แถลงข่าว "ถลกหนังเทือก" 15 เม.ย.(ชมคลิป)








ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว   นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงเมื่อวันที่ 15 เมษายนว่า เหลือเวลาวันที่ 15-16 -17 เมษายน  และในวันที่ 17 เมษายน  ที่จะได้แถลงกันอีกครั้ง ถ้าถูกถอนประกัน   จะได้แบ่งภาระหน้าที่ให้คนที่เหลือดูแลกันต่อไป แต่อย่าได้ไปวิตกใดๆ ทั้งสิ้น คนเสื้อแดงไม่มีอะไรที่น่าหวาดหวั่น หลังเหตุการณ์เมื่อปี 2553 นั้น เคยถูกถอนประกันทุกสัปดาห์   เพราะต้องการบีบให้ออกนอกประเทศให้ได้ ฉะนั้น อยากถอนก็ถอน ไม่หวั่นไหว

นายจตุพรกล่าวว่า ความหมายของการเจรจากรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสไกป์นั้น เป็นการเจรจาที่อยู่ภายใต้หลักประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่มีการเจรจาในระบอบอื่น เพราะฉะนั้นในหลักการของประชาธิปไตยก็คือ อำนาจเป็นของประชาชน ต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง อย่างที่นปช.ประกาศมาตั้งแต่ต้นว่าทุกคนมีสิทธิที่จะเจรจาพูดคุยกัน   แต่รู้ในข้อจำกัดและเป้าหมายของเราก็คือภายใต้กติกาประชาธิปไตย จะไปเจรจานอกเหนือจากนี้ประชาชนก็จะไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้จึงเน้นว่าต้องเจรจาภายใต้กติกาของประชาธิปไตยเท่านั้น

“ผมไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเจรจากับใครบ้าง และไม่ว่าใครจะไปเจรจากับใครก็ต้องภายใต้กติกาประชาธิปไตย คนไทยอย่างไรเราก็แยกแผ่นดินอยู่กันไม่ได้ ต้องอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงสามารถพูดคุยกันได้และไว้ใจกันภายใต้หลักการนี้ ใครที่เจรจานอกเหนือจากหลักการประชาธิปไตยก็จะได้รับการต่อต้านจากประชาชน ซึ่งนายกฯ  ทักษิณเข้าใจตรงจุดนี้เป็นอย่างดี” นายจตุพรกล่าว
 
นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่มรัฐบุคคลเป็นการรวบรวมกลุ่มที่เคยร่วมกับพวกสนามม้าเมื่อก่อน เป็นการแถลงต่างกรรมต่างวาระ คือเป็นกลุ่มที่ต้องการยึดเอาอำนาจจากประชาชน ความจริงก็คือเข้าข่ายการก่อกบฏในราชอาณาจักรแล้ว ด้วยข้อเสนอตั้งแต่ครั้งแรก  ความจริงในกลุ่มรัฐบุคคลหลายคนในนั้นช่วงรับราชการก็เป็นราชการที่ดี แต่บั้นปลายของชีวิตนั้นก็ต้องมาเสียคนเพราะไปเสนอในสิ่งที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้จึงได้รับการประณามและไม่มีวันแปลง
  

“ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วยิ่งเดินไปตามแนวทางที่ว่านั้นยิ่งก่อให้เกิดปัญหา และไม่ได้เป็นผลดีอะไรกับประเทศ และผมเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้” นายจตุพรกล่าว

สำหรับ พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด  แกนนำคณะรัฐบุคคล ที่เสนอว่าจะให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ศาลและผู้นำสูงสุดมาเจรจาเพื่อที่จะหาทางออกนั้น
  
นายจตุพรกล่าวว่า พูดง่ายๆ ก็คือมาตรา 7 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง ฉะนั้นถ้าพูดถึงวิธีการดังกล่าว  เวลานี้ถูกออกแบบไว้มากมาย เช่น การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สถาปนาตัวเองเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ จะเป็นผู้เสนอชื่อกราบบังคมทูลเอง แต่งตั้งรัฐมนตรีเอง แต่งตั้งสภาเอง หรือแม้แต่กระทั่งจะให้รองประธานวุฒิสภากระทำหน้าที่ รองประธานวุฒิไม่ได้มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นแล้วแต่ละฝ่ายก็กำลังหาทางจัดการ คือนอกจากหาทางให้เกิดสุญญากาศแล้ว ยังพยายามหาทางเข้ามาสู่อำนาจ

“เราเองก็เห็นว่าข้อเสนอของพลเอกสายหยุด ซึ่งสนิทกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เป็นประธานกับเลขาธิการพีเน็ต ตั้งแต่ครั้งแรกมากระทั่งเมื่อวานนี้ (14 เมษายน) ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นข้อเสนอที่อยู่ภายใต้กติกาประชาธิปไตย แต่ทั้งนี้ก็ต้องการรวบอำนาจ ปล้นเอาอำนาจของประชาชนไป มันจึงไม่ใช่ทางออกแต่เป็นวิกฤตของประเทศ” นายจตุพรกล่าว
  

นายจตุพรกล่าวว่า ในตอนที่เหล่าทหารไปรดน้ำขอพรพลเอกเปรมนั้นพลเอกเปรมได้พูดกับทหารว่า กองทัพกำลังมีงานใหญ่ ต้องทำให้สำเร็จ หลังจากนั้นรัฐบุคคลจึงดำเนินเกมต่อให้พลแอกเปรมเรียกให้เจรจาหาทางออก     จึงขอเรียนไปยังพลเอกเปรมว่า  ไม่ว่าจะเป็นแต่งตั้งนายกคนใหม่ ไม่ว่าจะออกมามุมใดก็ตาม ไม่ว่าจะมีความหมายถึงรัฐประหารหรือใช้นายกฯมาตรา 7 คนเสื้อแดงจะลุกขึ้นมาต่อต้านอย่างสุดชีวิต พลเอกเปรมต้องรู้ไว้ว่าทางออกเดียวเท่านั้นคือประชาธิปไตย


นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพลเอกเปรมต้องการทำคุณูปการให้กับประเทศไทย ต้องส่งเสียงบอกพลเอกสายหยุดและคณะว่าตนเองไม่มีอำนาจ ตำแหน่งรัฐบุรุษนั้นไม่สามารถจะกระทำการดังกล่าวได้ แต่ถ้าพลเอกเปรมเกิดรู้เห็นเป็นใจ คนเสื้อแดงก็ขอเดินหน้าสู้กับพลเอกเปรมต่อไป

 สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ถ้าบอยคอตอีกจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ให้นึกถึงวันของตัวเองบ้าง ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าชาติ 

 สำหรับการดีเดย์ ชุมนุมของ กปปส. เป็นวันที่คนเสื้อแดง จะนัดชุมนุมวันเดียวกันกับที่ศาลรัฐธรรมนูญ ให้พี่น้องติดตามกันให้ดีว่าเป็นวันไหน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะใช้ถนนอักษะทั้งสายเป็นตัวตั้งต้นของการนัดหมายในการชุมนุม เพราะฉะนั้นขอให้ติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด พี่น้องมามือเปล่า มาต่อสู้กันอย่างสันติวิธี ผมอยากให้พลเอกเปรมและรัฐบุคคลได้เห็นวันที่เราได้นัดหมาย