย
(11) การคุ้มครองป้องกันจากการถูกปองร้าย
(12) การจัดตั้งสถานพยาบาลเฉพาะทาง หรือสถาบันส่งเสริมการศึกษาเยียวยาฟื้นฟูผู้พิการในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(13) การช่วยเหลือเยียวยาด้านกฎหมาย
(14) ค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน การเข้าถึงความเป็นธรรม
(15) การช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการเยียวยาพิจารณาเห็นสมควร
สามารถร้องทุกข์เกี่ยวกับการเยียวยาได้ที่ไหน
(1) งานเยียวยา ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง
(2) ศอ.บต. หมายเลขโทรศัพท์ 0-7327-4102