มาร์ครับหมาย คดี"พัน-อีซา"/จนท.ซัด ชุดดำยิง "ฮิโรยูกิ"




ข่าวสด 20 มิถุนายน 2556


ดีเอสไอส่งหมายถึงมือ"อภิสิทธิ์" ให้มาพบพนักงานสอบสวนก่อนนำส่งอัยการฟ้องคดีฆ่าและพยายามฆ่า พัน คำกอง-ด.ช.อีซา-สมร ไหมทอง ในเหตุการณ์ พ.ค.2553 ประธานนปช.ธิดาเตือนคนเสื้อแดงอย่าตกหลุมพรางกลุ่มที่เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลอยู่ในเวลานี้ ซึ่งมีเจตนายั่วยุให้คนเสื้อแดงออกไปตอบโต้ด้วยความรุนแรง สร้างสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลาย

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นำหมายนัดมามอบให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 มิ.ย. ก่อนนำตัวส่งฟ้องต่ออัยการข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล และร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และกรณีบาดเจ็บของนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 15 พ.ค.2553

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผอ.ศอฉ. จะเดินทางไปตามหนังสือเรียกวันที่ 26 มิ.ย. เข้าใจว่าจะเป็นการสรุปในสิ่งที่ดีเอสไอได้สอบสวนมาตั้งแต่คดีนายพัน ด.ช.คุณากร และนายสมร รวมเป็นคดีเดียว ข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย โดยเจตนา และพยายามฆ่า แต่ยังมีข้อหาอื่นเพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งตนให้ทนายดูอยู่ว่าจะฟ้องกลับได้อย่างไร และวันที่ 26 มิ.ย. ตนและนายสุเทพคงไปรับทราบข้อกล่าวหาเฉยๆ และเมื่อมีความเห็นสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็คงส่งอัยการ อยากให้อัยการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตนจะทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการด้วย เพื่อให้เห็นว่าทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมีความผิดปกติอย่างไร ถึงแม้ในการทำคดีของดีเอสไอจะมีตัวแทนของอัยการร่วมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าอัยการจะมีความเห็นเหมือนกับดีเอสไอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 20 มิ.ย. เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดไต่สวนคดีการเสียชีวิตของนายรพ สุขสถิต นายมงคล เข็มทอง นายสุวัน ศรีรักษา นายอัฐชัย ชุมจันทร์ นายอัครเดช ขันแก้ว และน.ส.กมนเกด อัคฮาด โดยทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิตภายในวันปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต คดีที่อัยการยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรพลิกศพ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตขณะถ่ายภาพข่าวการชุมนุมของนปช. นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี และนายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี สองผู้ชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งทั้งสามถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ใกล้สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553



พนักงานอัยการเบิกตัว นายทหารระดับผบ.พัน ค่ายนิมมาณกลยุทธ จ.สระแก้ว ขึ้นเบิกความว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2553 ได้รับคำสั่งจากพล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ให้หน่วยเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยในกทม.และปริมณฑล เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยเข้ามารักษาความปลอดภัยที่ร.11 รอ. มีกำลังในการดูแล 4 กองร้อย กองร้อยละ 150 นาย เคลื่อนย้ายไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังได้รับรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไปปักหลักชุมนุม



จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.วลิตเรียกกำลังทหารพล.ร.2 รอ. แจ้งให้ทราบว่าได้รับภารกิจจากศอฉ. ให้ขอคืนพื้นถ.ราชดำเนิน จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถึงสี่แยกคอกวัว โดยนำกำลังพลเข้าจุดรวมพลบริเวณกองทัพภาคที่ 1 เวลา 11.00 น. จากนั้นเวลา 12.00 น. พล.ต.วลิตประชุมผบ.หน่วยที่สโมสรทหารบก สั่งการแต่ละหน่วยเคลื่อนย้ายออกจากที่รวมพลไปยังถ.ราชดำเนิน เพื่อขอคืนพื้นที่ ในเวลา 13.30 น. กระทั่งเวลา 13.00 น. กลุ่มนปช.เข้าปิดล้อมกองทัพภาคที่ 1



