ยกเครื่อง ปชป. ครั้งใหญ่สุดทนพรรคตกต่ำไม่สมเป็นสถาบัน

โลกวันนี้ 13 สิงหาคม 2555 >>>


“อลงกรณ์” เตรียมเสนอปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ครั้งใหญ่หลังทนดูความตกต่ำไม่ไหว ชี้ภาพพจน์ของพรรคในปัจจุบันสวนทางกับคำว่าสถาบันทางการเมือง หากจะเดินไปข้างหน้าจำต้องแสวงหาแนวทางใหม่ เลิกเล่นการเมืองแบบตอดเล็กตอดน้อย ตอบโต้รายวัน ที่ไม่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ย้ำการแข่งขันทางการเมืองต้องแข่งที่คุณภาพไม่ใช่แข่งที่สำนวนโวหาร ระบุคนเป็นผู้นำต้องมีความกล้าและเข้มแข็งพอที่จะนำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายใน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ท่ามกลางกระแสข่าวลือการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคว่า จากความพ่ายแพ้การเลือกตั้งที่ติดต่อกันมายาวนาน พรรคพยายามที่จะปฏิรูป กำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้า โดยพยายามใช้ความเป็นสถาบันทางการเมืองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ
   “ปัญหาตอนนี้คือภาพของพรรคดูขัดแย้งกับคำว่าสถาบันทางการเมือง ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคมีการพูดคุยถึงประเด็นที่เกิดขึ้นมาตลอด ในเบื้องต้นผู้ใหญ่ในพรรคมีแนวคิดตรงกันว่าต้องมีการปฏิรูปพรรคและรีเอ็นจิเนียริ่ง (ปรับโครงสร้าง) พรรคใหม่ ซึ่งคือการยกเครื่องพรรคครั้งใหญ่ให้มีความเป็นผู้ใหญ่และมีความเป็นสถาบันมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าการทำงานของพรรคให้ความสำคัญกับการเล่นการเมืองเรื่องเล็กเรื่องน้อยมากเกินไป การจะเดินไปข้างหน้าต้องแสวงหาแนวทางใหม่”
นายอลงกรณ์ยืนยันว่าพรรคยังมีเอกภาพ แต่อาจมีการทำงานในแนวทางที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อพลังในการขับเคลื่อนพรรค การประชุมพรรควันที่ 14 ส.ค. นี้จะเสนอเรื่องปรับโครงสร้างพรรค ระบบบริหารจัดการพรรคใหม่ แต่ยอมรับว่าไม่ง่าย การที่จะปฏิรูปพรรคจำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง กล้าตัดสินใจในการปฏิรูปพรรค จะมาเกรงอกเกรงใจบางฝ่ายบางกลุ่มคงไม่ได้
   “ที่ต้องเสนอเพราะที่ผ่านมาการทำงานของพรรคไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน จนผลสำรวจออกมาว่าเราสอบตก ดังนั้น พรรคต้องแก้ไข โดยจะเสนอให้นำรูปแบบการขับเคลื่อนของพรรคในภาคกลางมาเป็นต้นแบบ โดยยึดหลักติดอาวุธทางความคิด ใกล้ชิดมวลชน เปิดกว้าง สร้างเครือข่าย และขยายสาขาพรรค เพื่อให้การขับเคลื่อนพรรคมีคุณภาพ นำเอายุทธศาสตร์มาเป็นสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน อยากให้พรรคยึดหลักนี้เป็นสำคัญ ไม่ใช่คอยแต่จะตอดเล็กตอดน้อยทางการเมือง การเล่นการเมืองแบบนี้ทำให้ประชาชนมองว่าเราไม่เป็นผู้ใหญ่ การแข่งขันทางการเมืองต้องแข่งกันที่ยุทธศาสตร์และคุณภาพของนักการเมืองในพรรค ที่สำคัญต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่เพื่อนำเสนอภาพกว้างของพรรค ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผู้อาวุโสของพรรคให้ความสำคัญมาก ดังนั้น การนำนักการเมืองเลือดใหม่เข้ามาเสริมจะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคดีขึ้น ไม่ใช่การเล่นการเมืองแบบตอบโต้รายวัน ซึ่งไม่ได้ประโยชน์ เพราะการเมืองต้องแข่งกันที่คุณภาพไม่ใช่สำนวนโวหาร จึงต้องพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพและมีการแยกการบริหารอย่างชัดเจน รวมทั้งผู้นำต้องมีความหนักแน่นและน่าเชื่อถือ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าที่เป็นอยู่”
นายอลงกรณ์ ย้ำว่า จะเร่งในการปฏิรูปพรรคใหม่ รวมทั้งการนำเสนอยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาประเทศมากกว่าที่จะมาเล่นการเมืองแบบสาดโคลน เพราะประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไร และการเมืองก็จะตกต่ำลง