ก่อนเริ่มกล่าวแถลง แกนนำได้ร่วมกันชูป้าย ระบุข้อความว่า เหลืออีก 9 วัน สุเทพมอบตัว เพื่อนับถอยหลังวันที่นายสุเทพ จะไปมอบตัว ตามที่ได้ประกาศไว้ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกิจกรรมนับถอยหลังไปยังวันดังกล่าวด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่เวทีชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ถนนอุทยาน (อักษะ) นายจตุพร พร้อมพันธุ์ ประธานนปช. พร้อม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษา นปช. และแกนนำ ร่วมแถลงการณ์ประจำวัน
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 4 ปี ของการปราบปรามเข่นฆ่าคนเสื้อแดง โดยการสั่งการของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผอ.ศอฉ. และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯในขณะนั้น ซึ่งได้ตกเป็นจำเลยในคดีฆ่าคนตาย และพยายามฆ่าคนตาย บนเวทีการชุมนุมของนปช.วันนี้ จะมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จะมีการไว้อาลัยวีรชน ฉายวิดีทัศน์ยุทธการยิงนกในกรง เพื่อตอกย้ำว่าความตายของคนเสื้อแดงที่เกิดจากการกระทำของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์นั้นไม่อาจลืมได้
นายจตุพร กล่าวต่อว่า กรณีที่นายสุเทพ จะให้สหภาพรัฐวิสาหกิจนัดหยุดงานในวันที่ 22 พ.ค ส่วนข้าราชการประจำ จะให้ผู้มีบารมีไปเชิญข้าราชการประจำ และอดีตข้าราชการมาร่วมกับกปปส.นั้น ตนอยากถามนายสุเทพ ว่า ผู้มีบารมีคนนั้น คือ ใคร เหตุใดจึงมีอำนาจสามารถแทรกแซงการบริหารของรัฐบาลได้ ส่วนที่นายสุเทพ จะสร้างสถานการณ์ให้ทหารเข้ามาทำรัฐประหารนั้น ตนขอเรียนไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าตนยังไม่ได้ยินจากปากของผบ.ทบ. เรื่องการเตรียมการของกองทัพภาคที่ 1 และภาคอื่นๆ ซึ่งมีการเตรียมการเสมือนจะทำรัฐประหาร แต่ได้ยินจากวาสนา นาน่วมเท่านั้น
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ ต้องรู้ว่านายสุเทพ มีข้อหาฆ่าคนตาย พยายามฆ่า กบฏ และก่อการร้าย ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต เป็นคนไม่มีอนาคต ที่ข้าราชการ และอดีตข้าราชการจะไปร่วมเป็นร่วมตายก่อกบฏด้วย เพราะการกระทำของนายสุเทพจะไม่มีวันสำเร็จ และขอเรียนไปยังรัฐบาลรักษาการด้วยว่า ให้เตรียมแผนสำรอง และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตถึงกองทรายของกปปส.ทำขึ้นเป็นบังเกอร์ว่า กปปส.จะไปรบกับใคร เพราะที่ผ่านมา กปปส.บอกว่าไม่มีอาวุธ
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า นปช.จะนัดระดมพลสูงสุดในวันที่ 24-26 พ.ค. นี้เพื่อเดิมพันในวันที่ 27 พ.ค. ไม่ว่านายสุเทพจะดำเนินการใดๆ นปช.จะประมาทไม่ได้ เพราะไม่ได้สู้กับนายสุเทพเพียงคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายขบวนการที่ร่วมสมคบคิด
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กรณีที่ตนได้รับเงินสด 5 ล้านบาท จากผู้หวังดี เพื่อนำไปมอบให้กับคนที่สามารถชี้เบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมนายสุเทพในข้อหากบฏ ตามหมายจับศาลอาญานั้น ความคืบหน้า เมื่อช่วงเย็นวาน ตนได้รับการติดต่อจากพี่น้องเสื้อแดงที่มาถนนอักษะ ว่าจะเพิ่มเงินสดให้อีก 1 ล้านบาท สำหรับเป็นรางวัลนำจับนายสุเทพ โดยผู้ที่ชี้เบาะแสจนถึงจับกุมนายสุเทพได้ จะมีรางวัลเงินสดทันที 4 ล้านบาท ส่วนแกนนำระดับรอง อยู่ที่ 300,000 บาทต่อคน แต่หากหลังจากนี้ ใครต้องการจะเพิ่มรางวัลสำหรับแกนนำคนใดเป็นพิเศษ ให้มาติดต่อได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าหลักการจับกุมควบคุมตัว ต้องเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่การไปจับกุมกันเอง นอกจากนี้ เจ้าของเงินยังตอบรับว่ายินดีมอบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายชื่ออดีตข้าราชการระดับสูงที่เข้าประชุมกับนายสุเทพ ประกอบด้วย สองกลุ่มหลัก กลุ่มแรก เป็นคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เช่นนพ.