นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อดีต ส.ส.เพื่อไทย กล่าวถึงการเดินทางไปศาลอาญา วันที่ 23 ก.ค. นี้ว่า เตรียมใจไว้อย่างเดียว เพราะศาลนัดไปสอบถาม จะได้อธิบายว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว การกระทำทั้งหมดอยู่ภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ ส่วนที่เคยบอกว่าหากต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง จะอดข้าวประท้วงนั้น ยังยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเห็นว่าการเข้าชื่อถอดถอนตุลาการรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิที่ทำได้ และศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูกในกรณีนี้ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นแบบเดียวกัน รวมถึงอัยการสูงสุดด้วย การกระทำของตนจึงถือเป็นการทำหน้าที่ของพลเมืองไทย อีก ทั้งศาลรัฐธรรมนูญยังอยู่ในฐานะที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่เหมือนศาลยุติธรรมอื่นๆ
นางธิดา โตจิราการ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะรวมตัวไปให้กำลังใจนายจตุพร ที่ศาลอาญานัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันตัว ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นคำ ร้องไว้ ในช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. นี้ ว่า คนเสื้อแดง จะนำดอกไม้ไปให้ และโบกไม้โบกมือให้กำลังใจ โดยไม่มีการถือป้ายประท้วงหรือสร้างความวุ่นวายแต่อย่างไร คาดว่าแกนนำ นปช. ทุกคนจะไปให้กำลังใจนายจตุพร ส่วนประชาชนที่จะมาร่วมนั้นคาดว่าน่าจะอยู่ในหลักพันคน
นางธิดากล่าวอีกว่า คาดว่านายจตุพรจะไม่ถูกถอนประกัน เพราะขณะนี้นานาชาติกำลังจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และนปช.ยังนำกรณีที่นายจตุพรถูกถอดถอนจากการเป็น ส.ส. ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสมาชิกรัฐสภา แห่งสห ภาพรัฐสภาสากลระหว่างประเทศแล้วด้วย
′ถ้าจู่ๆ จะมาถอดประกัน ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม ที่ผ่านมานายจตุพรไม่ได้ปลุกระดมอะไร เพียงแต่ยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย มีแต่ฝ่ายตรงข้ามที่นำคนไปล้อมศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีคนเสื้อแดงไปล้อมศาลเลย′ นางธิดา กล่าว
นางธิดากล่าวต่อว่า ถ้าผลออกมาอีกด้าน คือนายจตุพรถูกถอนประกันตัว ทราบว่านาย จตุพรก็ยินดีอยู่ในห้องขังโดยดี และเคยบอกว่าจะประท้วงอดอาหาร ซึ่งก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วนมวลชนคนเสื้อแดงจะคิดหรือทำอย่างไร คงต้องรอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน ถ้าจินตนา การไปบางคนอาจหาว่าข่มขู่ศาลอีก ดังนั้นในส่วนของแกนนำคงรอเวลาให้ศาลตัดสินก่อนแล้วค่อยหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
′การถอดถอนนายจตุพรจากการเป็น ส.ส. และความพยายามที่จะถอนประกันตัว คล้ายเป็นสัญญาณว่ามีความพยายามรอบใหม่ที่จะให้แกนนำและมวลชนเข้าไปอยู่ในเรือนจำรอบใหม่ อย่างไรก็ตามอาจเพียงขู่เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหว หรืออาจจะเอาจริงก็ได้ เราไม่ต้องการพูดให้ตื่นตกใจ แต่เพื่อให้คนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปเตรียมตัวว่า ประเทศนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้′ ประธาน นปช. กล่าว
ด้านนายคารม พลพรกลาง ทนายความนปช. กล่าวว่า วันที่ 23 ก.ค. นี้ เวลา 09.00 น. ตนพร้อมด้วยน้องสาวของนายฟาบิโอ โปเลงกี นักข่าวอิตาลีที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์สลายชุมนุม 53 จะเดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามที่ศาลนัดสืบพยาน ซึ่งตนได้รับมอบอำนาจจากทายาทของผู้ตาย ให้ร่วมทำคดีการเสียชีวิตของนายฟาบิโอ และจะร่วมสอบพยานกับพนักงานอัยการด้วย
นายคารมกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ในส่วนของพยานจะมี พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รอง ผบก.น.6 ซึ่งศาลนัดมาไต่สวนเช่นกัน คดีของนายฟาบิโอชัดเจนว่า เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิง ทั้งที่วันเกิดเหตุนายฟาบิโอแต่งกายแสดงตนเป็นผู้สื่อข่าวชัดเจน และมีพยานบุคคลแน่นหนาที่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ คดีดังกล่าวเป็นการเจตนาฆ่า จึงจะมีพยานที่รู้เห็นในวันเกิดเหตุไปร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
นายคารมกล่าวอีกว่า ส่วนคดีของนาย จตุพร ที่ศาลอาญานัดวันที่ 23 ก.ค. เช่นเดียวกัน ทีมทนายอยู่ระหว่างการหารือ เชื่อว่านายจตุพรไม่ได้พูดละเมิดคำสั่งศาล และนายจตุพรจะเดินทางไปชี้แจงตามเวลานัดหมายโดยไม่คิดหลบหนี ขอความเป็นธรรมให้นายจตุพรด้วย เพราะโดยลักษณะของนายจตุพรเป็นคนตรงไปตรงมา เชื่อว่าไม่ได้พูดก้าวล่วงศาล เพราะเขาระมัดระวังตัวพอสมควรเกี่ยวกับการพูดในลักษณะนี้ เหตุการณ์ขณะนี้ไม่อยากให้มองว่านายจตุพรเมื่อไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส. คุ้มครอง ทำให้หลายคนไม่สบายใจ คดีนี้หากนายจตุพรคิดหลบหนีก็คงจะไม่เดินทางไปศาลแน่นอน จึงอยากขอความเป็นธรรมให้นายจตุพรด้วย