ฐานเศรษฐกิจ 20 กรกฎาคม 2555 >>>
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวพรรคภูมิใจไทยจะเทคะแนนให้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากมีการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ คงไม่ใช่เรื่องที่พรรคไหนจะเทคะแนนให้ใคร แต่เป็นเรื่องเจตนารมณ์ของประชาชนว่าหากเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจาก รัฐประหารขัดต่อหลักการประชาธิปไตยของประเทศ เขาก็อยากแก้ก็จะแสดงเจตนารมณ์ หากมีพรรคการเมืองใดคิดว่าเป็นเจ้าของคะแนนเสียงถือเจตนารมณ์ของประชาชนตายตัวเอาไว้ได้ จะโยกซ้ายขวาอะไรก็ได้
"เขากำลังเข้าใจอะไรผิด ถ้าจะทำประชามติทุกคะแนนที่ได้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นแสดงว่าเจ้าของอธิปไตยต้องการกติกาสูงสุดเป็นของประชาชน ไม่ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยมีอยู่เท่าไหร่ พรรคนั้นมีเท่าไหร่ ใครจะเทให้ใครนั่นเป็นคนละความหมาย และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ไม่น่าใช้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า มองท่าทีพรรคภูมิใจไทยอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เห็นตัวตนที่เป็นแกนนำพรรคออกมาปฏิเสธ ซึ่งที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนระบุว่าเป็นรายงานข่าว เลยไม่แน่ใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ในชั้นนี้จะถือเอาท่าทีที่ปรากฏชัดจากแกนนำของพรรคว่าไม่มีเรื่องนี้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ควรลงมติวาระ 3 หรือทำประชามติก่อน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จุดยืนของแต่ละฝ่ายในพรรคเพื่อไทยชัดเจนหมดแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้มีจุดร่วมกันคืออยากเห็นคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญแบบละเอียดก่อน เพราะคำวินิจฉัยที่ผ่านมาไม่มีสถานะเป็นคำตัดสิน เหมือนเป็นคำแนะนำการให้ความเห็น แต่ว่าเราต้องการดูว่าลายลักษณ์อักษรระบุอย่างไร ข้อกฎหมายข้ออธิบายในคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร ตรงนั้นเมื่อเห็นชัดพรรคเพื่อไทยคงจะมาหารือทุกฝ่ายอีกที
เมื่อถามว่า หากมีการดึงพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลมองอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเสียงของรัฐบาล ตอนนี้มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้กับประชาชนได้ และพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันมาก็ไม่ปรากฏว่าพรรคใดจะเป็นปัญหาในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ตอนนี้มีแต่การคาดการณ์แต่ยังไม่มีสัญญาณการปรับจากนายกรัฐมนตรีเลย