โพสท์ทูเดย์ 17 มิถุนายน 2555 >>>
เด็ก ปชป. ชี้ประชาชนไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ลั่นเดินหน้าต่อสู้ทั้งใน-นอกสภา
คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายวัชระ เพชรทอง รองประธานกรรมาธิการฯและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดสัมมนา เรื่อง ปรองดองรัฐธรรมนูญใหม่ ประชาชนได้เสียอะไรที่ห้องทักษิณาลัย โรงแรมสยามธานี จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี มีประชาชนร่วมฟังประมาณ 300 คน
นายวัชระ กล่าวว่า กรณี พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลเสนอเข้ามา ซึ่ง กมธ. ได้นำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ให้ประชาชนอ่านทุกตัวอักษร โดยประชาชนกว่า 90% ไม่รู้ถึงเนื้อหากฎหมายฉบับนี้เมื่อประชาชนได้อ่านทั้ง 8 มาตราแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้ กมธ. จะนำผลไปเสนอต่อประธานสภาฯว่า ความเห็นของประชาชนเป็นอย่างไรและมีทัศนคติอย่างไรต่อร่างกฎหมายที่รัฐบาลพยายามจะเสนอ ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเห็นของประชาชน เพราะเป็นการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบางกลุ่มเท่านั้น
"พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องต่อสู้ทั้งในและนอกสภา แต่จะเป็นการต่อสู้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะหัวหน้าพรรคไม่ประสงค์จะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ขอรัฐบาลวางใจได้เลยว่าจะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายไม่ควรวิตกจนเกินกว่าเหตุ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ทำเหมือนกลุ่มเสื้อแดงที่มีการชุมนุมและมีการจัดตั้งกองกำลังมีการติดอาวุธซึ่งวิธีการดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย” นายวัชระ กล่าว
นายบุญยอด กล่าวว่า เมื่อดูกฎหมาย พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ก็น่าตกใจเพราะหลายคนไม่เคยเห็นร่าง พ.ร.บ. นี้มาเลย เมื่อดูแต่ละมาตราแล้วมันก็ไม่ใช้คำว่าปรองดอง ซึ่งจาการรับฟังความคิดเห็นก็มีเสียงสะท้อนออกว่า น่าจะใช้คำว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บางคนก็สะท้อนออกมาว่า เป็น พ.ร.บ. คืนทรัพย์สินให้กับประชาชน
"ทุกคนยอมรับว่าใช้คำว่าปรองดองไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของการยกโทษให้กับความผิดที่เคยเกิดขึ้นให้พ้นผิด และมีเรื่องของการเงินเกี่ยวข้องด้วย เมื่อเห็นชัดเจนแล้วว่าขอให้ประชาชนเข้าใจว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องออกมาเคลื่อนไหว หากมีผลจะเป็นการทำลายนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรมโดยสิ้นเชิง คาดว่าเมื่อประชาชนเข้าใจแล้ว ก็คงนำไปขยายผลความคิดเห็นนี้ออกไปให้มากขึ้นเพื่อจะได้ถกด้วยเหตุด้วยผล" นายบุญยอด กล่าว