ไพจิตร์ วราชิต นายสมชาย เสียงหลาย นายปรีชา วัชราภัย ส่วนกลุ่มที่สอง คือ คนที่ออกมาเคลื่อนไหวกับกปปส. ตั้งแต่ต้น จึงสรุปได้ว่า ข้าราชการที่ออกมา ไม่ได้ซาบซึ้งกับแนวทางสุเทพแต่อย่างใด แต่เป็นพวกเดียวกับนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ต้น จึงถือเป็นการจัดฉากอ้างความชอบธรรม ส่วนสหภาพรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเท่าที่เห็นก็เป็นตัวจริง แต่ตนเชื่อมั่นว่า สมาชิกรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่บางส่วน ไม่น่าจะเห็นด้วยกับตัวแทนที่มาประชุมทั้งหมด และมั่นใจว่าคนของรัฐวิสาหกิจจะเป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เอาจรรยาบรรณ ไปรับใช้เป้าหมายทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการ โดยสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แม้พวกตนจะไม่ให้ราคากับคำพูดนายสุเทพ แต่เนื่องจากครั้งนี้ ประชาชนคาดหวังว่านายสุเทพ จะรักษาคำพูด จึงจะชวนประชาชนนับถอยหลังเพื่อรอนายสุเทพมอบตัวไปทีละวัน เพราะเวลานี้ มีความเคลื่อนไหวของแกนนำ อ้างมติประชาชนที่ห้ามไม่ให้ลุงกำนันมอบตัวเพื่อเปิดทางออกให้กับนายสุเทพ พวกเราจึงอาจจะได้เห็นนายสุเทพบอกว่า ตนอยากรักษาคำพูด แต่เนื่องจากเป็นร่างทรงประชาชน จึงต้องทำตามความต้องการของประชาชน
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนสบายใจได้ ว่านปช.จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ไปเผชิญหน้า กปปส. โดยตลอดสัปดาห์นี้ กปปส. จะออกอาละวาดทั่วบ้านทั่วเมือง กดดันประชาชน ส่วนนปช. จะอยู่ในที่ตั้ง แต่เหตุผลที่นปช.ต้องออกมา เพราะไม่อาจยอมรับวิธีการที่เผด็จการได้ หากชัดเจนว่าบ้านเมืองเดินไปตามประชาธิปไตย นปช.ก็พร้อมยุติการชุมนุม กลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาทันที
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า จากการประสานงานรัฐมนตรีหลายท่าน ทั้งที่สังกัดพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล กรณีที่นายสุเทพประกาศจะไล่ รัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งนั้น ตนได้รับคำยืนยันจากทุกพรรคว่า ไม่มีใครคิดจะลาออกตามคำข่มขู่นายสุเทพแม้แต่รายเดียว และเมื่อสักครู่ ก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลสำคัญในรัฐบาลว่าทุกคนจะยืนหยัดรักษาหลักการจนวินาทีสุดท้าย
ด้านอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันรำลึกการสูญเสียในปี 2553 ขอเรียกร้องให้พี่น้องศึกษาการต่อสู้ และตั้งปณิธานร่วมกันว่า ในศึกใหม่ครั้งนี้ นปช. และขบวนการประชาธิปไตย ต้องยืนหยัดอย่างถึงที่สุด และสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรชนให้ประชาธิปไตยในประเทศนี้เติบใหญ่ และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
อ.ธิดา กล่าวต่อว่า ขอให้กองทัพ และฝ่ายปฏิปักษ์สังวรณ์ว่า ที่เคยคิดว่า ถ้าฆ่าคนจำนวนหนึ่งแล้ว คนที่เหลือจะไม่สู้นั้น มันไม่เป็นความจริง เพราะพัฒนาการคนเสื้อแดง มีวุฒิภาวะ มีความเข้าใจ สามัคคี และมียุทธศาสตร์เหมือนกันหมด ศึกครั้งนี้ เป็นศึกที่ประชาชนอยู่บนความถูกต้องชอบธรรมทางการเมือง ขอเตือนกองทัพว่า 4 ปีที่แล้ว นายสุเทพเป็นรัฐบาลสั่งการท่านให้ปราบปรามประชาชนอย่างไร วันนี้นายสุเทพ เป็นกบฏ ทำผิดกฎหมายทั้งหมด กองทัพพิจารณาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ขณะที่ นปช. ปฏิบัติตามกฎหมาย และครรลองประชาธิปไตย ขอให้กองทัพรำลึกเหตุการณ์ 4 ปีที่แล้วด้วยว่า หากคิดทำรัฐประหาร หรือประกาศกฏอัยการศึก จะทำให้เกิดผลใดตามมาบ้าง
(ชมคลิป)