ต่อมามีการเจรจาให้ถอยไปแต่กลุ่มนปช.ไม่ยินยอม จึงเกิดการปะทะกันจนมีทหารได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงใช้แก๊สน้ำตาเพื่อให้กลุ่มนปช.ถอยออกไป กระทั่งเวลา 14.00 น.เศษ เมื่อเคลื่อนกำลังจากแยกวังแดง ศอฉ.ได้จัดกองร้อยรถสายพานลำเลียงเป็นที่กำบังของเจ้าหน้าที่ โดยมีพล.ต.วลิตเป็นผบ.เหตุการณ์ พยานเป็นผบ.ส่วนหน้า และป.2 รอ. ดูแลส่วนหลัง ร.19 รอ.เป็นหน่วยสนับสนุน



พยานเบิกความต่อว่า เวลา 16.00 น. เมื่อเดินเท้ามาถึงแยกวันชาติ มีผู้ชุมนุมอยู่บน ถ.ดินสอตรงข้ามสะพานแยกวันชาติจำนวนมาก พล.ต.วลิตได้ให้ร.21 รอ.มารักษาการตรงส่วนหน้าและเริ่มผลักดันผู้ชุมนุม ด้วยการเริ่มเจรจา แต่ไม่เป็นผลจึงใช้แนวโล่ กระบอง ผลักดันไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้สำเร็จ ผู้ชุมนุมจำนวนมากหยุดอยู่ที่หัวถ.ดินสอ หน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนทหารจะนำแผงเหล็กมากั้นระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมรวบรวมชายฉกรรจ์เข้ามาผลักดันเจ้าหน้าที่ให้ถอยกลับไป โดยใช้ด้ามธง อิฐตัวหนอน หนังสติ๊ก ไม้ไผ่เหลาแหลม เป็นอาวุธ ทหารจึงใช้โล่ กระบอง และแก๊สน้ำตาประเภทขว้างตอบโต้



ระหว่างนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาคุยกับตนเป็นระยะๆ เพื่อเจรจา พร้อมกับบอกว่าให้ทหารถอนกำลังกลับไป เนื่องจากแกนนำบอกว่าจะไม่ยอมคืนพื้นที่ให้ แต่พยานยืนยันว่าไม่สามารถถอนกำลังได้ แต่หยุดการขอคืนพื้นที่อยู่หัวถ.ดินสอ เนื่องจากผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีเพิ่มมากขึ้นราว 1 หมื่นคน ไม่สามารถผลักดันต่อไปได้ จึงตั้งขบวนอยู่บริเวณหัวถ.ดินสอ ห่างจากกลุ่มผู้ช ุมนุมประมาณ 50 เมตร เวลา 18.00 น.เศษ พล.ต.วลิตแจ้งว่าศอฉ.สั่งหยุดการผลักดัน และเตรียมถอนกำลังกลับที่ตั้ง พล.ต.วลิตเรียกประชุมผบ.หน่วยทั้งหมดเพื่อหาแนวทางถอนกำลัง ระหว่างนั้นได้รับทราบว่าทหารถูกปืนเอ็ม 79 และปืนเอ็ม 16 ยิงบาดเจ็บหลายนาย และขอถอนกำลังที่ตั้ง



พยานเบิกความอีกว่า กระทั่งเวลา 19.00 น. ระหว่างที่ผู้บังคับบัญชาประชุมวางแผนปฏิบัติการบริเวณถ.ดินสอ ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมากอยู่ด้านหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาประชิดแนวทหาร ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดการปะทะกัน พยานจึงออกไปดูเหตุการณ์และสั่งการทหารเสริมกำลังแนวกั้นให้หนาแน่นมากขึ้น ระหว่างนั้นพบเห็นแสงไฟตกลงบนถ.ดินสอ ใกล้กับจุดที่ผู้บังคับบัญชาประชุมคุยกันอยู่ ห่างจากพยานประมาณ 10 เมตร จากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้น พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสธ.พล.ร.2 รอ. และพ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิ์เดช ผบ.ร.12 พัน 2 รอ. ถูกแรงระเบิดล้มลงแน่นิ่งไป ซึ่งพยานก็ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้ายจากแรงระเบิดด้วย พล.ต.วลิตก็ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหักถึง 3 ท่อน



