โลกใหม่ โลกไม่มีขั้ว

คมชัดลึก 12 มิถุนายน 2555 >>>




จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม โลกในอนาคต จะเป็นโลกไม่มีขั้ว ไม่มีสี มหาอำนาจต่างๆ ต้องร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อความอยู่รอด ประเทศเล็กประเทศใหญ่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะโลกภิวัฒน์นั้นเอง ในสมัยก่อนโครงสร้างอำนาจและความสัมพันธ์เก่าเป็นตัวชี้ชัดในอนาคตไม่ใช่อีกต่อไป สหรัฐอเมริกา จีนหรือรัสเซียถึงแม้ว่าจะยิ่งใหญ่ แต่จะทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป
การเมืองในอนาคต จะต้องเป็นสูตรผสมที่ประเทศต่างๆ ยอมรับ จะรวมหัวกันเพื่อแบ่งพรรคแบ่งพวกไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าโลกใบนี้จะขาดความหลากหลาย สีสันต่างๆ สิ่งเหล่านี้ยังคงมีต่อไป บางประเทศอาจจะมีประชาธิปไตย บางประเทศเป็นกึ่งประชาธิปไตยหรือเผด็จการอ่อนๆ พูดง่ายๆ คือโลกจะเป็นเหมือนสวนดอกไม้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดและสี ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร
การประชุมเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อปี 2009 เป็นนิมิตหมายอันดีที่ชี้ให้เห็นว่า ประเทศมหาอำนาจไม่ใช่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียวอีกต่อไป เพราะประเทศอื่นๆ เช่นอินเดีย บราซิล จีนและรัสเซียต่างก็มีบทบาทของตัวเองในการเมืองโลก ในที่ประชุมครั้งนี้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ต้องเชิญตัวเองเข้าไปเจรจากับผู้นำเหล่านี้เพื่อหาทางออก ปกติท่าทีสหรัฐอเมริกาในการวิ่งเข้าหาในลักษณะนี้ไม่มีแน่นอน
ทั้งอินเดียและบราซิลถือได้ว่าเป็นน้องใหม่ แต่มีเสียงตอบรับสูงในเวทีการเมืองโลก แต่ลึกๆ สองประเทศนี้รู้สึกเคอะเขิน เพราะมีปัญหามากมายภายในประเทศ สามารถค้านสหรัฐอเมริกาได้ ตอนหลังสองประเทศนี้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจทำให้อัตราความเจริญเศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้น
ส่วนจีนและรัสเซียเป็นคู่กัดเก่าของสหรัฐอเมริกาในสงครามเย็น แต่ในโลกที่ไม่มีการต่อสู้ทางด้านความคิดทางการเมืองในปัจจุบัน ทำให้ทั้งสองประเทศซึ่งเป็นมหาอำนาจเก่า ต้องมีการพัฒนาการทูตและแสวงหาจุดร่วมในประเด็นร้อนต่างๆ เพราะถือว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ฉะนั้นนโยบายเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนหรือการปล่อยแก๊สพิษนั้นจึงมีจุดยืนที่ต่างออกจากสหรัฐอเมริกาโดยสิ้นเชิง
สหรัฐอเมริกาต้องตระหนักดีว่าการเมืองโลกทุกวันนี้ ประเทศตนไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตำรวจโลกคนเดียวได้แบบสมัยก่อน ต้องอาศัยประเทศอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมมือและสร้างสรรค์นโยบาย ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากข้อจำกัดทางด้านการช่วยเหลือทางการเงินและระเบียบต่างๆ ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ การเพิ่มการพูดคุยปรึกษากันระหว่างผู้นำกับหุ้นส่วนต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศต่างๆ ได้
จึงไม่แปลกที่โลกในอนาคต จะไม่มีขั้วไม่มีสี มีแต่ความพยายามในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะถ้าแก้ไขร่วมกันไม่ได้ โลกของเราจะเสื่อมและมีคนล้มตายจากภัยอันตรายจากธรรมชาติหรือไม่ก็เป็นสงคราม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโลกที่เราอาศัยอยู่จะไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้