"...ต้องยอมให้ตัวแทนภาคประชาชนบ้าง ไม่ใช่การปกครองประชาธิปไตยเพื่อกลุ่ม เขามาจากประชาชนตั้งกี่สิบล้านคน ควรจะให้โอกาสเขา..."
เมื่อ "พล.อ.ธีรเดช มีเพียร" ต้องหลุดจากประมุขสภาสูง หลังถูกศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกโดยรอลงอาญา 2 ปี ฐานขึ้นเงินเดือนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขณะดำรงตำแหน่ง "ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา" ส่งผลให้ศึกชิง "บัลลังก์" ประธานวุฒิสภา อุบัติขึ้นเป็นยกที่ 3 ในรอบ 4 ปี ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้
"มติชน" ตรวจชีพจรความรู้สึกของ "นิคม ไวยรัชพานิช" ส.ว.ฉะเชิงเทรา และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในวันเดิมพันวาระ ส.ว.เลือกตั้งที่จะเหลือไม่ถึง 2 ปี ก่อนขึ้นเวทีชิง "ประมุขสภาสูง" นัดล้างตาเป็นครั้งที่ 2 กับคู่ชิงที่ชื่อ "พิเชต สุนทรพิพิธ" ตัวแทนจากสายสรรหา
ตกลงจะต้องลาออกจากการเป็นรองประธานวุฒิสภาก่อนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่
ไม่มีกฎหมายหรือระเบียบที่กำหนดไว้ว่าต้องลาออก ช่วงที่แล้วที่เลือก พล.อ.ธีรเดช มีเพียร เป็นประธานวุฒิสภา ผมก็ไม่ได้ลาออก และผมก็ไม่ได้รับเลือก มันไม่ได้มีเครื่องรับประกันว่าถ้าลาออกแล้วจะได้ ถึงแม้ผมจะเคยบอกว่า ผมจะแสดงบรรทัดฐานของความเป็นประชาธิปไตย แต่พอทำไปทำมา ความจริงผมก็ควรได้รับเสียงชมเชยนะ แต่กลับได้รับแรงกดดัน ที่กล่าวหาหรือเอาไปโจมตีในสื่อตามวิทยุ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับผม วันสุดท้ายในวันที่ 14 สิงหาคม ผมจะบอกว่าผมจะลาออกจากตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ ซึ่งผมก็ไม่ได้ลังเลใจอะไร แต่หากผมออกจากตำแหน่งเรื่องการต่อรองอะไรต่างๆ จะหมดความหมายเลย
ยังมั่นใจในเสียงที่จะสนับสนุนให้เป็นประธานวุฒิสภาอยู่หรือไม่
เรา ไม่มั่นใจเลย ในความเป็นเอกภาพของ ส.ว.เลือกตั้ง เพราะ ส.ว.สรรหา เขาแพคเสียงกันแน่น ขณะนี้เสียงมันก็ยังก้ำกึ่งกันที่ 60 กว่าเสียง เขาก็ดึงจากเราไป เราก็ต้องดึงจากทางนั้นมา ผมเชื่อว่าทางสายเลือกตั้งความเป็นเอกภาพเราอาจจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีที่มาที่ไปต่างกัน โดยมาจากภูมิภาคที่ต่างกัน แต่พื้นฐานของสรรหา ถึงแม้จะมาจากหลายวิชาชีพ แต่ก็มาจากแหล่งเดียวกัน ถูกไหม ไม่ใช่มาจากคน 46 ล้านคน นี่คือความได้เปรียบประการแรก ส่วนประการที่สอง ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้งยังมีการยึดโยงจากประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ โอกาสที่จะมาพบปะยาก ก็จะเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆที่มีนิสัยตรงกัน
เช็กเสียงที่พอจะเทให้ท่านมีเท่าไร
ถ้ามีความเป็นเอกภาพ ก็ดูว่า ส.ว.สายเลือกตั้ง น่าจะมีประมาณ 50-60 คน
จะทำอย่างไรให้ทั้งสรรหาและเลือกตั้งเป็นหนึ่งเดียวกัน
ความ จริงแล้วเรื่องนี้ถ้ามองหลักการมันได้อยู่แล้ว ถูกไหม อย่ามองประโยชน์ส่วนตัว ผมถามว่าถ้าคุณไม่โยงกับใครแล้วคุณมาได้ไง แล้วทำไมเวลาเข้ามากลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ถึงเป็นไปในทางเดียวกัน เป็นเรื่องแปลกไหมครับ เป็นไปทางเดียวกันหมดเลย ดูจากการโหวต หรืออะไรก็ได้ แต่มันจะมีกลุ่มที่เป็นกลางจริงๆ คือกลุ่มนี้มีเยอะเสียงประมาณ 40 คน ที่จะเป็นตัวแปร