จากนั้นก็เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนโกรธแค้นอะไรบางอย่าง พยานจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกไปด้านหลังถ.ดินสอ มุ่งหน้าไปทางแยกสะพานวันชาติ ก่อนลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งร.พ. โดยได้รับรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจับกุมเจ้าหน้าที่ ที่ติดค้างอยู่ถ.ดินสอ พร้อมยึดอาวุธปืนทาโวร์ ลูกกระสุนจริง ปืนลูกซอง และชุดปราบจลาจลจำนวนมาก



ในช่วงบ่ายพยานเบิกความต่อว่า เวลาประมาณ 16.00 น.ของวันนั้น เห็นนายฮิโรยูกิพร้อมเพื่อนนักข่าว 1 คน เดินไปเดินมาอยู่ระหว่างฝั่งเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ โดยมีช่วงหนึ่ง ผู้ตายได้ขึ้นไปบนรถกระบะของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อถ่ายภาพในมุมสูง พยานเข้าไปเตือนว่าให้ลงมาเพราะอาจเกิดอันตราย เนื่องจากได้รับรายงานว่าอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ผู้ตายยอมลงจากรถ จากนั้นก็เห็นผู้ตายเดินไปเดินมาบริเวณถ.ดินสอ ด้านหน้าโรงเรียนสตรีวิทยาเพื่อถ่ายภาพ แต่เมื่อช่วงที่เกิดระเบิดขึ้นพยานไม่เห็นผู้ตาย จนทราบข่าวภายหลังว่าผู้ตายเสียชีวิต เนื่องจากถูกยิง ส่วนผู้เสียชีวิตที่ 2 และ 3 พยานไม่รู้จักและไม่เคยพบเห็นผู้ตาย ทั้งนี้ในปฏิบัติการดังกล่าวหน่วยมีจำนวน 4 กองร้อย มีปืนเล็กยาวกองร้อยละ 10 กระบอก แบ่งเป็นปืนทาโวร์ 1 กองร้อย และอีก 3 กองร้อยใช้ปืนเอ็ม 16 เอ 2 พร้อมกระสุนจริงขนาด 5.56 ม.ม. กระบอกละ 20 นัด และอาวุธปืนลูกซองซึ่งได้รับจากศอฉ.กองร้อยละ 10 กระบอก พร้อมกระสุน กระบอกละ 20 นัด ซึ่งระดับผบ.หมู่เท่านั้นที่อนุญาตให้ถือปืนได้



ส่วนอาวุธปืนเอเคหรืออาก้าไม่มีใช้ในหน่วยกองทัพบกแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีกระสุนซ้อมรบ แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง และชุดปราบจลาจลอื่นๆ ส่วนกระสุนจริงไม่ได้บรรจุในแมกกาซีน แต่ได้แยกใส่ไว้ในกล่องต่างหาก ซึ่งผู้บังคับบัญชามีคำสั่งว่าจะใช้กระสุนจริงได้ก็ต่อเมื่ออาจได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต และใช้เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งจะใช้ได้เมื่อใดต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ของแต่ละพื้นที่นั้นๆ การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ไม่มีการสั่งใช้กระสุนจริงแต่อย่างใด ขั้นตอนที่รุนแรงที่สุดอยู่ที่การใช้ปืนลูกซองและกระสุนยางเท่านั้น

พยานเบิกความอีกว่า อย่างไรก็ตามในทางการข่าวทราบว่ามีชายชุดดำก่อเหตุใช้อาวุธสงครามในหลายพื้นที่ พยานได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวของศอฉ.พบกลุ่มชายชุดดำพร้อมอาวุธหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และหน้าวัดตรีทศเทพ แต่พยานไม่พบเห็นชายชุดดำแต่อย่างใด ทั้งนี้ในการปฏิบัติภารกิจมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 5 นาย ประกอบด้วยที่บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา 4 นาย และแยกคอกวัว 1 นาย มีผู้บาดเจ็บ 436 นาย อาการสาหัส 69 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย 367 นาย มีปืนเอ็ม 16 หายไป 2 กระบอก ปืนลูกซองหายไป 8 กระบอก

"ไม่ทราบว่าหน่วยอื่นเบิกปืนเกินกว่า 10 กระบอกหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าหน่วยของพยานที่ปฏิบัติการบนถนนดินสอไม่มีการใช้ปืนอาก้า โดยบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยามีกำลังทหารอยู่เต็มพื้นที่ และไม่มีกลุ่มนปช.อยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามก่อนเกิดระเบิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ยิงไปทางฝั่งนปช. ในส่วนของหน่วยส่งกระสุนจริงคืนครบเต็มจำนวน ไม่ได้ใช้กระสุนจริงเลย ยืนยันว่ามีทหารยิงปืนขึ้นฟ้าบางส่วน แต่ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยใด"พยานเบิกความ

ภายหลังพยานเบิกความเสร็จ ศาลนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 16 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.



เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. พร้อมด้วยนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. และนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช. เปิดแถลงประจำสัปดาห์ นายวรวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่สามารถ รักษาความสงบได้ มีการเคลื่อนไหว เช่น ขบวนการหน้ากากขาว และการที่พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยผ่าความจริงทุกวันเสาร์ ทั้งหมดเป็นการพยายามยั่วยุให้คนเสื้อแดงโกรธ สร้างความวุ่นวาย และนำไปสู่การแทรกแซงของ กองทัพ จึงขอร้องพี่น้องเสื้อแดงทั้งประเทศอย่าตกหลุมพรางดังกล่าว



นาง ธิดากล่าวว่า ขบวนการหน้ากากขาว และกลุ่มคนที่เรียกร้องขอนายกฯพระราชทาน โดยแต่งตัวเป็นทหารนั้น เป็นเรื่องตลกมาก การเคลื่อนไหวเหล่านี้ เป็นเพียงการใช้สัญลักษณ์ใหม่ๆ เพื่อหวังดึงมวลชนเข้าร่วม แต่ก็เห็นชัดเจนแล้วว่าเป็นแค่คนกลุ่มเดิมๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คนเสื้อแดงไม่อาจจะประมาทได้



"เราดูหมิ่นยุทธศาสตร์ แต่ไม่ประมาทยุทธวิธี" นางธิดากล่าว



นาง ธิดากล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง จะต้องจัดเวทีให้แกนนำแต่ละจังหวัดจัดประชุม เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ตลอดเวลา โดยติดตามจากสื่อของนปช.ส่วนกลาง ยืนยันให้คนเสื้อแดงใช้สติ อย่าตื่นตระหนก และไม่ใช้อารมณ์ตอบโต้ ในส่วนของการเยียวยาผู้ถูกดำเนินคดีที่อยู่ในเรือนจำนั้น ได้เร่งรัดกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำเนินการตามมติครม.แล้ว รวบรวมรายชื่อผู้ถูกดำเนินคดี 77 ราย ในจ.อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ มุกดาหาร และกทม. ประกอบด้วยคดีที่สิ้นสุดหรือศาลยกฟ้องแล้วแต่ยังถูกคุมขัง และคดีที่ถูกคุมขังเกินกว่าที่ศาลพิพากษา ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาทั้งสิ้นรวม 19,700,000 บาท นปช.ไม่ละทิ้งแน่นอน ทั้งนี้ต้องเข้าใจด้วยว่ากระบวนการทางกฎหมายมีขั้นตอน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ทันที



นางธิดาเผยถึงกรณีดีเอสไอมี กำหนดนำตัวนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ส่งอัยการวันที่ 26 มิ.ย.นี้ว่า พอใจมาก ที่กระบวนการเดินหน้ามาถึงขั้นนี้ โดยเฉพาะคดีของนายพัน ด.ช.อีซา และนายสมรที่ไม่ล่าช้าจนเกินไป แต่ไม่อยากให้ดีเอสไอหยุดแค่นี้ ที่ผ่านมาดีเอสไอเร่งในกรณีที่มีคนเสียชีวิต ขณะที่ยังเหลือคดีค้างอยู่อีกกว่า 40 คดี หลายคดีผู้เสียหายไม่เสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ ซึ่งความคืบหน้าในส่วนนี้ยังล่าช้า จึงอยากให้ทยอยทำไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากพยานหลักฐานของคดีทั้งหมดเป็นพยานหลักฐานเดียวกัน



นาง ธิดากล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. นปช.คงไม่เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ จนกว่าจะประชุมกับแกนนำในเร็วๆ นี้ ส่วนคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่เป็นเสื้อแดงอิสระ อาจออกมาเคลื่อนไหวอะไรบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก