เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ (10 อรหันต์) ของผู้ตรวจการแผ่นดิน กำหนดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางและข้อเสนอแนะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (รธน.) ในกรณีที่เห็นว่าจำเป็น ในการประชุมครั้งนี้มีนายวิษณุ เครืองาม รองประธาน ทำหน้าที่ประธานในการประชุม และมีผู้ร่วมประชุมอีก 4 คนประกอบด้วย
- นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
- นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้ช่วยอธิการบดี มสธ.
- นายจรัส สุวรรณมาลา อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีต ส.ส.ร. ปี 50 และ
- นายกิตติศักดิ์ ปรกติ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายกิตติศักดิ์ ปรกติ โฆษกคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงภายหลังว่า ที่ประชุมได้หารือถึงประเด็นที่เป็นสาระของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่พูดกันมาก คือสาระสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ ประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญใช้บังคับ แก่กรณีนั้นๆ หรือมาตรา 7 เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบัน ยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน แม้จะมีผลการศึกษาอยู่ค่อนข้างมาก ทางคณะกรรมการฯจึงมอบให้ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ที่เป็นกรรมการอยู่ ไปทำการศึกษารวบรวม ความหมายของประเด็นดังกล่าว เพื่อนำมาพูดคุยในการประชุม และวางแนวทางว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากัษัตริย์ทรงเป็นประมุมที่แจริงคืออะไร ในการประชุมครั้งหน้า
นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะพูดถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของการชุมนุม การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ และขอบเขตสิทธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือ มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่
“เรื่องระบอบการปกครอง ขณะนี้ก็เชื่อมโยงกับปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 บัญญัติว่าห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ที่พูดกันตอนนี้ หรือที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 68 ก็คือเรื่องของการล้มล้าง ซึ่งกฎหมายไม่ได้บัญญัติคำนี้ไว้ ดังนั้นทางคณะกรรมการฯ เห็นว่า การที่จะไปบอกว่าเป็นการเปลี่ยนหรือเป็นการล้มล้างเราจะต้องมีความเข้าใจที่ถ่องแท้เสียก่อนว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มันเป็นอย่างไร โดยการพิจารณาของคณะกรรมการฯก็จะครอบคลุมทั้งมาตรา 291 และ 68 ที่เราเริ่มเรื่องนี้ก่อนเพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
และว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะกระทบต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่ได้