การสั่งการให้ช่อง "เอเชีย อัพเดท" ปรังผังรายการบนเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ของ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา แม้จะมีลักษณะทีเล่นทีจริง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลในการเติบโตของช่องบลูสกายของพรรคประชาธิปัตย์เพราะ "ณัฐวุฒิ" รู้ซึ้งถึงประสิทธิภาพการสื่อสารถึงมวลชนของทีวีดาวเทียมเป็๋นอย่างดี
"ม็อบ" ในเมืองไทยมีพัฒนาการตามระบบโทรคมนาคมมาตั้งแต่ปี 2535 การชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลรสช. ถูกเรียกว่า"ม็อบมือถือ" เพราะเมื่อสื่อโทรทัศน์ถูกปิดกั้น ชนชั้นกลางที่เข้าร่วมชุมนุมต่างใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารระดมคนเข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก
มาถึงปี 2548 "ม็อบพันธมิตรฯ"ที่สามารถขยายตัวอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศได้ก็เพราะมีสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เป็นกระบอกเสียง เช่นเดียวกับ"ม็อบเสื้อแดง"ที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 กลุ่มนปช.ก็ริเริ่มตั้งสถานีโทรทัศน์"พีเพิล แชลแนล"ขึ้นมา และ"พีเพิล แชลแนล"แสดงผลอย่างมีประสิทธิภาพในการชุมนุมใหญ่เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553
และเมื่อถูกปิดสถานีหลังการสลายการชุมนุม กลุ่มนปช.ก็ตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชีย อัพเดทขึ้นมา และกลายเป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง
ดังนั้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างยับเยิน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม"บลูสกาย"จึงเกิดขึ้นมา แม้ว่าคนออกหน้าจะเป็น"เถกิง สมทรัพย์"มือขวาของ"เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง" แต่เป็นที่รู้กันว่าผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการแต่ไม่ออกหน้าก็คือพรรคประชาธิปัตย์
จากที่ออกอากาศในระบบเคยูแบนด์หรือจานทึบสีส้มผ่านทางดาวเทียม NSS6 "บลูสกาย"ก็เริ่มขยับขยายด้วยการเทคโอเวอร์สถานี"อายุยืน"ที่แพร่ภาพในระบบซีแบนด์หรือจานดำ ผ่านดาวเทียมไทยคม ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น"บลูสกาย"ในเวลาต่อมา
แม้ยอดผู้ชมช่องบลูสกายยังต่ำกว่าช่องเอเชีย อัพเดท แต่ดูเหมือนว่าแกนนำนปช.และพรรคเพื่อไทยเริ่มจับตามองช่องบลูสกายมากขึ้น โดยเฉพาะ"ณัฐวุฒิ"ซึ่งเติบโตมาจากแวดวงโทรทัศน์ เขามองออกว่าการแข่งขันของวงการจอแก้วนั้น เรื่องผังรายการนั้นสำคัญเพียงใด
"ณัฐวุฒิ"ให้นโยบายกับผู้บริหาร"เอเชีย อัพเดท"ผ่านทางเวทีเลยว่าให้รีบปรับผังรายการโดยด่วน เพราะตอนนี้ช่องบลูสกายใช้วิธีการ"รีรัน"รายการการเมืองในช่วงที่ช่องเอเชีย อัพเดท ไม่มีรายการการเมือง
"รายการที่ขายยาเสริมสมรรถภาพหรือสินค้าขายตรงทั้งหลายต้องเลิก เปลี่ยนเป็นรายการการเมือง"
แกนนำนปช.นั้นวิเคราะห์ว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินตามแนวของนปช. เริ่มจากการตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเป็นกระบอกเสียง จากนั้นก็เริ่มจัดเวทีปราศรัยและถ่ายทอดสดเพื่อดึงมวลชนให้มาติดตามช่องดังกล่าว
และในวันที่ 19 พฤษภาคมที่กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ พรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ที่นครศรีธรรมราช หลังจากใช้กลยุทธ์นี้ที่ชุมพร และสุราษฎร์ธานีมาแล้ว
"มติชนออนไลน์"ได้ตรวจสอบเรทติ้งของ 2 ช่องดังกล่าวจาก psirating (วัดยอดผู้ชมผ่านจานรับดาวเทียม psi ด้วยการใช้ซิมโทรศัพท์ใส่ในกล่องรับสัญญาน) พบว่าในช่วงวันที่ 18 พฤษภาคม เรทติ้งของช่องบลูสกายดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังห่างจากช่องเอเชีย อัพเดทมาก แต่มีบางช่วงเวลาที่เรทติ้งเริ่มเบียดเอเชีย อัพเดท
อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ทั้ง 2 ช่องถ่ายทอดสดการปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงและพรรคประชาธิปัตย์ยอดผู้ชมสถานีเอเชียอัพเดทกลับทะยานขึ้นสูงมากโดยเฉพาะในช่วงเย็น และทะยานขึ้นสูงสุดในช่วง 20.00-22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แกนนำนปช.ขึ้นเวที และมีการวิดีโอลิงก์จากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงนี้ยอดผู้ชมของเอเชีย อัพเดทสูงมาก สูงกว่าฟรีทีวีอย่างช่อง 5 และช่อง 9
ในขณะที่ช่องบลูสกายที่ถ่ายทอดสดการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ยอดคนดูก็สูงขึ้นในช่วง 20.00-22.00 น.เช่นเดียวกัน แต่ยังห่างกว่าเอเชียอัพเดทประมาณ 4-5 เท่าตัว