พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชัด โอกาสที่จะเดินทางกลับประเทศยังอีกไกล พร้อมหนุนแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องการทำประชามติ ขอฝ่ายตรงข้ามหันหน้าเปิดใจเจรจา...
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ แชนแนล นิวส์ เอเชีย ของประเทศสิงคโปร์ วิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่งในที่สุดมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้อง แต่เห็นว่าควรจะแก้ไขเป็นรายมาตรา รวมทั้งจัดให้มีการทำประชามติ หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น ทำให้ความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และข้อเรียกร้องให้มีการเปิดการเจรจาเพื่อให้ตนเองได้กลับประเทศ เกิดความยุ่งยากและสลับซับซ้อนมากขึ้น
พร้อมกับชี้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ต้องการให้มีการทำประชามติ หากจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยกลุุ่มที่ทำรัฐประหารตนเองนั้น ควรจะต้องมีการแก้ไข และรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวของตนเองจะพิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปอย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ข้อเรียกร้องใดๆ ในทางกฎหมายของฝ่ายตนเองจะต้องล้มเหลว ทั้งที่คำวินิจฉัยดังกล่าว เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย และการถ่วงดุลอำนาจการปกครอง ซึ่งเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย
ส่วนเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อประเทศเกิดความปรองดอง โดยที่ผ่านมา ฝ่ายตรงกันข้ามมองตนเองเป็นเหมือนกับแดร็กคูล่า ก็เพราะในอดีตที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่ตนเองให้การสนับสนุน สามารถชนะการเลือกตั้งได้ถึง 5 ครั้ง รวมทั้งการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
ทั้งนี้ ตนเองมองว่า ถึงเวลาที่ฝ่ายที่อยู่ตรงกันข้ามกับตนเอง ควรจะต้องหันหน้ามาพูดคุยกันได้แล้ว เพราะต่างฝ่ายต่างก็พูดภาษาไทยเหมือนกัน จึงควรจะเปิดใจคุยกันว่า ฝ่ายพวกคุณต้องการอะไร รวมถึงยังเป็นกังวลในเรื่องอะไรอีก
