'ธาริต' ย้ำคดีสลายแดงเจ้าหน้าที่รัฐไม่ผิด ปฏิบัติตามคำสั่ง

กรุงเทพธุรกิจ 17 สิงหาคม 2555 >>>







"ธาริต" เผยเคลียร์ผู้นำกองทัพ ย้ำสลายเสื้อแดงปี 53 เป็นภาวะคับขัำ ปฏิบัติตามคำสั่ง ได้รับการคุ้มครอง ไม่ผิดกม. แจงไม่เจาะจงเอาผิดนักการเมือง


นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 ว่า หลังจากมีการท้วงติงจากผู้ใหญ่ในกองทัพเรื่องการให้ข่าวของดีเอสไอ ตนจึงได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ของกองทัพแล้ว และได้กำชับพนักงานสอบสวน รวมทั้ง พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยหลังจากนี้ตนจะเป็นผู้แถลงข่าวเพียงผู้เดียว ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นพนักงานสอบสวนยังคงทำงานเป็นปกติ แต่การให้ข่าวรายวันคงไม่มี จะแถลงข่าวก็ต่อเมื่อคดีมีความคืบหน้าชัดเจน ทั้งนี้คดีดังกล่าวดีเอสไอไม่ได้ทำคดีเพียงลำพัง มีพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนฝีมือดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 50 นาย เข้าร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน
   "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2553 เป็นภาวะไม่ปกติและถือเป็นภาวะคับขันของบ้านเมือง ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนใช้อาวุธทำร้ายประชาชนโดยพลการ แต่เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นในการใช้กำลัง ซึ่งใครจะมีความผิดอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ ดีเอสไอพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อพิสูจน์ความจริงต่อไป" นายธาริต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องบางคดี นายธาริต กล่าวว่า การที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในบางคดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดเสมอไป และอาจจะไม่ต้องรับผิดในการกระทำ เพราะอาจจะกระทำไปในภาวะจำเป็น หรือปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จึงไม่ต้องรับผิดทั้งในทางแพ่งและทางอาญา
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คดีดังกล่าวดีเอสไอมุ่งเอาผิดกลุ่มนักการเมืองหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ ดีเอสไอไม่ได้ทำคดีตามลำพัง ทุกฝ่ายให้ความสนใจ การสอบสวน ไม่ได้เจาะจงเอาผิดเฉพาะนักการเมือง แต่เป็นการพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในสำนวน สำหรับข่าวที่ปรากฎขึ้นอาจจะเป็นความคาดเคลื่อน เพราะการนำเสนอบางครั้งด้วยข้อจำกัดในเรื่องเวลาหรือเนื่้อที่ อาจรวบรัดไปบ้างแต่ไม่ได้โทษใคร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอออกมาระบุว่าเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง เมื่อกองทัพออกมาท้วงติงจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนไปหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า คงไม่มีใครพูดหรือเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจจริงในสำนวนได้ เพียงแต่วิธีการนำเสนอข่าวต่อสาธารณชนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยส่วนตัวรู้สึกเห็นใจทุกฝ่าย ทั้งผู้สูญเสีย ทหาร และผู้บาดเจ็บ
   "ทราบว่าเร็วๆนี้ศาลจะมีคำสั่งในสำนวนไต่ส่วนชันสูตรพลิกศพ โดยขั้นตอนต่อไป ตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะผู้ยื่นคำร้องขอไต่สวนสำนวนชันสูตร จะนำคำสั่งศาลอย่างละเอียดมาประกอบสำนวนคดี จากนั้นจำส่งมายังพนังานสอบสวนดีเอสไอ เนื่องจากสำนวนหลักของคดีดังกล่าวยังเป็นหน้าที่ของดีเอสไอตามที่ได้มีมติรับเป็นคดีพิเศษไว้ตั้งแต่ปี 53 อย่างไรก็ตามหากพิจารณาหลักฐาน เอกสารประกอบสำนวน เสร็จสิ้น ดีเอสไอจะส่งสำนวนไปยังอัยการทันที โดยสแต่ละสำนวนคดีจะแยกเป็นรายๆ สำนวนใดเสร็จก่อนก็ทยอยส่งไปก่อนไม่จำเป็นต้องรอให้ครบทัั้ง 21 ศพ” นายธาริต กล่าว