ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.วันที่ 4 กรกฎาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Oak Panthongtae Shinawatra" เป็นการเหน็บแนมพรรคประชาธิปัตย์ กรณีตอบโต้นายพานทองแท้ เรื่องนาซา รวมถึงกล่าวหา ตนเองว่า เป็นอีแอบทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตนจะไม่ตอบโต้ด้วยการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย โดยมีข้อความดังต่อไปนี้
"ถึงจะแพ้ในสาระ ขอกูชนะด้วยโวหาร"
เป็นคำนิยาม ที่ผมมองพรรคประชาธิปัตย์ ในยุค "นาซาโกโฮม" นี้ครับ
ก็ลองอ่านดูสิ่งที่พรรค ปชป. โต้ในสิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตดูสิครับว่า มีสาระอะไรมั่ง
ผมโปรโมทเวปให้ ปชป. ด้วยเลยก็ได้ลองเข้าไปดูใน Official website ของ ปชป. เลย
ข้อมูลที่ผมโพสต์เรื่องนาซาก่อนหน้านี้ ก็เนื่องจากผมเผอิญไปเห็นข้อมูลอีก 2 ข้อ ที่มันวางอยู่จะจะ อยู่ในหน้าเดียวกันกับข้อมูลที่ ปชป. หยิบมาโจมตีรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่วางแผนการบิน ไว้ตั้งแต่สมัยอภิสิทธิ์ฯเป็นนายกฯ (เมื่อ 18, 19 ก.ค. 54) ว่าจะเอาเครื่องบิน ER-2 (ที่ ปชป. ยืนยันว่าเป็นเครื่องบินสอดแนม) มาบินในอาณาเขตประเทศไทย
ผมก็แค่บอกว่า ทำไมถึงพูดแต่ข้อเดียว ทำไมอีก 2 ข้อในสมัยพรรค ปชป. จึงไม่พูด และผมก็ใช้คำว่า "ตั้งข้อสังเกต 4 ข้อ" แทนที่จะใช้คำว่า "ตั้งคำถาม 4 ข้อ" เพราะผมรู้ว่าท่านตอบไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลมาด่าพ่อล่อแม่ผมอีก และผมก็ไม่ได้ต้องการบีบบังคับให้ท่านตอบด้วยครับ เพราะยิ่งท่านตอบไม่ได้หรือท่านยิ่งทำให้มันคลุมเครือเท่าไหร่ พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นว่า "ใครเล่นการเมือง โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง"
เดี๋ยวนี้มีการใช้สำนวนโวหาร ประเภทหยาบๆคายๆถี่ขึ้นเรื่อยๆครับ ล่าสุดมีการบัญญัติศัพท์ "อีแอบหน้าคอมพ์" แทนคนที่ใช้เฟสบุ๊ค
คนใช้เฟสบุ๊คมีเป็นล้านคน แฟนเพจผมก็มีหลายหมื่นคน พูดแบบนี้ไม่สวยครับ ผมและแฟนเพจของผมได้ตกลงกันไว้แล้วว่า ผมจะไม่ตอบโต้แบบหยาบๆคายๆกับผู้ใด
โดยผมจะใช้ทฤษฎี "หมากัด ด่าเจ้าของหมา" มาใช้แทนอย่างเคร่งครัด โดยทฤษฎีนี้ อุปมาอุปมัยเหมือนกับมีใครแอบอบยู่ข้างหลัง แล้วปล่อยสุนัขมากัดผมอยู่เรื่อยๆ
ต่อให้ส่งมาอีกสัก 10 ตัวจะเป็นสุนัขตัวผู้หรือสุนัขตัวเมีย ก็กัดผมไม่เข้าหรอกครับ และผมก็จะไม่กัดตอบด้วย ผมก็อยู่หน้าจอคอมพ์ผม พูดคุยกับแฟนเพจของผมต่อไปนี่แหละ
ยังจำเหตุการณ์ที่มีคนเสนอให้บล็อคเฟสบุ๊คไม่ให้คนไทยทั้งประเทศใช้ได้มั๊ยครับ ในที่สุดก็ต้องลนลานออกมาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ นั่นคือตัวอย่างอิทธิพลของโซเชียลเน็ตเวิร์คครับ
ผมว่าเลิกเถอะครับโต้กันด้วยคำพวกนี้ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ครับ ถ้าไม่เลิกก็ตามใจ เพราะผมแค่เป็นห่วงว่า เกิดคนไทยที่ใช้เฟสบุ๊คเขาเคืองขึ้นมา แล้วพร้อมใจกันตั้งฉายาให้ใครที่เขาคิดว่าแอบสั่งอยู่ข้างหลังว่า "อีแอบหลังหมา" บ้าง เดี๋ยวจะพาลมาเสนอให้บล๊อคเฟสบุ๊คทั้งประเทศอีก ผมว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ"
ภายหลังจากนานพานทองแท้โพสต์ข้อความดังกล่าวไป ได้มีบรรดาแฟนเพจเข้ามากดไลค์ (ถูกใจ) และแสดงความคิดเห็น รวมถึงกดเผยแพร่ว่งต่อเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังจากเสร็จสิ้น งานครบรอบ 3 ปี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมวอยซ์ทีวี แล้ว นายพานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความ แจ้งบรรดาแฟนเพจว่า ตัวเอง ได้ตัดสินใจครั้งแรกในการเล่น Instagram หลังคนรอบข้างต่างติดโซเชี่ยลมีเดียประเภทนี้กันอย่างงอมแงมจึงอยากเป็นวัยรุ่นบ้าง พร้อมกับโชว์ชื่อ หน้าโปรไฟล์อินสตาแกรมให้บรรดาแฟนเพจ เข้าไปติดตามได้ ในชื่อ @oak_ptt
อยากเป็นวัยรุ่นกับเขาบ้างอะไรบ้างบวกกับทนน้องๆกับเพื่อนๆที่ติด instagram กันงอมแงม ประกอบกับผมเองก็ชอบถ่ายรูปไม่น้อย วันนี้เลยตัดสินใจมี instagram เป็นของตัวเองซักที Follow ผมได้ที่ @oak_ptt นะครับ
"อยากเป็นวัยรุ่นกับเขาบ้างอะไรบ้างบวกกับทนน้องๆกับเพื่อนๆที่ติด instagram กันงอมแงม ประกอบกับผมเองก็ชอบถ่ายรูปไม่น้อย วันนี้เลยตัดสินใจมี instagram เป็นของตัวเองซักที Follow ผมได้ที่ @oak_ptt นะครับ"