เรียกสิบตรีรถถังสอบ คดี ′สไนเปอร์′ ปม ′พยายามฆ่า′ เผยหลักฐานคลิป ลั่นไกหน้าลุมพินี

มติชน 12 สิงหาคม 2555 >>>


เจอตัวแล้วทหารมือยิงประชาชน ดีเอสไอเล็งเรียกสอบรายแรกคดี 98 ศพ เผยพลปืนประจำรถถัง ออกจากราชการแล้ว
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม กรณีพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 รวม 98 ศพ ที่มี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าคณะจะเรียกทหารและตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มคนแต่งกายคล้ายทหารใช้ปืนยิงจากที่สูง หรือสไนเปอร์ มาสอบปากคำว่า สำหรับข้อมูลเอกสารหลักฐานรายชื่อทหารและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ในช่วงเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนชุดเดิมได้รับเอกสารคำสั่งการจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มาแล้วค่อนข้างละเอียด มีทั้งคำสั่งการในช่วงดังกล่าวและรายชื่อชุดปฏิบัติการ หากพนักงานสอบสวนชุดใหม่และอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถประสานขอเพิ่มเติมจาก ผู้เกี่ยวข้องได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นขั้นตอนการทำงานเพื่อความรอบคอบรัดกุม
ด้าน พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนได้จัดทีมเร่งตรวจสอบภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย ในเว็บไชต์ต่างๆ รวมทั้งภาพที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อประมวลเหตุการณ์จุดที่เกิดในแต่ละจุดว่า มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากจุดดังกล่าวกี่ราย มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าประจำการจุดดังกล่าวกี่ราย หัวหน้าชุดปฏิบัติการเป็นใคร จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกหัวหน้าชุดมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ ณ จุดนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
"สำหรับภาพชาย 2 คน ที่ปรากฏผ่านเว็บไชต์และสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ซึ่งเป็นภาพชายแต่งกายชุดทหาร รายแรกยืนถือปืนในชุดทหารลายพรางใส่หมวก ส่วนอีกรายที่อยู่ใส่ชุดทหารเช่นกัน แต่มีผ้าขนหนูคล้องคอ ในท่านั่งเล็งปืน โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า คนที่ใช้ปืนยิงในท่านั่ง มียศสิบตรี (ส.ต.) ตำแหน่งเป็นพลทหารประจำรถถัง ตอนนี้ออกจากราชการไปแล้ว กลายเป็นพลเรือนธรรมดา ดังนั้นจะเป็น
รายแรกที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาสอบปากคำ สวนคนที่ยืนนั้น พฤติกรรมที่ปรากฏไม่ได้เป็นคนลั่นไกปืน" พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าว
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวอีกว่า ส่วนทหารที่ปรากฏภาพยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่หลังบังเกอร์ บนถนนพระราม 4 ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร เพราะเห็นเพียงด้านหลัง ทั้งนี้ คงต้องออกหมายเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมเช่นกัน โดยจะสอบถามว่า กระสุนที่ใช้เป็นกระสุนลักษณะใด อย่างไรก็ตาม จากภาพที่ปรากฏ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถบอกได้ว่าใช้กระสุนจริงหรือกระสุนซ้อมยิง เพราะลักษณะปืนและอาการของปืนที่เคลื่อนไหว รวมทั้งวิธีการใส่ลูกกระสุนจริงกับกระสุนซ้อมแตกต่างกันชัดเจน เช่น กระสุนจริงยิงได้ต่อเนื่อง กระสุนซ้อมขั้นตอนการยิงจะมากกว่าปกติ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอเคยสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการในเกิดเหตุ บริเวณรางรถไฟฟ้า ซึ่งบันทึกการสอบปากครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ทหารรับสารภาพว่า ใช้กระสุนจริงยิงลงไปด้านล่าง แต่เป็นการยิงใส่ชายชุดดำไม่ได้ยิงเข้าไปในวัดปทุมวนาราม
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า ดีเอสไอยังไม่ได้เรียกฝ่าย นปช. ไปสอบปากคำในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้ามีการเรียกสอบปากคำก็ยินดีให้ความร่วมมือ โดยตนมีเพียงข้อมูลว่า จุดใดใครเป็นผู้รับผิดชอบตอนที่สลายการชุมนุม
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูลเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะข้อมูลส่วนนี้เป็นของทีมกฎหมายและอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว โดยรายละเอียดต่างๆ เช่น รายชื่อเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นปช.มีข้อมูลและเคยออกมาเปิดเผยนานแล้ว นายจตุพรก็เคยเอามาอ่านในสภา
นางธิดากล่าวถึงกรณีศาลอาญานัดอ่านคำตัดสินคดีการถอนประกันตัว 19 นปช. ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ว่า วันดังกล่าวน่าจะมีคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจแกนนำประมาณ 3,000 คน และการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยเช่นเดิม เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเคารพศาล อีกทั้งปกติการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เป็นไปโดยสงบ ทั้งนี้ คาดว่าผลการตัดสินของศาลจะออกมาในด้านดี และจะไม่มีการจัดกิจกรรมใดๆ ก่อนวันที่ 22 สิงหาคม เนื่องจาก นปช. กำลังมีภารกิจสำคัญ การวางแผนหลักสูตรและเตรียมเปิดโรงเรียน นปช. ในต้นเดือนหน้า
ที่ จ.อุตรดิตถ์ กลุ่ม นปช.อุตรดิตถ์ ราว 30 คน มีนายปัณณวัฒน์ นาคมูล เป็นแกนนำ เข้าพบ ร.ต.ท.ประเดิม พร้อมสัตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อให้สอบสวนหาตัวผู้ทำลายป้ายไวนิลของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่ง นปช.อุตรดิตถ์ทำขึ้นเพื่อให้กำลังใจนายจตุพร กรณีสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนประกันตัว โดยป้ายไวนิลตั้งอยู่ริมถนนเข้าเมืองอุตรดิตถ์ หน้าศูนย์ประสานงาน นปช.อุตรดิตถ์ บ้านหมอนไม้ หมู่ 3 ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยมีผู้นำสเปย์สีฟ้าฉีดพ่นบริเวณใบหน้านายจตุพร พร้อมเขียนคำว่า "คุก" ไว้ด้วย