โพสท์ทูเดย์ 10 มกราคม 2555 >>>
บทความเรื่องการยกเลิกมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรยกเลิก ไม่ควรแก้ไข แต่ก็มีความเห็นที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งผมจะนำมาเผยแพร่และชี้แจงเท่าที่ทำได้
คุณ nataokung แสดงความเห็นว่า “คุณสมผล ตระ*ลรุ่ง ครับ ไม่ทราบว่าใครที่ต้องการและเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 ไม่ทราบครับ ควรจะเจาะจงมาให้ชัดๆ อย่าได้ใช้คำว่า “ความพยายามของคนบางกลุ่ม” แล้วยังบิดเบือนบอกว่าเมื่อ|ข้อเสนอให้ยกเลิกมีคนไม่เห็นด้วย ก็เปลี่ยนเป็น “แก้ไข” ผมเห็นมาแต่ไหนแต่ไรก่อนที่นิติราษฎร์จะเป็นนิติราษฎร์ด้วยซ้ำไป ว่าเค้าเสนอให้ “แก้ไข” ไม่ใช่ “ยกเลิก” และกรุณาอย่าเหมาว่าทุกคนที่ไม่เห็นด้วย ต้องการพูดจาหมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน ดังนั้นกล้าออกมายอมรับ ให้มันเหมือนกับกล้าที่ออกมาชี้หน้าด่าคนอื่นเถอะครับคุณสมผล ตระ*ลรุ่ง”
คุณ linpay แสดงความเห็นไว้ว่า “คุณสมผล ตระ*ลรุ่ง นักวิชาการกฎหมายอิสระ คุณตีความหมายว่า “ดูหมิ่น” “หมิ่นประมาท” “อาฆาต มาดร้าย” ไว้ยังไง เช่น “กษัตริย์ประเทศหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลประหารรัฐบาลตัวเอง” (ประเทศแถวเอเชียใต้) หากเป็นไทยอาจเข้าข่ายนี้ก็ได้ หลายคดีมันเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของสถาบัน แต่ถูตีความหมายเป็นการดูหมิ่น
ผม Copy ความเห็นทั้งสองโดยไม่แก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าพิมพ์ชื่อสกุลผมผิดเหมือนกัน แต่ผมก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นความบังเอิญ คงจะไม่ใช่คนเดียวกันที่ใช้ชื่อต่างกัน
ความเห็นของคุณ linpay ดูจะมีอคติ เชื่อในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาจากคนบางกลุ่มเสียแล้ว คงยากที่จะแก้ไขด้วยเหตุผล ก็คงต้องปล่อยไป ใช้หลักธรรมข้ออุเบกขา กับความเห็นเช่นนั้น ส่วนความเห็นของคุณ nataokung แสดงอย่างมีเหตุมีผลที่น่าจะยังทำความเข้าใจกันได้ ผมขอเรียนชี้แจง ดังนี้
1. ผมยืนยันว่ามีการขอยกเลิกมาตรา 112 จริง ท่านสามารถตรวจสอบข่าวสารได้ ถ้าขี้เกียจไปค้นหาข่าวย้อนหลังผมแนะนำให้ไปอ่านโพสต์ทูเดย์ ฉบับวันศุกร์ที่ 6 ม.ค. คงหาได้ไม่ยาก แล้วจะทราบเองว่า มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ตามข่าวเรียกว่า นักวิชาการแดง แสดงความเห็นว่าอย่างไร นอกจากมีการเรียกร้องให้ยกเลิกแล้ว ประเด็นนี้ คอป. ของอาจารย์คณิต ณ นคร ได้นำไปพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ควรยกเลิก แต่ควรแก้ไข
2. บทความเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อาจไม่ชัดเจนว่าผมพยายามนำเสนอในหลักการและเหตุผล ไม่ใช่การแสดงความเห็นอย่างมีธงคำตอบไว้ก่อน จึงขอยืนยันผมไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 นั้นเป็นความเห็นทางหลักกฎหมาย
ประการแรก เป็นการเปรียบเทียบตัวบทกฎหมายกันเองว่า ถ้ายกเลิกหรือแก้ไขเฉพาะมาตรา 112 จะทำให้กฎหมายไม่มีมาตรฐาน ปกป้องประมุขต่างชาติมากกว่าประมุขของตนเอง ถ้ากฎหมายเป็นอย่างนี้ น่าจะเข้าข่ายเป็นกฎหมายสากู ไม่ใช่สากล
ประเด็นที่สอง คือ การดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้าย ในทางคุณธรรมหรือจิตสำนึก(ที่ดี)ของสัตว์โลกที่เรียก มนุษย์ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Norm เป็นสิ่งที่ควรกระทำหรือไม่ เป็นสิ่งผิดหรือไม่ ซึ่งคนปกติทั่วไปคงคิดได้เอง ซึ่งประมวลกฎหมายอาญาของเราบัญญัติให้การดูหมิ่นเป็นความผิดตามมาตรา 393 หมิ่นประมาท เป็นความผิดตามมาตรา 326 สำหรับการอาฆาตมาดร้าย
แสดงให้เห็นว่า โครงสร้างของกฎหมายยอมรับว่าการดูหมิ่น การหมิ่นประมาท การอาฆาตมาดร้าย เป็นสิ่งที่กฎหมายไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ทำกับผู้อื่น
แต่ถ้าเห็นว่าไม่ควรจะมีมาตรา 112 เพราะเป็นความผิดอยู่แล้ว (เหมือนที่บางคนบางกลุ่มคิดอยู่ในใจ) แสดงว่าไม่ต้องการให้นำสถานะของบุคคลมากำหนดความผิดพิเศษ
ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ ก็ต้องยกเลิกความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน เช่น การดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ถ้าต้องการความเท่าเทียมกันจริงๆ ต้องยกเลิกความผิดแจ้งความเท็จ เพราะถ้าพนักงานบริษัทโกหกเจ้านาย ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จแต่ถ้าไปโกหกเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
แสดงให้เห็นว่า กฎหมายให้ความสำคัญกับสถานะของบุคคล ซึ่งเป็นหลักสากลทั่วไป
สถานะของบุคคลมีความสำคัญมากเพียงใดดูได้ในสภา หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงนายใหญ่ดูไบ ที่ไม่มีตำแหน่ง (ทางการ) ใดๆ ในพรรค ท่านผู้ทรงเกียรติไม่ว่าหัวดำหัวขาวเกิดอาการทุรนทุราย
คุณ nataokung น่าจะเอาบุญ ช่วยไปบอกท่านผู้ทรงเกียรติเหล่านั้น ให้เอาตรรกะของคุณไปใช้ จะได้ไม่เสียเวลาของสภา และจะเป็นการช่วยนายใหญ่อีกด้วย อย่าปกป้องนายใหญ่แบบนี้ เพราะจะเป็นโทษกับนายใหญ่เอง
สำหรับท่านที่เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีมาตรา 112 หากมีใครจะมากล่าวถ้อยคำดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้าย พ่อของท่าน ในฐานะลูกท่านจะทำอย่างไร ให้เขาด่าได้เพราะเป็นสิทธิพื้นฐาน หรือจะนั่งหัวเราะชอบใจ เพราะถ้าไปปกป้องเท่ากับเป็น “โทษ” พ่อของท่านเอง
ถ้ามีคนอย่างนี้อยู่จริง ผมคงต้องหลีกห่างไม่อยากรู้จัก ไม่อยากแม้จะอยู่ใกล้ๆ กลัวจะติดโรคร้าย