แถลงข่าวนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ในสถานการณ์พิเศษ "ลั่นกรองรบ" 25 เม.ย.(ชมคลิป)








นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการปห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การออกมาเสนอรูปแบบหาทางออกประเทศ ของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยการเดินสายพูดคุยกับกลุ่มต่างๆไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้ มีหลายฝ่ายออกมาเสนอแนวทางเช่นเดียวกันแล้วซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ

นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าแนวทางของนายอภิสิทธิ์นั้นไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ พร้อมกันนี้ได้แนะนำว่า หากนายอภิสิทธิ์ มีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง ควรไปหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.ผู้ต้องหากบฎให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยเดินหน้าพูดคุยกับฝ่ายอื่นๆ

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หากยึดแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ เสนอไม่เกินหนึ่งสัปดาห์เรื่องต่างๆจะเงียบหายไปซึ่งเป็นเพียงการฉวยโอกาสทางการเมืองของคนกลุ่มเดียวกัน ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และม๊อบกปปส.ที่ร่วมกันเล่นละครตบตาคนดู ซึ่งโดยคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่เชื่อแน่นอน

เลขาธิการ นปช.เห็นว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ กำลังทำเป็นการพยายามใช้วาทะกรรมเล่นละครการเมืองโดยมีชื่อเรื่องว่า "อภิสิทธิ์ธนญชัย" ส่วนกรณีที่ตนเองนั้นเสนอทางออกให้กับประเทศโดยสรุปทุกพรรคการเมืองต้องร่วมกันประกาศสัตยาบันสนับสนุนการเลือกตั้งหากพรรคใดไม่ร่วมลงสัตยาบันก็ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง หลังจากการเลือกตั้งแล้วต้องตั้งคณะรัฐมนตรีชุดพิเศษที่มาจากทุกฝ่าย ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่เดินหน้าสร้างกระบวนการปฏิรูปประเทศภายใน 6 เดือนถึง 1 ปีจากนั้นยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ส่วนพรรคการเมืองที่สนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ควรประกาศตัวออกจากการเมืองอย่างเปิดเผยเพื่อให้สังคมเกิดความชัดเจนโดยเชื่อว่าจะแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองได้

 ด้านนายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. กล่าวว่า กรณี นปช.นัดชุมนุมในหลายจังหวัดระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-1 พ.ค. นั้น ปรากฏว่าวันที่ 28 เม.ย. ตรงกับวันฌาปนกิจ ไม้หนึ่ง ก.กุนที นปช.จึงงดชุมนุม 1 วัน เพื่อให้คนเสื้อแดงและแกนนำมาร่วมประชุมเพลิงที่วัดเสมียนนารี เวลาบ่ายโมงตรง โดยกำหนดการชุมนุมใหม่คือ วันที่ 26 เม.ย. จัดที่สนามบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 27 เม.ย. ที่สนามกีฬา อบจ.ชัยภูมิ วันที่ 29 เม.ย. ที่หน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร วันที่ 30 เม.ย. ที่หน้าสนามกีฬากลาง จ.อุตรดิตถ์ วันที่ 1 พ.ค. ที่สนาม ร.ร.พิบูลย์วิทยาลัย จ.ลพบุรี และวันที่ 2 พ.ค. ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี

ทางด้าน อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำนปช.กล่าวถึงสถานการณ์ที่ฝ่ายระบอบอำมาตย์ต้องการจัดการกับรัฐบาลนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะเพียงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีออกไปทั้งหมดเพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองซึ่งเป็นที่เข้าใจของคนทั่วประเทศแล้ว โดยมีกลุ่มคณะบุคคล, องค์กรอิสระ รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งหมดนี้รวมศูนย์มาที่เป้าหมายเดียวคือล้มรัฐบาล ความพยายามในการใช้วิธีการในระบบและนอกระบบที่นำเสนอโดยชนชั้นนำในสังคม พร้อมทั้งมีพิมพ์เขียวดังคำแถลงของ อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เพื่อต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยมีเพียง 50% แทนที่จะเป็น 100%

วิธีการนอกระบบที่ป่าเถื่อน มีความพยายามเด็ดหัวแกนนำทุกระดับ ดังที่เกิดขึ้นกับคุณไม้หนึ่ง ก.กุนที เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และสืบทอดเจตนารมณ์ต่อไป เขาทำให้เราเกิดความกลัวและยอมจำนนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราต้องไม่ยอมจำนนและสุ่มเสี่ยงไร้เดียงสา เพราะเราผ่านศึกร้อนหนาวมามากพอสมควรแล้ว และถามกลับว่าเขาจะเด็ดหัวแกนนำและคนเสื้อแดงหมดทั้งประเทศได้หรือ? ดังคำพูดของเนลสัน แมนเดลา ที่กล่าวว่า “การใช้กำลังอาวุธประชาชนสู้คุณไม่ได้ แต่คุณก็ไม่สามารถฆ่าประชาชนหมดประเทศได้เหมือนกัน” ดังนั้นเมื่อนปช.และคนเสื้อแดงตัดสินใจต่อสู้ เรารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญกับอะไร และประชาชนก็เตรียมพร้อมทุกอย่างที่จะขึ้นมาเป็นแกนนำ

ในกรณีคุณขวัญชัยถูกลอบยิงด้วย “อาก้า” หรือกรณีคุณไม้หนึ่งถึงยิงเสียชีวิต ขอตั้งข้อสังเหตุว่าผู้กระทำเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐหรือองค์กรของประชาชน โดยเฉพาะกรณีคุณขวัญชัยนั้นก็รู้ตัวผู้กระทำผิดทั้ง 6 คนแล้ว ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รีบสืบสวนสอบสวนโดยเร็วและชัดเจน

สุดท้าย อ.ธิดา ขอไว้อาลัยกับองค์กร ปปช. ของประเทศไทยที่เป็นองค์กรอิสระที่ไม่เคยดูตัวเองเลย ไม่ยอมให้ขยายพยานตามที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เสนอ ไม่ยอมทำคดีของนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับฟ้องร้องและร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับคนเสื้อแดงในหลาย ๆ คดี