14 สิงหาคมนี้จะเน้นวิสัยทัศน์อะไรเป็นพิเศษ
เน้นเรื่องของความเป็นองค์กรที่ประชาชนพึ่งได้ เป็นองค์กรเอกภาพมีความเป็นกลาง
จะขอความเห็นใจจากคนที่อยู่ตรงกลางด้วย
ถูกต้อง
ครั้งนี้ ส.ว.สรรหา จะปล่อยให้สายเลือกตั้งเป็นประธานวุฒิสภาได้หรือไม่
ถ้าปล่อยป่านนี้ปล่อยไปนานแล้วครับ เขาไม่ปล่อยหรอก มั่นใจเลย ส.ว.สรรหา เขาก็มีโอกาส และมีโอกาสสูงกว่าผม
1. ความเป็นเอกภาพ และ
2. มีคนที่สั่งการได้
พูดง่ายๆ ตอนนี้กระแสออกมาเยอะเหลือเกิน คือ พวกกลุ่มที่กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวมาก
ที่ผ่านมาประธานวุฒิสภาจากสายสรรหามีจุดอ่อนและจุดแข็งในการทำหน้าที่อย่างไร
แน่นอน คือทุกท่านเป็นคนดี ทั้งอดีตผู้พิพากษาหรืออดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ แต่ว่าบทบาทเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องการเมือง ที่ต้องอาศัยคนที่มีประสบการณ์และคนที่มีความรอบรู้ พอสมควร เป็นคนที่สามารถวินิจฉัยได้ ถ้าท่านมีความเชื่อมโยงกับประชาชนหน่อย มันจะทำงานแล้วดูดีขึ้น
รับได้หรือไม่หากประธานวุฒิสภาคนใหม่ชื่อ "พิเชต สุนทรพิพิธ"
ท่าน พิเชตเป็นคนดีนะครับ แต่คนดีก็ต้องเหมาะสมกับบางเรื่องนะครับ คนดีบ้านเราเยอะมาก แต่ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าสั่งการ บางทีทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
ที่ผ่านมาประธานวุฒิสภาต้องคุมการประชุมร่วมรัฐสภาแต่ไม่ค่อยทันเกมการเมือง
ถึงบอกไงว่า ต้องมีประสบการณ์ทางการเมืองถูกไหม คุณต้องเอาคนที่มาจากภาคประชาชนก็ลองดู เวลาเขาพูดปัญหาประชาชน บางทีพวกเขายังไม่เข้าใจ
รู้สึกอย่างไรกับคำพูดว่า ไม่เป็นกลาง กับชื่อของ "นิคม ไวยรัชพานิช"
ความจริงแล้ว ทุกคนพยายามจะหาจุดอ่อนผม ถูกไหมครับ แต่บังเอิญว่าจุดอ่อนในเรื่องการทำงานของผมมันไม่มี ผมก็ยังยืนยันว่าเรื่องพวกนี้ผมมีประสบการณ์ และก็มีความรอบรู้เรื่องพวกนี้ เขาหาจุดไม่ได้ ก็มาหาว่าผมไม่เป็นกลาง ถ้าถามว่าผมไม่เป็นกลาง ผมอยากถามว่า คำว่าเป็นกลาง มันกลางแค่ไหน ทีนี้พรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศ เราก็ทำงาน เรื่องใดที่เป็นประโยชน์ก็ต้องหนุน บังเอิญที่ผมหนุน เป็นช่วงของรัฐบาลชุดนี้ เพราะถ้าเป็นช่วงของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เป็นอย่างนี้ ถามว่าอะไรคือความเป็นกลาง และแค่ไหน คุณต้องดูวิธีการทำงานมากกว่า เวลาผมนั่งบัลลังก์ ผมเป็นกลาง ผมก็พยายามยึดจริยธรรม คือความเป็นธรรมในการทำหน้าที่
เกรงว่าหากได้สายเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานจะเกิดขุนค้อน 2
ไม่เป็นกลางเหรอ โอ้โห...ถามว่า "นิคม" ทำงานมา 4 ปีครึ่ง เคยมีอย่างนี้เหรอ ไม่มี ไม่มีนะครับ ผมเป็นคนทำให้บรรยากาศการประชุมสภา บรรลุตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ผมใช้เวลาไม่มากด้วย
กำลังจะบอกว่าหากท่านเป็นประธานวุฒิสภาจะช่วยให้บรรยากาศความขัดแย้งเบาลง
ใช่ๆ ผมอยากเห็นบรรยากาศการปรองดอง โดยเริ่มจากวุฒิสภา ถูกไหม เวลาทำหน้าที่แน่นอน ผมเป็นคนมีบุคลิกของความประนีประนอม อะลุ่มอล่วย ช่วยเหลือทุกเรื่อง
แล้วปัจจัยใดทำให้ท่านต้องพลาดตำแหน่งประธานวุฒิสภานัดล้างตาเป็นครั้งที่ 2
ผมพร้อมที่จะแพ้และชนะ เที่ยวที่แล้วอาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เข้าใจว่า ส.ว. พวกเราเข้าไปต้องไปจัดระเบียบ ความจริงไม่ใช่ เหตุที่เราออกมาขับเคลื่อนตอนเสื้อแดง ที่จะมีการรบราฆ่าฟัน เพราะเราต้องการให้บ้านเมืองสงบ ไม่อยากให้คนไทยฆ่ากัน กลุ่มเราก็อาสาไปเจรจากับเสื้อแดง และรัฐบาลก็รับปาก แต่วันรุ่งขึ้นก็ไม่เป็นตามนั้น กลับมากล่าวหาว่าพวกผมเป็นเสื้อแดง จริงๆ มันไม่ใช่
ถ้าเกิดเลวร้ายที่สุดสายเลือกตั้งพลาดหวังอกหักไม่ได้เป็นประธานพร้อมยอมรับไหม
แน่นอน ผมพร้อมยอมรับ เพราะผมเคยแสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าแพ้ ยอมรับ และทำหน้าที่ต่อไป เราก็ได้แต่คิดว่า หรือตัวเราไม่มีศักยภาพ หรือความรู้ ความสามารถเพียงพอที่จะเป็นที่ยอมรับของคนอื่น
ได้ยินมาว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลอยากได้ประธานวุฒิสภามาจากสายเลือกตั้ง
ไม่ต้องมาจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพราะใครๆ ก็อยากได้ประธานวุฒิสภา ลองให้ตัวแทนภาคประชาชนได้เป็นบ้างสิ ประชาธิปไตยที่กีดกันประชาชน มันไม่ใช่ เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต้องปกครองโดยประชาชนเพื่อประชาชน ต้องยอมให้ตัวแทนภาคประชาชนบ้าง ไม่ใช่การปกครองประชาธิปไตยเพื่อกลุ่ม เขามาจากประชาชนตั้งกี่สิบล้านคน ควรจะให้โอกาสเขา
ส.ว.สรรหา อาจกังวลหากตัวแทนสายเลือกตั้งครองประมุขวุฒิสภารับลูกรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อโละ ส.ว.สรรหา ทิ้งในภายหลัง
เรายอมไหม ใช่ไหมว่ารัฐธรรมนูญออกมาทำให้โครงสร้างอ่อนแอลง ทำให้วุฒิสภาอยู่บนความไม่เชื่อใจ มันถึงมีกระบวนการตรวจสอบเยอะมากแต่ไม่สามารถทำได้และมีคนเอาประโยชน์จากตรง นี้ ดังนั้น ถ้าเลือกตั้งเข้ามาก็มีความเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกวันนี้เอาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้ง ถ้าเขาต้องการความเป็นประชาธิปไตยเราต้องให้อำนาจประชาชน ถูกไหม คุณไม่ต้องห่วงว่ามาจากการเลือกตั้งแล้วจะไปจัดการตรงนั้นตรงนี้
ครั้งนี้เป็นการเดิมพันการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาระหว่างสรรหาและเลือกตั้ง
เป็นการพิสูจน์ว่า 6 ปีที่มาจากภาคประชาชนควรจะได้มีโอกาส
แต่วุฒิสภาชุดนี้แบ่งเป็นก๊กพกมีดแทงกันเองอยู่ตลอด
ผมแปลกใจว่าใครบอกว่าเป็นหนึ่งเดียวก็ทำไม่ได้ 4 ปีกว่าพิสูจน์แล้วไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไง มันต้องแก้นะจริงๆ
หากจะให้นิยามกับ ส.ว.ที่ถูกออกแบบจากรัฐธรรมนูญ 2550
ผมเคยพูดว่าน้ำสองสี
เป็นน้ำสองสีที่เข้ากันลำบากเหมือนน้ำกับน้ำมันที่แยกออกจากกัน
เป็นน้ำสองสี ความจริงต้องกลมกลืนพัฒนา อาจจะแดงกับขาวแล้วมาเป็นอีกสีหนึ่งรวมกันได้ ทางที่ดีอย่าไปกังวลว่าพวกนี้ถ้าเลือกตั้งหมดจะเป็นสภาผัวสภาเมีย มันไม่เป็นอยู่แล้ว เพราะคุณออกแบบไว้แบบนี้แล้ว
จะมีตัวแปรที่ 3 ที่สายสรรหาอาจเสนอใครขึ้นมาตัดคะแนนท่านอีกหรือไม่
อาจจะมี ไม่รู้อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ อย่างคราวที่แล้ว คุณรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ก็ยังถูกเสนอชื่อ ขนาดมาจากพวกเรานะ แต่ทุกคนก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ถ้ามาจากภาคประชาชนนะ (ยกนิ้วหัวแม่โป้ง) เท่เลย