ทีมข่าว นปช.
17 สิงหาคม 2555
วันนี้ (17 ส.ค. 55) พะเยาว์ อัคฮาด (มารดาของ กมลเกด อัคฮาด) จัดการแถลงข่าวที่อิมพีเรียล เวิล์ด ลาดพร้าว เพื่อตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่ได้แถลงข่าวปฏิเสธการสังหารประชาชนเมื่อวานนี้
พะเยาว์ เผยว่า ขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล พล.อ.ประยุทธ ไม่ควรออกมาพูดอะไรในเวลานี้ ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการของศาล ทั้งศาลไทยและศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นเสมือนการใช้อำนาจมาล็อบบี้ศาล
ตนเองและญาติของผู้เสียชีวิตได้ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องนี้มากว่า 2 ปีแล้ว พวกเราอดทนมาโดยตลอด ทำไมกองทัพถึงต้องออกมาโวยวาย อาจเป็นเพราะกรณีนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกองทัพก็เป็นได้
กองทัพเคยชินกับเหตุการณ์สังหารประชาชนที่ผ่านมา ทั้ง 14 ต.ค. 16 และ 6 ต.ค. 19 ซึ่งกองทัพได้รับการนิรโทษกรรมมาโดยตลอด ดังนั้นการไต่สวนเหตุการณ์เดือน เม.ษ.-พ.ค. 2553 จึงรับไม่ได้ เพราะความกลัว ทหารบางคนอาจทำเกินหน้าที่ แต่ผู้ได้รับผลกระทบก็ไม่เคยออกมาเต้นแร้งเต้นกาขนาดนี้
การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นการล็อบบี้รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งมาเพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ตอนรัฐบาลก่อนหน้านี้ ตนเองเคยไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ก็ไม่เคยได้รับ แต่พอความจริงใกล้ปรากฎกลับโวยวาย ขนาดศาลไทยแค่เพิ่งนับหนึ่ง ถ้าเป็น ICC สงสัย พล.อ.ประยุทธ คงต้องไปผูกคอตาย
ขณะนี้ต่างประเทศกำลังจับตามองว่า จะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ ซึ่งตนเองเชื่อว่า ประชาชนไม่เอาด้วย ผู้สั่งการและผู้ดำเนินการต้องรับผิด รัฐบาลอย่าไปฟัง พล.อ.ประยุทธ ทั้งนี้ตนเองไม่เชื่อว่า กรณีนี้จะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การรัฐประหาร
พวกเราเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับเขตอำนาจ ICC เฉพาะปี 2553 เท่านั้น ไม่ใช่การลงสัตยาบัน การยอมรับอำนาจอำนาจ ICC เฉพาะปีนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่นกรณีของประเทศยูกันดา และไอวอรี่โคสต์ เพื่อให้ ICC สามารถเข้ามาจัดการได้ โดยไม่ถือเป็นการเอาผิดย้อนหลัง เพราะประเทศไทยเคยลงนามในธรรมนูญกรุงโรมก่อนหน้านี้
รัฐบาลต้องเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน โดยต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กองทัพไม่ควรร้อนรน และไม่ควรอ้างว่า ทหารไม่ได้เป็นฝ่ายยิง แต่เป็นฝ่ายถูกยิง ทั้งนี้ขอชื่นชม DSI และตำรวจที่ทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้พะเยาว์ยังกล่าวถึงกิจกรรมในวันที่ 19 ส.ค. นี้ว่า เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อการเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับอำนาจอำนาจ ICC, แจ้งความคืบหน้าการไต่สวนการตาย 98 ศพ และกิจกรรมอื่นเพื่อไม่ให้ประชาชนลืมเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทั้งที่มี อ.สุดา รังกุพันธุ์ และ ดร.ประแสง มงคลศิริ ร่วมงานด้วย