ญาติ99ศพดีใจ ถึงอัยการ จ่อฟ้อง"คนสั่ง" อภิสิทธิ์พร้อมสู้

ข่าวสด 16 มิถุนายน 2556


มาร์คลั่นพร้อมสู้ คดี 99 ศพในชั้นอัยการ ญาติเหยื่อปืนพ.ค.53 เผยดีใจ ที่สั่งฟ้องได้เสียที อยากให้คนผิดถูกลงโทษตามกฎหมาย พี่ชาย"พัน คำกอง" อยากเห็นความจริงปรากฏ ไม่ต้องการกฎหมายปรองดอง แต่ต้องการเอาคนผิดมาลงโทษ ด้าน"สมร ไหมทอง" คนขับรถตู้ที่ถูกยิงถล่มจนพิการ ก็อยากให้คนผิดถูกลงโทษตามกฎหมาย



เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายผัน คำกอง พี่ชายนายพัน คำกอง คนขับรถแท็กซี่ ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 หน้าคอนโดมิเนียม ใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ราชปรารภ กล่าวว่า ตนติดตามข่าวมาตลอด เพราะอยากเห็นความจริงปรากฏ ที่ผ่านมาก็คิดตลอดว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร ฝ่ายใดเป็นผู้กระทำ ตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุการณ์มีคนมาบอกว่า เจ้าหน้าที่เป็นคนยิง ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่เมื่อได้ฟังคำเบิกความของแพทย์ที่ชันสูตรพลิกศพ ซึ่งระบุว่าน้องชายถูกกระสุนที่เป็นชนิดเดียวกับของเจ้าหน้าที่ ก็แน่ใจว่าต้องเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อทราบว่าขณะนี้ได้สั่งฟ้องแล้วก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมา สำหรับตนนั้นไม่ต้องการกฎหมายปรองดอง แต่ต้องการเอาคนผิดมาลงโทษ เพื่อความยุติธรรมจะได้เกิดขึ้น ญาติพี่น้องของ ผู้ที่เสียชีวิตก็คงคิดเหมือนกับตน



นายผันกล่าวต่อว่า ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่สั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการนั้น ตนก็เห็นด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ทำตามคำสั่ง หากไม่มีคนสั่งการก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และที่สำคัญถ้าไม่สั่งให้ใช้กระสุนจริงก็คงไม่มีผู้เสียชีวิตขนาดนี้ ตนหวังว่าความยุติธรรมของประเทศไทยน่าจะมีมากพอที่จะสามารถนำผู้ต้องหาไปลงโทษได้ หากผู้ต้องหาต่อสู้จนหลุดคดีไปได้ทุกคนก็คงไม่สบายใจ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ก็ปรากฏชัดเจน



ด้านนายสมศักดิ์ วันแอเลาะห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรสงเคราะห์มุสลิมนานา ชาติ ผู้ดูแล ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 13 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่คดีเข้าสู่การสั่งฟ้องแล้ว ซึ่งตนยังไว้วางใจในการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมอยู่ ในช่วงแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นเป็นผู้กระทำ เพราะคิดว่าอาจเป็นการกระทำของกลุ่มที่ไม่หวังดีกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้ความจริงก็ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องง่าย เพราะการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัตินั้นมีกฎหมายรองรับ คิดว่าเขาคงต่อสู้คดีจนมีทางออก



"ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการนั้นคิดว่าน่าจะถูกดำเนินคดีด้วย เพราะผู้ที่ปฏิบัติย่อมคิดได้ว่าหากกระทำไปแล้วจะมีผลอย่างไร และสามารถยกเลิกการกระทำนั้นได้ เพราะคนไม่ใช่ผักปลาที่จะฆ่ากันง่ายๆ คนที่ฆ่าก็ต้องมีจิตใจที่ไม่ดีเหมือนกัน เพราะคำสั่งออกมาแค่ให้กระชับพื้นที่ แต่คนที่ปฏิบัติทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตนั้นถ้ามีจิตใจดีก็ต้องไม่ทำ สำหรับขั้นตอนการสั่งฟ้องหรือการดำเนินคดีทางอาญานั้นไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว เพราะสิ่งที่สูญเสียไปแล้วไม่สามารถกลับคืนมาได้ ตามกฎของศาสนาอิสลามถ้าได้ผู้กระทำผิดมาและมีการชดใช้ก็ถือว่าจบสิ้นแล้ว แต่หากเป็นขั้นตอนการลงโทษที่เกิดขึ้นในระยะยาวจะถือว่าให้ไปถูกลงโทษในโลกหน้า คือปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรไว้ก้ต้องได้รับผลอย่างนั้น" นายสมศักดิ์กล่าว



ส่วนนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้รับส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ถูกยิงถล่มใส่รถตู้ ที่สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ถนนราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมาตลอด เพราะที่ผ่านมาเขาไม่ยอมรับผิดชอบอะไรเลย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนพิการ ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวได้ รู้สึกดีใจที่สั่งฟ้องได้ อยากให้เขาออกมายอมรับบ้าง ส่วนตัวอยากให้คนผิดถูกลงโทษตามกฎหมาย และคิดว่าคงรอดจากคดีนี้ยาก เนื่องจากมีประชาชนเสียชีวิตนับร้อยคน และมีผู้บาดเจ็บหลายพันคน ถ้าทำผิดแล้วแก้คดีว่าถูกก็คงไม่ใช่ ตนเห็นด้วยที่ไม่สั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ เพราะถ้าเขาไม่สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกมาสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนจริงก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ส่วนตัวเชื่อมั่นกับการดำเนินการของพนักงานสอบสวนกรมสอบ สวนคดีพิเศษ ที่เป็นผู้ทำสำนวนสั่งฟ้อง ซึ่งตนเชื่อว่าหลักฐานมีเพียงพอจะสามารถดำเนินคดีกับเขาได้



ขณะที่นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ กล่าวว่า ในส่วนของกระบวนการส่งฟ้องนี้เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ คงไม่เกี่ยวกับทนายแล้ว เพราะตนที่เป็นทนายญาติผู้ตายก็ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายในส่วนของการไต่สวนการตายเสร็จสิ้นแล้ว แต่คงเข้าไปเป็นโจทก์ร่วมหลังจากที่มีการฟ้อง ในส่วนการสั่งฟ้องคิดว่าเป็นไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในขณะนั้น ว่าร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล เนื่องจากปรากฏชัดว่าทั้งสองมีการออก คำสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธในการปฏิบัติการ



"ขณะนี้สำนวนการสั่งฟ้องไปถึงอัยการแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่คงไม่นาน เพราะทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งอัยการเข้าร่วมสอบสวนด้วย ซึ่งขณะนี้สำนวนสมบูรณ์แล้ว ในส่วนของตนที่ได้รับมอบหมายจากญาติผู้ตายคงต้องทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าต่อไป" นายโชคชัยกล่าว



ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดีเอสไอ เตรียมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อขอให้สั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในกรณีการสั่งสลายการชุมนุมเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเมื่อปี 2553 ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการ เรื่องนี้ตนได้ยื่นฟ้องเป็นคดีอาญากับดีเอสไอและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องถึงอัยการสูงสุดก็สามารถได้ใช้สิทธิ์ร้องขอความเป็นธรรมจากทางอัยการได้